ศิริราช-บำรุงราษฎร์ นำร่องใช้เกณฑ์ “จริยธรรมการส่งเสริมการขายยา” ล่วงหน้า

ข่าวทั่วไป Tuesday February 7, 2012 10:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ มติสมัชชาสุขภาพเรื่องยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรมฯ เริ่มก้าวแรก ผนึกโรงพยาบาลชั้นนำ ศิริราชและบำรุงราษฎร์ เดินหน้าปลูกธรรมาภิบาล ระบุไม่จำเป็นต้องรอเกณฑ์ฯ ร่างเสร็จ แต่ต้องระวังเพราะอาจกระทบกับผู้เสียประโยชน์ ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ภายในสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 4 พ.ศ.2554 การรายงานผลการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 2 พ.ศ.2552 เรื่องยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรมเพื่อลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสุขภาพของผู้ป่วย คณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมจริยธรรมผู้สั่งใช้ยาและยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรมที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลภายใต้คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ได้เผยว่ามีการนำร่องการใช้ร่างเกณฑ์จริยธรรมว่าด้วยการส่งเสริมการขายยาที่อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนประกาศใช้จริงแล้ว โดยสถานพยาบาลขนาดใหญ่และโรงเรียนแพทย์รับลูกพร้อมทดลองปฏิบัติ เช่น ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาล มอ. หาดใหญ่โรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ บริษัทและองค์กรเภสัชกรรม ภญ.ดร.สุนทรี ท.ชัยสัมฤทธิ์โชค คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะเลขานุการคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมจริยธรรมผู้สั่งใช้ยาฯ กล่าวว่า ความคืบหน้าล่าสุดของร่างเกณฑ์จริยธรรมว่าด้วยการส่งเสริมการขายยาที่จะใช้เป็นเกณฑ์หรือแบบแผนการปฏิบัติของประเทศ ได้ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2554 ซึ่งต่อมา คณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลได้มีมติเห็นชอบ เหลือเพียงการนำเสนอร่างดังกล่าวต่อคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติและประกาศใช้ “เพื่อให้ประชาชนประโยชน์จากร่างเกณฑ์นี้โดยเร็ว และช่วยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ลดงบประมาณการเบิกใช้ยาเกินความจำเป็น ทางคณะทำงานฯ จึงคิดว่าน่าจะนำสาระที่อยู่ในร่างเกณฑ์ฯ มาใช้ในสถานพยาบาลขนาดใหญ่ที่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ซึ่งความจริงก็ดำเนินการได้เลย ไม่ต้องรอประกาศการใช้เกณฑ์ฉบับเสร็จสมบูรณ์เพราะไม่ใช่กฎหมาย” ภญ.ดร.สุนทรี กล่าวต่อด้วยว่า ถ้าสังคมตระหนักในจริยธรรมการขายยา ประชาชนที่มารับยาก็จะวางใจ ไม่ตั้งคำถามกับความสมเหตุผลของราคาและค่าใช้จ่ายในการรักษา หนำซ้ำ ราคายาก็อาจจะลดลงด้วย เนื่องจากบริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายยา (เช่น ค่าใช้จ่ายให้ผู้สั่งจ่ายยาเดินทางไปต่างประเทศ) และหากต้องการให้เรื่องนี้บรรลุเป้าหมาย น่าจะรายงานความคืบหน้าในที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติทุก ๆ 2 ปี นอกจากนี้ คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติต้องช่วยผลักดันให้เกิดกลไกการขับเคลื่อนและการติดตามตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม การประกาศใช้เกณฑ์จริยธรรมนี้ก็ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายหากปราศจากความตระหนักและการรู้ผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้อง แม้แต่ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ และอังกฤษ ก็ยังมีปัญหา ทางออกที่ควรจะเป็นคือความโปร่งใส พร้อมเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าของขวัญตอบแทนแพทย์และเภสัชกร หรือค่าใช้จ่ายพิเศษอื่น ๆ ด้าน ผศ.ภญ.ดร.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคม ในฐานะรองประธานคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมจริยธรรมผู้สั่งใช้ยาฯ กล่าวเสริมด้วยว่า นอกจากประเด็นร่างเกณฑ์ดังกล่าว ยังมียุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ.2555 — 2559 ภายใต้นโยบายแห่งชาติด้านยา พ.ศ.2554 ขณะนี้ได้จัดทำเสร็จสมบูรณ์และประกาศใช้แล้ว ได้แก่ 1.การเข้าถึงยา เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยาจำเป็นอย่างเสมอภาค ทั่วถึง และทันการณ์ ในราคาที่เหมาะสมกับศักยภาพในการจ่ายของประชาชน ตลอดจนฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศ 2.การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เพื่อส่งเสริมการใช้ยาของแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชน ให้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผล ถูกต้อง และคุ้มค่า 3.การพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตยา ชีววัตถุ และสมุนไพร เพื่อการพึ่งพาตนเอง และ 4.การพัฒนาระบบการควบคุมยาเพื่อประกันคุณภาพ ประสิทธิผล และความปลอดภัยของยา.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