กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--กระทรวงพลังงาน
ข่าวพลังงาน
ประชาชนหายห่วง รัฐไม่ขึ้นราคาน้ำมันแน่นอน แม้ราคาน้ำมันตลาดโลกผันผวนสูง พร้อมเตรียมกู้เงินแบงก์ 8,000 ล้านบาท ตรึงราคาต่อไป เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชน
นายศิวะนันท์ ณ นคร ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน มีนายพละ สุขเวช ทำหน้าที่เป็นประธานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน วงเงิน 8,000 ล้านบาท ด้วยวิธีเบิกเงินเกินบัญชี (OD) มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน โดยขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไป ทั้งนี้ ปัจจุบันสถาบันบริหารกองทุนพลังงานได้ดำเนินการเจรจาเบื้องต้นเกี่ยวกับเงื่อนไขในการกู้เงินกับธนาคารกรุงไทย และธนาคารหลวงไทย แล้ว ซึ่งธนาคารยินดีให้การสนับสนุน วงเงินกู้ไม่เกินแห่งละ 8,000 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยตามภาวะตลาด และ 2.75% ตามลำดับ ส่วนปัจจัยสำคัญ ที่สถาบันฯ ต้องเตรียมการกู้เงินนั้น เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงมีความผันผวนสูง โดยสถานการณ์น้ำมันช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบเบรนท์ และดูไบ อยู่ที่ระดับ 31.10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 33.93 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ตามลำดับ ตลอดจนราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดจรสิงคโปร์ เบนซินออกเทน 95 และดีเซลหมุนเร็ว อยู่ที่ระดับ 43.45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 37.62 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ตามลำดับ ซึ่งหากรัฐไม่มีการตรึงราคาน้ำมันไว้ ราคาน้ำมันในประเทศวันที่ 24 มีนาคม 2547 เบนซิน 95 จะอยู่ที่ระดับ 18.67 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 จะอยู่ที่ระดับ 17.98 บาทต่อลิตร และดีเซลหมุนเร็วจะอยู่ที่ระดับ 15.03 บาท ต่อลิตรนอกจากนี้ ตั้งแต่รัฐบาลได้ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อวันที่ 10 มกราคม จนถึงวันที่ 24 มีนาคม 2547 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีภาระเงินชดเชยสะสมประมาณ 4,300 ล้านบาท และมียอดเงินชดเชยค้างชำระหนี้ก๊าซหุงต้ม และเงินคืนกรณีอื่นๆ จำนวน 1,119 ล้านบาท โดยกองทุนฯ มีเงินสดสุทธิเท่ากับ 4,616 ล้านบาท ทำให้ฐานะกองทุนฯ ติดลบอยู่ที่ระดับ 803 ล้านบาทนายศิวะนันท์ กล่าวต่อว่า จากปัจจัยต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน รวมทั้งเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชนตามนโยบายรัฐบาล สถาบันฯ จึงได้เตรียมเงินสำรองเพื่อใช้ในการตรึงราคาน้ำมันต่อไป ซึ่งผลจากการตรึงราคาน้ำมันที่ผ่านมา ทำให้ราคาสินค้าไม่ได้มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ประชาชนต้องช่วยกัน คือ การประหยัดน้ำมัน เพราะนอกจากช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของตนเองแล้ว ยังช่วยประหยัดเงินค่าน้ำมันที่เราต้องจ่ายให้แก่ต่างประเทศด้วย--จบ--
-นท-