กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ระยะยาวที่ระดับ "A-(tha)" และระยะสั้นที่ระดับ "F2(tha)" แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ
อันดับเครดิตของ BAFS สะท้อนถึงความเป็นผู้นำในการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานในประเทศไทย รวมถึงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เดินทางมาที่กรุงเทพ ปัจจุบัน BAFS เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในการเติมน้ำมันอากาศยานของท่าอากาศยานสากลกรุงเทพหรือสนามบินดอนเมืองโดยมีการทำสัญญาระยะยาวกับลูกค้า การเปิดใช้ท่าอากาศยานนานาชาติแห่งใหม่หรือสนามบินสุวรรณภูมิ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2548 เพื่อรองรับเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศทั้งหมด จะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของ BAFS เนื่องจากขนาดของสนามบินใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานของ BAFS ที่สนามบินดอนเมืองคาดว่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากสนามบินใหม่เปิดดำเนินการถึงแม้จะยังมีการให้บริการในส่วนของการขนส่งสินค้าทางอากาศและศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่งและการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท นอกจากนี้ BAFS ยังมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง BAFS มีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (Net Debt/EBITDA)ที่ระดับ 2.2 เท่า ณ สิ้นปี 2546 ขณะที่อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย ต่อดอกเบี้ยจ่ายที่รวมดอกเบี้ยระหว่างการก่อสร้าง (EBITDA/Interest plus Capitalised Interest Expenses) อยู่ที่ 16.5 เท่า
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มระดับหนี้สินของ BAFS น่าจะเพิ่มขึ้นในระยะสองปีข้างหน้า อันเป็นผลมาจากการลงทุนใหม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดย BAFS มีแผนจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2.2 พันล้านบาทในปี 2547-2548 สำหรับการพัฒนาระบบการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานให้ครบวงจร ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งประกอบด้วยการก่อสร้างคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (Main Depot) การก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำมันอากาศยานระบบ Hydrant และระบบเติมน้ำมันแก่เครื่องบิน (Intoplane Service) ดังนั้นอัตราส่วน Net Debt/EBITDA ของ BAFS คาดว่าจะลดความแข็งแกร่งลงอยู่ที่ระดับ 5.0-6.0 เท่าในระยะปานกลาง แต่อัตราส่วนดังกล่าวน่าจะปรับตัวดีขึ้นมาที่ระดับ 2.5-3.5 เท่าในปี 2549-2550 ภายหลังจากที่สนามบินสุวรรณภูมิเปิดดำเนินการแล้ว ในกรณีที่การก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่เกิดความล่าช้ากว่าที่กำหนด คาดว่าจะมีผลกระทบในเชิงลบต่อระดับหนี้สินของ BAFS นอกจากนี้การแข็งค่าของเงินบาทอาจมีผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของ BAFS เนื่องจาก BAFS มีฐานรายได้ที่อิงกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจุบัน BAFS เป็นบริษัทให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน ณ สนามบินดอนเมืองแต่เพียงผู้เดียว โดยดำเนินธุรกิจทางด้านคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ธุรกิจระบบท่อส่งน้ำมันใต้ดินเข้ามาที่หลุมจอดภายในสนามบิน และธุรกิจให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแก่เครื่องบิน โดย BAFS มีสัดส่วนการให้บริการกว่าร้อยละ 95 ของปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานทั้งประเทศ ในส่วนของการลงทุนที่สนามบินสุวรรณภูมิ BAFS จะเป็นผู้ให้บริการแต่เพียงรายเดียวสำหรับคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานและระบบท่อส่งน้ำมันอากาศยานระบบ Hydrant ในขณะที่ BAFS เป็นหนึ่งในสองผู้ที่ได้รับสัมปทานระบบเติมน้ำมันแก่เครื่องบิน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BAFS ประกอบด้วย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นที่เป็นบริษัทน้ำมันต่างประเทศ โดยมีสัดส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่รวมกันประมาณร้อยละ 63 BAFS จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อ ปี 2545 และมีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดเท่ากับ 4.0 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2547
สำหรับรายงานฉบับสมบูรณ์ของ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หาได้จาก www.fitchratings.com หรือ ติดต่อ
วสันต์ ผลเจริญ +662 655 4763
เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล +662 655 4760
Vincent Milton +662 655 4759
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้--จบ--
-นห-