กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--บลจ.ทหารไทย
บลจ.ทหารไทย เปิดแผนกลยุทธ์รับปีมังกรทอง นำธงด้วยธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่พร้อมอำนวยความสะดวกผ่านระบบใหม่ Fundlink M Choice online และการผสานกลยุทธ์การตลาดควบคู่การให้ความรู้ทางการลงทุน
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด เปิดเผยแผนกลยุทธ์การบริหารงานในรอบปี 2555 โดยกำหนดว่า ภาพรวมในการบริหารงานของบริษัทคือการให้ความสำคัญต่อผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นอันดับแรก (Customer Centric) ทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน ควบคู่ไปกับการรักษาผลตอบแทนให้อยู่ในระดับที่ดีควบคู่ไปกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ รวมทั้งการเร่งสร้างความผูกพันกับลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านทางการขยายฐานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและการใช้นโยบายการผสานกลยุทธ์ทางการตลาดควบคู่ไปกับให้ความรู้ทางการลงทุน
สำหรับกลยุทธ์ในการบริหารงานในปี 2555 เพื่อให้บริษัทสามารถยืนหยัดในการเป็น “คู่ชีวิตการลงทุน”และมุ่งพาผู้ลงทุนให้ได้รับผลสำเร็จทางการลงทุนนั้น
กลยุทธ์ด้านแรก คือการรุกตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยที่ผ่านมาเราได้ใช้แนวทางของ Employee’s Choice เป็นแนวทางหลักและมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อรองรับ โดยได้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ TMBAM M Choice ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ซึ่งเป็นกองทุนที่มีลักษณะเป็น Master Pooled Fund ที่มอบอิสระให้แก่สมาชิกกองทุนในการเลือกนโยบายการลงทุนที่หลากหลายกว่า 10 นโยบาย ซึ่งสมาชิกสามารถกำหนดแผนการลงทุนโดยผสมผสานนโยบายต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของตนเองอย่างแท้จริงภายใต้แผนการลงทุนที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด ซึ่งคุณลักษณะดังกล่าวทำให้กองทุนมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ณ สิ้นปี 2554 มีขนาดกองทุนเพิ่มขึ้นเป็น 2,600 ล้านบาท และมีบริษัทชั้นนำเข้าร่วมกว่า 150 ราย
สำหรับการพัฒนาระบบเพื่อรองรับการทำธุรกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านนั้น บริษัทได้พัฒนาระบบที่เรียกว่า “Fundlink M Choice online” ผ่านทางอินเตอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง บนเว็บไซต์ของบริษัท ที่ www.tmbam.com ถือเป็นการพัฒนาระบบธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่สมบูรณ์แบบเป็นรายแรกในอุตสาหกรรม เพื่อเป็นช่องทางอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกกองทุนและช่วยลดภาระแก่คณะกรรมการกองทุนได้เป็นอย่างมาก ระบบดังกล่าวอำนวยความสะดวกให้สมาชิกแต่ละบุคคลมีอิสระในการเลือกลงทุน และสามารถบริหารจัดการเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนได้ด้วยตนเอง โดยทำรายการผ่านอินเตอร์เน็ตรวมถึงตรวจสอบยอดเงินด้วยตนเองได้ตลอด 24 ชม. (ตามเงื่อนไขที่ บลจ.กำหนด)
การจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ TMBAM M Choice ซึ่งจดทะเบียนแล้ว รวมถึงการพัฒนาระบบ ธุรกรรมออนไลน์ ถือเป็นปัจจัยหลักในการชักจูงและสร้างทางเลือกที่หลากหลายให้กับบริษัทและองค์กรชั้นนำที่จะมอบความไว้วางใจให้เราบริหารกองทุนดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมา ด้วยประสิทธิภาพในการบริหารจัดการควบคู่กับระบบธุรกรรมออนไลน์อันเปี่ยมประสิทธิภาพ และการวางตำแหน่งทางการตลาดในฐานะสินค้าบริการระดับพรีเมี่ยม ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากองค์กรและบริษัทในอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงาน โดยเฉพาะบริษัทที่พนักงานมีความรู้ความสามารถและระดับการศึกษาสูง อาทิ สถาบันการเงิน, บริษัทหลักทรัพย์ (บล.), บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.), โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัย และองค์กร ชั้นนำอีกหลายแห่ง
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2554 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การบริหารของบริษัท จึงมีขนาดกองทุนเติบโตทะลุหมื่นล้านได้สำเร็จ โดยเพิ่มขึ้นเป็น 10,014 ล้านบาท และคาดว่าในรอบปี 2555 นี้จะสามารถเติบโตไปในอัตราไม่ต่ำกว่า 15-20 % ต่อปีได้อีก
