กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--ไพร้ซ์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส
ไพร้ซฯ นำทีมสำรวจบริษัทประกันทั่วโลก 64%มั่นการบริหารความเสี่ยงช่วยรักษาผลประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้น อีก5%เชื่อมีส่วนช่วยตัดสินใจเพื่อกลยุทธ์ทางธุรกิจ
ไพร้ซวอเตอร์เฮ้าสคูเปอร์สสำรวจบริษัทประกันภัยชั้นนำทั่วโลก 44บริษัท จากทวีปเอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกาเหนือ ภายใต้หัวข้อ 'การบริหารความเสี่ยงองค์กรโดยรวมในภาคธุรกิจประกัน' ส่วนใหญ่เชื่อว่าการบริหารความเสี่ยงองค์กร (Enterprise Risk Management หรือ ERM) ถือเป็นเรื่องสำคัญระดับต้นๆที่ผู้บริหารระดับกรรมการของบริษัทต้องนำมาใช้ในวาระการประชุม เนื่องจาก ERM เป็นตัวผลักดันสำคัญในการแข่งขันในเชิงธุรกิจ แต่ยังมีปัญหาคือช่องว่างระหว่างแผนงานและการนำไปปฏิบัติจริง
ในปัจจุบันองค์กรต่างๆที่กำกับดูแลงานด้านการประกันภัยได้มีการผลักดันและกำหนดข้อบังคับในการนำ ERMเข้ามาใช้ในองค์กรอย่างจริงจังหลังจากเกิดเหตุการณ์ล่มสลายของธุรกิจใหญ่ๆ ที่ผ่านมา บริษัทประกันชั้นนำต่างๆที่ได้นำ ERMเข้ามาใช้นั้น พบว่านอกจากจะช่วยบริหารความเสี่ยงต่าง ๆแล้ว ยังสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับกลุ่มลูกค้าของบริษัท อีกทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณท์ใหม่ ๆ นอกเหนือจากเป้าหมายทางการเงินอีกด้วย
จากผลการสำรวจพบว่าผู้บริหารในระดับประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ และกรรมการเห็นความสำคัญของ ERM ว่าเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันทางธุรกิจ 57%ของผู้ตอบแบบสำรวจ ระบุว่าได้มีการนำ ERM เข้ามาใช้ในการทำงานอย่างจริงจัง โดยผู้อำนวยการด้านงานบริหารความเสี่ยงมีหน้าที่รายงานประเด็นต่างๆต่อกรรมการโดยตรงอย่างสม่ำเสมอ อีก64% มีความเชื่อว่า ERMสามารถรักษาผลประโยชน์ให้กับผู้ถือหุ้น และที่เหลืออีก 5% ถึงกับนำ ERM มาใช้ประกอบการตัดสินใจเพื่อกลยุทธ์ทางธุรกิจ
ผลจากการสำรวจยังระบุอีกว่า หากองค์กรต่าง ๆที่นำการบริหารความเสี่ยงมาใช้จะได้รับผลประโยชน์ในภาคธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นหากจะนำ ERMไปใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นที่จะต้องมีกรอบการทำงานที่ดี รวมทั้งมีการดำเนินงานควบคู่ไปกับการกำกับดูแล ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับนโยบายขององค์กร หัวใจสำคัญที่จะทำให้การบริหารความเสี่ยงสำเร็จได้นั้น จะต้องมาจากความสามารถขององค์กรที่จะชี้ให้เห็นปัจจัยเสี่ยงต่างๆ จากขั้นตอนและกระบวนการที่ไม่มากจนเกินไป 74% ของผู้ตอบแบบสำรวจแนะว่าผู้บริหารระดับสูงและกรรมการต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการวางระบบ ERMด้วย ในส่วนงานบริหารควรเป็นการบริหารงานจากส่วนกลาง และควรมีคณะกรรมการด้านงานบริหารความเสี่ยงเข้ามาดูแลทั้งภาพรวมองค์กรและในแต่ละหน่วยงาน ต้องมีการทำความเข้าใจร่วมกันและมีการสื่อสารภายในหน่วยงานจนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรในที่สุด อีกทั้งต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยทางด้านการเงิน เช่น การลงทุน เครดิต และการประกันความเสี่ยง รวมทั้งปัจจัยที่ไม่ใช่ตัวเงิน อาทิ การละเมิดกฎเกณฑ์ทางธุรกิจ และชื่อเสียงขององค์กร ฯลฯ
