กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ วงเงิน 20,000 ล้านบาท อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.5% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท มั่นใจสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ในการลงทุนในตราสารหนี้จากสถาบันที่มีรากฐานและฐานะทางการเงินที่มั่นคงแข็งแรง โดยเป็นธนาคารไทยแห่งแรกของประเทศ มีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เจริญเติบโตเป็นธนาคารชั้นนำที่มีผลประกอบการโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดจองแก่ประชาชนทั่วไปที่สนใจลงทุนระยะยาวกับสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ ระหว่างวันที่ 17- 23 กุมภาพันธ์ 2555 ผ่านทุกสาขาทั่วประเทศ
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า “ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างโดดเด่น เห็นได้จากผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและสูงสุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของประเทศจากผลประกอบการปี 2554 ที่ผ่านมา สำหรับก้าวต่อไป ธนาคารมีเป้าหมายระดมทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อและธุรกิจในอนาคต โดยอยู่ในระหว่างยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการออกหุ้นกู้ ด้อยสิทธิ ประเภทไม่มีหลักประกัน อายุ 10 ปี เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป ในวงเงิน 20,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.5% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ชำระเงินต้นครั้งเดียว ครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 โดยธนาคารมีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนด ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับจาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ที่ระดับ AA- (tha) เงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ดังกล่าวจะถูกนับเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 2 ของธนาคารซึ่งถือเป็นการเสริมความแข็งแกร่ง ธนาคารเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่สนใจการลงทุนและการออมเงินในระยะยาวในตราสารจากสถาบันที่มีความมั่นคง ความเสี่ยงในระดับต่ำ นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับตราสารระยะยาวอื่นๆ ผู้สนใจสามารถจองซื้อหุ้นกู้หรือรับหนังสือชี้ชวนผ่านธนาคารไทยพาณิชย์กว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 17-23 กุมภาพันธ์ 2555 นี้
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ก่อตั้งมานานถึง 105 ปี ถือหุ้นใหญ่โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และกระทรวงการคลัง มีมูลค่าตลาดรวม (Market Capitalization) สูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มสถาบันการเงิน (396 พันล้านบาท) และสามารถสร้างกำไรจากการผลดำเนินงานได้สูงเป็นประวัติการณ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในปี 2554 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 36,000 ล้านบาท สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ผลตอบแทน ROE สูงกว่า 20 % รวมทั้งสามารถบริหารคุณภาพสินทรัพย์ได้ดีอย่างต่อเนื่อง และได้รับรางวัลธนาคารยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย (ปี 2549-2554) จาก Global Finance สหรัฐอเมริกา