กลยุทธ์ด้านที่ 2 คือการมุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนภายใต้ค่าธรรมเนียมที่เป็นธรรมสมเหตุสมผล ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน โดยดร.สมจินต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่บริษัทยึดมั่นต่อการเป็นผู้นำด้านการบริหารกองทุนเชิงรับ (Passive Investment) โดยมีนโยบายการลงทุนที่เข้าใจง่าย ชัดเจน ค่าธรรมเนียมสมเหตุสมผลและคงไว้ซึ่งผลตอบแทนที่ดี
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะบริหารกองทุนในเชิงรับ แต่ก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและโดดเด่นกว่ากองทุนเชิงรุกส่วนมาก อาทิ ในรอบปี 54 ที่ผ่านมา อาทิ กองทุนประเภทหุ้น เช่น กองทุนเปิดทหารไทย Jumbo25 สร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 6.65% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET50 ที่ปรับตัวอยู่ที่ 3.74% หรือกองทุนเปิดทหารไทย SET50 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ 3.63% ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐานเปรียบเทียบติดลบที่ 0.25% ขณะเดียวกัน กองทุนของสินค้าโภคภัณฑ์อย่างกองทุนพลังงาน คือ กองทุนเปิดทหารไทย ออยล์ ฟันด์ ก็สามารถสร้างผลตอบแทนระดับผู้นำ ในอุตสาหกรรมที่ 7.40% เป็นต้น
นอกจากนั้น ในรอบปี 2554 ที่ผ่านมา บริษัทได้เสนอขายกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นทางเลือกในการลงทุนในกองทุนทองคำน้องใหม่ โดย ณ สิ้นปี 54 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการของบริษัท (AUM) เติบโตขึ้นถึง 2,528 ล้านบาท และสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลังนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนได้ไม่ถึง 1 ปีได้ถึง 26.30% สำหรับกองทุนทองคำอีกหนึ่งกองคือ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ซึ่งจัดตั้งเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.48 มี AUM ณ สิ้นปี 54 อยู่ที่ 1,592 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดลงทุนในกองทุนทองคำของบริษัทมีมูลค่ารวมกันถึง 4,120 ล้านบาท เลยทีเดียว
ในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นั้น บริษัทมุ่งมั่นในการออกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทนับได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกแนะนำกองทุนรูปแบบใหม่ๆ หรือรังสรรค์นวัตกรรมการลงทุน การบริการที่สร้างความแตกต่างและเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การออกบัตร TMBAM Extra Cash เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนเปิดทหารไทย ธนบดี การออกกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในกองทุนทองคำแห่งแรกของประเทศไทย เมื่อ 7 ปีก่อน การแนะนำกองทุนในลักษณะของกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น (Short —Term Fixed Income) ที่ยังคงเอื้อประโยชน์ทางด้านสภาพคล่องเช่นเดียวกับกองทุนตลาดเงิน แต่ยกระดับของผลตอบแทนที่สูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง คือกองทุนเปิดทหารไทย ธนพลัส เมื่อเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาและประสบผลสำเร็จจน ณ สิ้นปี 2554 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 22,980 ล้านบาท
ล่าสุดการออกกองทุนคู่แฝดพันธบัตรทั่วโลก (กองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund และกองทุนเปิดทหารไทยโกลบอล บอนด์ ปันผล) ซึ่งช่วยให้ผู้ลงทุนไม่ยึดติดกับกรอบการลงทุนที่กำหนดระยะเวลาและผลตอบแทนที่แน่นอน (Fixed Term Funds) เช่น กองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ แต่สร้างโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในพันธบัตรทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านมืออาชีพระดับโลกผู้บริหารกองทุน Templeton Global Bond Fund ซึ่งกองทุนคู่หูพันธบัตรโลกทั้งสองสามารถสร้างปรากฏการณ์แห่งการตอบรับที่ดี โดย ณ สิ้นปี 2554 ที่ผ่านมา มียอดรวมทรัพย์สินสุทธิของทั้งสองกองทุนถึง12,575 ล้านบาท เลยทีเดียว
