กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
เที่ยวบินส่งมอบเครื่องโบอิ้ง 777-300อีอาร์เครื่องใหม่ล่าสุดของสายการบินเอทิฮัดจากเมืองซีแอตเทิลสู่อาบูดาบีในวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ถือเป็นเที่ยวบินแรกในคาบสมุทรอาหรับที่ใช้เชื้อเพลิงพลังงานชีวภาพในการบิน
เที่ยวบินส่งมอบเครื่องบินลำใหม่ล่าสุดของเอทิฮัดซึ่งเป็นเครื่องบินระยะไกลที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย ใช้เวลาในการบิน 14 ชั่วโมงโดยใช้เชื้อเพลิงแบบปกติผสมกับเชื้อเพลิงชีวภาพสำหรับการบิน ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการรับรองให้สามารถดำเนินการทางพาณิชย์ได้เป็นที่เรียบร้อย
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “เที่ยวบินดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สำคัญ ที่แสดงให้เห็นถึงการให้การสนับสนุนในอุตสหากรรมการบินแบบยั่งยืนทั้งใน อาบูดาบี ในระดับภูมิภาค และระดับโลก”
“อย่างไรก็ตาม การใช้พลังงานเชื้อเพลิงทางชีวภาพในครั้งนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ เพื่อทำให้เป็นที่แน่ใจว่าเราสามารถใช้พลังงานเชื้อเพลิงทางชีวภาพในอุตสาหกรรมการบินได้ในระยะยาว”
บริษัท SkyNRG แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ตั้งอยู่เมืองอัมสเตอดัม เป็นผู้จัดหาและจัดส่งเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยเชื้อเพลิงจะได้มาจากน้ำมันพืชที่ใช้ทำอาหารที่ผ่านการใช้การแล้ว ถือเป็นการใช้ทรัพยากรที่ได้มาจากธรรมชาติอย่างยั่งยืน
มร. เดิร์ก โครเนไมเยอร์ ผู้อำนวยการบริษัท SkyNRG กล่าวว่า “เราคิดว่าภูมิภาคตะวันออกกลางมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมในการช่วยส่งเสริมด้านการใช้พลังงานเชื้อเพลิงเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน สำหรับเที่ยวบินของสายการบินเอทิฮัดนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการเพิ่มความตระหนักให้กับภูมิภาค และการใช้เชื้อเพลิงเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมกำลังจะได้รับความนิยมในทวีปนี้ ซึ่งเราได้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว”
โบอิ้งได้ให้การสนับสนุนในการเริ่มใช้พลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ผ่านใช้เชื้อเพลิง ‘fly-away’ ซึ่งมีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ ในเที่ยวบินส่งมอบเครื่องบินใหม่ทุกๆลำ
การรักษาสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืนคือจุดประสงค์หลักของการผลิตพลังงานชีวภาพ ในฐานะที่สายการบินเอทิฮัดเป็นหนึ่งในสมาชิกของ Sustainable Aviation Fuel Users Group ที่ได้ตกลงร่วมกันปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมถึงแสวงหาโอกาสในการพัฒนาและการใช้พลังงานชีวภาพ และในขณะเดียวกันก็ต้องตรวจสอบจนแน่ใจได้ว่าการใช้พลังงานทดแทนนี้ไม่ได้ทำลายระบบนิเวศน์และไม่ส่งผลต่อแหล่งน้ำดื่ม
ส่วนหนึ่งของข้อตกลงร่วมกันดังกล่าว ถือเป็นการช่วยในการพัฒนาศักยภาพของวัตถุดิบที่ใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในอาบูดาบี ทั้งนี้สายการบินเอทิฮัดเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งสถาบันเทคโนโลยีมาสดาร์ด้าน Sustainable Bioenergy Research Consortium (SBRC) ในกรุงอาบูดาบี โดยให้การสนับสนุนด้านการเงินสำหรับการศึกษาค้นคว้าในการนำพืชที่มีความทนทานต่อน้ำทะเลมาเป็นพื้นฐานของพลังงานทดแทนด้านการบินราว 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสายการบินอื่นๆยังได้ร่วมให้การสนับสนุนในด้านต่างๆอีกด้วย
ปัจจุบันมีการออกกฎการเรียกเก็บภาษีจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในธุรกิจสายการบิน ดังนั้นการหันมาใช้พลังงานชีวภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งขึ้นไปอีก กฎการค้าสิทธิ์การปล่อยมลพิษของสหภาพยุโรปได้บังคับให้ธุรกิจสายการบินทั้งหมดจ่ายค่าภาษีในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกซ์ไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป นอกจากนั้นอาจขยายผลการบังคับใช้สู่อุตสาหกรรมอื่นทั่วทุกมุมโลก พลังงานชีวภาพได้รับการพิจารณาเป็น “คาร์บอนสมดุล” (carbon neutral) เนื่องจากมวลชีวภาพมีการใช้คาร์บอนในการเจริญเติบโต ก่อนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกซ์ไซด์กลับสู่ชั้นบรรยากาศอีกครั้งในกระบวนการสันดาป การใช้พลังงานชีวภาพจึงได้รับการยกเว้นจากกฎข้อบังคับใหม่ของสหภาพยุโรป
สำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ
เชิญขวัญ ธเนศานนท์
บริษัท โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0 2260-5820 ต่อ 113 โทรสาร 0 2260-5847-8 อีเมล์ ploy@tqpr.com