CCP ประกาศผลการดำเนินงานรอบปี 2546 เติบโตกว่า 48% กำไร 151 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Tuesday March 23, 2004 13:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
CCP ประกาศผลการดำเนินงานรอบปี 2546 เติบโตกว่า 48% กำไร 151 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าเติบโตอีกกว่า 30% จากการขยายตัวของภาคก่อสร้าง
บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP อนาคตสดใส ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2546 มีรายได้ 1,266 ล้านบาท เติบโตกว่า48% จากปีก่อน คิดเป็นกำไร 127 ล้านบาท จาก 49 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน พร้อมตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 30% จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากภาคการก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชน
นายประทีป ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทประจำปี 2546 ที่ผ่านมาว่า บริษัทมีลักษณะการเงินที่เข้มแข็งขึ้นจากปี 2546 อย่างมาก โดยในปี 2546 บริษัทมีหนี้สินต่อทุนเพียง 1.03 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2545 มีหนี้สินต่อทุน 26.5 เท่า ทั้งนี้เป็นเหตุเนื่องมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ทั้งในด้านยอดขาย กำไรและกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โดยในปี 2546 บริษัทมีรายได้ทั้งสิ้น 1,266 ล้านบาท เติบโตกว่า 48% เมื่อเปรียบเทียบจากยอดขายจาก 852 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 127 ล้านบาท จาก 49 ล้านบาทในปีก่อนหน้า คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 259% ทั้งนี้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานก็ปรับตัวดีขึ้นจากปี 2545 จาก 55 ล้านบาท ในปี 2546 มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสุทธิ 109 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมองถึงภาวะของอุตสาหกรรมก่อสร้างและการแข่งขันในปี 2547 ว่า การเติบโตจากทางด้านรัฐบาล ในปี 2546 เป็นปีที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วของภาคการก่อสร้าง ซึ่งเห็นได้ชัดจากช่วงครึ่งปีหลังของปี 2546 ทั้งนี้เหตุปัจจัยโดยหลักมาจากการลงทุนของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม การลงทุนของภาครัฐที่ผ่านมาคิดเป็นเพียง 25 % ของ GDP ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรัฐบาลลงทุนประมาณ 40 % ของ GDP ด้วยดรรชนีดังกล่าวเชื่อว่ารัฐบาลยังมีการลงทุนที่ต่ำมาก ทั้งนี้ บริษัทมองว่า รัฐจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันภาคการก่อสร้าง โดยดูจากการลงทุนของภาครัฐทั้งหมดจะไปอยู่ที่ภาคการก่อสร้างถึง 70 % บริษัทเชื่อว่า ในปี 2547 จะมีการใช้จ่ายทางการลงทุนของภาครัฐเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 19 %
เหตุที่ทำให้เชื่อว่าการก่อสร้างของภาครัฐจะเป็นจริง เนื่องมาจากการเติบโตของ GDP ทำให้รัฐบาลสามารถเก็บภาษีรายได้ และภาษีมูลค่าเพิ่มได้สูงกว่ารายจ่าย ซึ่งทำให้งบประมาณรัฐบาลแม้ว่าจะมีการลงทุนอย่างสูงแต่ยังมีการเกินดุลอยู่ ซึ่งทั้งนี้จากข้อมูลในอดีตของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้เชื่อได้ว่า งบประมาณของรัฐบาล จะยังคงเกินดุลไปจนถึงปี 2548 ซึ่งโครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลประกาศที่จะลงทุนจะไม่ถูกชะลอ อย่างไรก็ตาม ในปี 2547 นั้น มีอุปสงค์ของงานก่อสร้างเกิดขึ้นแล้วจากโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปี 2548
การใช้จ่ายของรัฐบาลในปี 2547 งบประมาณส่วนใหญ่จะถูกจัดสรรไปทางด้านการขนส่งมวลชน อันเนื่องมาจากในปี 2545 มียอดการซื้อยานพาหนะภายในเขต กทม. และปริมณฑลสูงขึ้น 38 % และเพิ่มสูงขึ้นอีก 30% ในปี 2546 ซึ่งแน่นอนเหลือเกินว่ารัฐบาลจะลงทุนเพื่อบรรเทาภาวะการจราจรติดขัด
การเติบโตทางด้านภาคเอกชน ตั้งแต่ปี 2545 มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในภาคที่อยู่อาศัย โดยในปี 2546 จะเห็นได้ว่า มีการเติบโตอย่างมากทางด้านบ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป อย่างไรก็ตามในปี 2547 บริษัทคาดว่าการเติบโตทางด้านที่อยู่อาศัยจะอยู่ในเขตรอบนอก กทม. และจังหวัดใกล้เคียงในปี 2547 จากการสำรวจคาดว่า บ้านราคา 3-5 ล้านบาท จะเป็นบ้านที่ได้รับความนิยม
การเติบโตทางด้านภาคอุตสาหกรรม บริษัทคาดว่าจะมีการเติบโตทางด้านโรงงานอุตสาหกรรมค่อนข้างสูงในปี 2547 เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวค่อนข้างเร็ว ทำให้ บริษัททั้งหลายไม่สามารถปรับกำลังการผลิตได้ทัน ทั้งนี้ โดยข้อมูลอ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ธุรกิจในหลาย ๆ อุตสาหกรรม ได้มีการใช้กำลังการผลิตเกือบ 100 % ซึ่งคาดว่าหาก GDP ยังคงมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีโรงงานส่วนใหญ่จะมีการขยายกำลังการผลิต
ทางด้านภาคเอกชนมีการลงทุนโดยเฉลี่ยอยู่ประมาณ 800ล้านล้านบาท/ปี บริษัทเชื่อว่า ยอดการลงทุนของภาคเอกชน สามารถโตได้ถึง 1,200 ล้านล้านบาท/ปี โดยคาดว่าจะเป็นภาคการก่อสร้าง 300 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่า ภาคที่จะมีการเติบโตทางด้านอุตสาหกรรมอย่างสูงน่าจะเป็นภาคตะวันออก ทั้งนี้เนื่องจากมาจากนโยบายของรัฐบาล ที่มีการส่งเสริมให้ภาคตะวันออกเป็นศูนย์อุตสาหกรรมทางด้านปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมยานยนต์ นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟรางคู่ในเขตภาคตะวันออกนี้ด้วย และโดยธรรมชาติแล้ว ภาคตะวันออกยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมอันได้แก่ ท่าเรือน้ำลึกซึ่งทำให้โรงงานในเขตดังกล่าว สามารถส่งสินค้าได้ทั้งขาเข้ากรุงเทพและขาส่งออก
จากแนวโน้มการเติบโตจากโครงการก่อสร้างทั้งของภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มมากขึ้น และมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องดังกล่าว จะเป็นโอกาสของบริษัทในการเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการต่าง ๆ เหล่านั้น ทำให้ในปี 2547 นี้ บริษัทจึงได้ตั้งเป้าเติบโตไว้ 30%
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :
จิดาภา ประมวลทรัพย์, นันทพร บุญ-หลง, วรรณารี ศิลปงาม
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร. 0-2276-8432-3, 0-2693-7835-8 ต่อ 32, 38,42, 0-1817-7153
โทรสาร 0-2693-6919-20
E-mail: info@siampr.co.th--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