สำหรับผลิตภัณฑ์กองทุนใหม่ในปีนี้ บริษัทมีนโยบายประเดิมปี 2555 ด้วยการออกกองทุน Fixed Income แบบ Rollover อายุประมาณ 6 เดือนและ 1 ปี โดยกำหนดออกขาย IPO ระหว่างวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ 2555 นี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะสั้น โดยเพิ่มการสร้างโอกาสของผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์และไม่ต้องเสียภาษีจากการขายหน่วยลงทุน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (Promotion) อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ส่งโปรโมชั่น “Pro 2 You” ลงตลาดเพื่อเอาใจผู้ลงทุนที่ชื่นชอบการลงทุนในกองทุนทองคำและกองทุนพันธบัตรทั่วโลก โดยผู้ที่ลงทุนในคู่หูกองทุนเปิดทหารไทย TMB Gold Fund หรือ TMB Gold Singapore Fund และคู่หูกองทุนเปิดทหารไทย TMB Global Bond Fund หรือ TMB Global Bond Dividend Fund กองทุนใดก็ได้ระหว่างวันที่ 2 ก.พ.- 2 เม.ย.55 ทุกๆ 100,000 บาท รับเงินลงทุนพิเศษในกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี 200 บาท ซึ่งผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tmbam.com หรือโทร.1725
กลยุทธ์ด้านที่ 3 การสานต่อแนวคิดกลยุทธ์การตลาดผสานความรู้ทางการลงทุน (Educational Marketing) ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพราะเราเชื่อว่าการเป็น “คู่ชีวิตการลงทุน” ให้กับลูกค้านั้น ไม่เพียงแต่สร้างผลตอบแทนที่ดีควบคู่ไปกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้แล้ว แต่เรามองว่าการเติมเต็มความรู้ความเข้าใจด้านการลงทุนจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ถือหน่วยลงทุนของบริษัทสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนการเงินการลงทุนส่วนบุคคลได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยบริษัทได้สร้างทีมบุคลากรที่มีคุณภาพพร้อมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ไปยังลูกค้าหรือกลุ่มบุคคลที่สนใจ และได้ผสานแนวคิดดังกล่าวควบคู่ไปพร้อมกับธนาคารทหารไทยด้วย โดยในปีนี้ นอกจากกิจกรรมการสัมมนาความรู้ด้านการลงทุนที่จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น บริษัทมีแผนที่จะเปิดให้องค์กรหรือบริษัทอื่นๆ ที่สนใจยกระดับความมั่งคั่งทางการเงินให้กับบุคลากรของตน ก็สามารถติดต่อเข้ามาเพื่อให้เราส่ง เจ้าหน้าไปบรรยายให้ความรู้ได้
กลยุทธ์ด้านที่ 4 มุ่งสร้างความผูกพันกับผู้ลงทุนที่เคียงคู่กับของบริษัทมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจและรู้สึกอุ่นใจที่ไว้วางใจให้บริษัทเป็นผู้บริหารเงินลงทุน และขยายฐานผู้ลงทุนใหม่ผ่านทางการทำงานร่วมกับธนาคารทหารไทยและพันธมิตรธุรกิจ โดย ดร.สมจินต์ กล่าวว่า นอกจากการมุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีแล้ว การสร้างความผูกพันและความพึงพอใจกับลูกค้าถือเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญ โดยในปีนี้ บริษัทเตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับลูกค้าโดยมุ่งครอบคลุมหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มลูกค้า High Net worth, กลุ่มลูกค้าที่ลงทุนกับบริษัทมานานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป หรือกลุ่มลูกค้าทั่วไป เป็นต้น
ท้ายสุด ดร.สมจินต์ กล่าวว่า จากการบริหารจัดการกองทุนด้วยความมุ่งมั่นและเต็มประสิทธิภาพ ประกอบกับการยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและการจัดเก็บค่าธรรมเนียมอย่างเป็นธรรม สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้ บลจ.ทหารไทย ได้รับรางวัล SET Awards 2011 ประเภทบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประจำปี 2554 ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และวารสารการเงินธนาคาร โดยมีเกณฑ์การประเมินในหลายองค์ประกอบที่สำคัญคือ ปัจจัยด้านการสร้างผลตอบแทนเมื่อเทียบกับค่าความเสี่ยง, การประสบผลสำเร็จในด้านการระดมทุน และด้านการปฏิบัติและดำเนินการอย่างเหมาะสมตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
บริษัทยังคงมุ่งมั่นและนำความสำเร็จเหล่านี้เป็นพลังขับเคลื่อนในการบริหารจัดการกองทุนให้เต็มศักยภาพ และจะยืนหยัดเคียงข้างผู้ลงทุนทุกก้าวย่าง เสมือนเป็น “คู่ชีวิตการลงทุน” ให้กับผู้ลงทุนของ บลจ.ทหารไทย ทุกท่านต่อไป
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ส่วนบริหารภาพลักษณ์องค์กรและการตลาด
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด
โทร 02-636-1800 ต่อ 8748 และ 8749