กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--สมาคมอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันภัยพิบัติ
สมาคมอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันภัยพิบัติ (ANDPI) โดยการสนับสนุนจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท เฮสโค แบสชั่น จำกัด (Hesco Bastion) ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านเทคโนโลยีอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม จากประเทศอังกฤษ และบริษัท เดอะเรด คาร์เปดฯ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการจัดงานสัมมนาระดับนานานาชาติ จากประเทศสิงคโปร์ จะได้จัด การประชุมสัมมนาเพื่อป้องกันภัยพิบัตินานาชาติ ครั้งที่ 1 ในวันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 09.00-17.00 น. ณ โรงแรมแชงการีล่า เขตบางรัก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และเทคโนโลยี ซึ่งจะสามารถนำมาใช้ในการป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยในเบื้องต้นจะเน้นในกลุ่มผู้ประกอบการ, ภาครัฐ และในกลุ่มธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ นายปรานต์ สยามวาลา นายกสมาคมอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันภัยพิบัติ (ANDPI) ได้กล่าวถึงการเกิดปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติว่า “ในทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่ได้ก่อกำเนิดมนุษยชาติขึ้นมา โลกไม่เคยมีประชากรมากกว่า 2 พันล้านคน ค่าคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีปริมาณสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศไม่เคยมีเกิน 300 PPM ซึ่งถ้าโลกมีค่า PPM เกือบถึง 300 กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทย จะจมอยู่ใต้มหาสมุทร แต่ในปัจจุบันปริมาณการสะสมของคาร์บอนไดออกไซด์มีค่ามากกว่า 390 PPM
โดยในขณะนี้โลกก็ได้พยายามปรับตัว เพื่อลดปริมาณของคาร์บอนไดออกไซด์ลงมาให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 300 PPM และในขบวนการปรับตัวนี้ประชากรของโลกอาจจะถูกลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากปฏิกิริยาตอบสนองนี้แล้ว เห็นได้จากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดเพิ่มและถี่มากขึ้น มีความรุนแรงมากในทุกขณะ เห็นได้จากในปัจจุบันทีมีแผ่นดินไหวที่มีขนาดความรุนแรงถึง 9 แมกนิทิวด์ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงถึง 30 เมตร, เกิดพายุเฮอร์ริเคน และพายุทอร์นาโดที่มีความเร็วลมระดับ 5, มีโรคระบาดสายพันธ์ใหม่ที่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต, การกัดเซาะพื้นที่ชายฝังอย่างรุนแรงด้วยกระแสลมและน้ำในมหาสมุทร และในหลายประเทศเกิดปัญหาน้ำท่วมอย่างรุนแรง สลับกับภัยแล้ง ซึ่งรวมถึงในประเทศไทยเมื่อปลายปี 54 ที่ผ่านมา ฯลฯ ล้วนแต่เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงโดยตรง หรือโลกกำลังพยายามปรับตัวให้อยู่รอดนั่นเอง” นายปรานต์ สยามวาลา ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เพราะว่าโลกของเรานั้นมีขนาดใหญ่ การปรับตัวของโลกจะใช้เวลาสะสมถึง 20 ปี ก่อนที่จะเห็นผลกระทบต่างๆ ที่ชัดเจน สมมุติว่าในวันนี้ปริมาณการสะสมของคาร์บอนไดออกไซด์ สามารถลดลงไปถึงระดับ 300 PPM (ซึ่งก็ยังไม่เห็นมีหนทางเป็นไปได้ในขณะนี้เลย) แต่กว่าที่ธรรมชาติทุกอย่างจะกลับมาสู่สภาพสมดุลก็ต้องใช้เวลาอีก 20 ปีถัดไป และที่น่าเสียใจก็คือจากผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 17 (17th United Nations Climate Change Conference) หรือ COP 17 ที่เมืองเดอร์บัน (Durban) ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เมือปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ประเทศสมาชิกไม่สามารถที่จะตกลงในเรื่องการควบคุมระดับปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่สะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศได้ ซึ่งจะทำให้ในแต่ละประเทศจะยังปล่อยก๊าซคาร์บอนได ออกไซด์ในปริมาณที่มากต่อไป ซึ่งคาดว่าอาจจะถึง 450 PPM ในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยค่า PPM นี้ จะส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกอย่างที่เราได้ทราบกัน แต่ไม่ค่อยมีใครให้ข้อมูลที่ชัดเจนออกมาว่า ณ ขณะนี้โลกมีอุณหภูมิร้อนขึ้นเท่าไร แต่สำหรับในประเทศไทยค่าเฉลี่ยอุณหภูมิสูงสุดเมื่อ 40 ปีที่แล้วอยู่ที่ 38 องศาเซลเซียส แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 44 องศาเซลเซียส และคาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า อุณหภูมิอาจจะทะยานขึ้นไปแตะถึง 50 องศาเซลเซียสเลยก็เป็นไปได้” สำหรับปัญหาน้ำท่วมในประเทศไทย ที่ผ่านมาทั้งภาครัฐและเอกชนก็ยังไม่ได้มีการลงมือทำโครงการที่เป็นรูปธรรม เพื่อจะรับมือกับน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2555
และขณะนี้ฤดูฝนก็กำลังใกล้เข้ามาอีกรอบแล้ว ดังนั้นการจัดงานประชุมสัมมนาในครั้งนี้ ทางสมาคมฯ เห็นเป็นความสำคัญเร่งด่วน ที่จะต้องช่วยกันทั้งภาครัฐและเอกชน ในการเตรียมพร้อมที่จะป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นและอาจจะรุนแรงมากกว่าในปีที่ผ่านมา จึงได้จัดหัวข้อการประชุมที่เน้นในเรื่องการให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งจะสามารถนำมาใช้ในการป้องกันเหตุการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอย่างทันท่วงที รวมถึงเรื่องการเตรียมตัวรับมือกับแผ่นดินไหว ซึ่งถือได้ว่าเป็นภัยทางธรรมชาติที่รุนแรงสุด และมีโอกาสที่จะเกิดสูงมากในกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะทำให้เกิดสภาวะหยุดชะงักของสังคมในประเทศโดยสิ้นเชิง โดยงานประชุมสัมมนาเพื่อป้องกันภัยพิบัตินานาชาติ ครั้งที่ 1 จะได้จัดขึ้น ในวันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 09.00-17.00 น. ณ โรงแรมแชงการีล่า เขตบางรัก โดยผู้สนใจคลิกเข้าไปดูได้ที่ http://www.events-ctually.com/NDPFE2012.html