"การบริหารความเสี่ยงองค์กรจะมีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากธุรกิจด้านประกันภัย นับวันยิ่งมีการแข่งขันที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นบริษัทประกันจะต้องเพิ่มขีดความสามารถของตนเองในการประเมินความเสี่ยง การวิเคราะห์และการตอบสนองต่อความเสี่ยงต่างๆ ERMได้เข้ามามีบทบาทในการเพิ่มความแข็งเกร่งในการสร้างรายได้รวมทั้งการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจอีกด้วย" นายบุญมี งดงามวงศ์ หุ้นส่วนสายงานด้าน บริษัทไพร้ซวอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าว
ผู้นำทางธุรกิจยังชี้ให้เห็นอีกว่าสถานการณ์ตลาดในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นการนำการบริหารความเสี่ยงเข้ามาปรับใช้ ต้องนำทั้งส่วนปัจจัยที่เป็นการเงินและด้านอื่นๆ มารวมกันให้อยู่ในกรอบการกำกับ ดูแลและต้องมีการควบคุมอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่นักธุรกิจจะต้องตระหนักก็คือการบริหารความเสี่ยงองค์กรนั้นไม่มีรูปแบบที่เป็นมาตรฐานเนื่องจากในแต่ธุรกิจจะมีรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับแต่ละองค์กรเท่านั้น
ในปัจจุบัน บริษัทประกันหลายแห่งยังมีปัญหาด้านโครงสร้างองค์กรที่มีความจำเป็นต่อพนักงาน ขั้นตอนการดำเนินงาน รวมทั้งเทคโนโลยี ซึ่งเป็นผลให้ไม่สามารถทำผลประโยชน์กำไรได้อย่างเต็มที่ จากการสำรวจพบว่าบางส่วนขององค์กรยังต้องการการแก้ไขปรับปรุงด้านโครงสร้าง เช่น การนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องความเสี่ยงขององค์กรมาใช้ในการวางแผนธุรกิจ อีก26% ชี้ว่าตนเองได้ทำการตรวจสอบภายในและทบทวนความเสี่ยงเข้ามาปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นมีเพียง6% ของผู้ร่วมวิจัย ตอบว่าองค์กรของตนได้ทำการทบทวนความเสี่ยงในทุกๆด้านและทำการตรวจสอบทั้งแนวนโยบายและขั้นตอนการบริหารความเสี่ยง อันนับได้ว่าเป็นส่วนประกอบความสำเร็จที่สำคัญ
เกี่ยวกับบริษัทไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สประเทศไทย
ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สประเทศไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2502 ได้ช่วยเหลือธุรกิจไทยมานานกว่า 44 ปี โดยผสมผสานประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรในประเทศไทยและความเชี่ยวชาญจนเป็นที่ยอมรับในภูมิภาคเอเชีย ผนวกกับเครือข่ายของไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สทั่วโลก ทำให้ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สได้รับความวางใจจากธุรกิจต่างๆจนเป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก ปัจจุบันบริษัทแบ่งธุรกิจออกเป็นสามกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ บริการด้านการสอบบัญชี บริการที่ปรึกษาทางธุรกิจ และบริการที่ปรึกษาด้านกฎหมายและภาษี
ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส มีพนักงานกว่า 120,000 คนใน 139 ประเทศ ในประเทศไทยมีกว่า 1,000 คน ทุกคนที่ทำงานบนพื้นฐานแห่งความซื่อสัตย์และยึดหลักจรรยาบรรณ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ :
วิสาลินี วังวิทยา
บริษัทไพร้ซ์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส จำกัด
โทร.0-2344-1000 ต่อ 1317 แฟกซ์ 0-2286-4440
wisalinee.wangwittaya@th.pwc.com--จบ--
-นท-