กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
อินเทลเปิดตัวโซลิดสเตทไดรฟ์ รุ่นล่าสุด อัดแน่นทั้งประสิทธิภาพและความเสถียร
อินเทลTM โซลิดสเตทไดรฟ์ ซีรี่ส์ 520 เร็วและเสถียรเพื่อประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมของผู้ใช้
ประเด็นข่าว
- อินเทล SSD 520 เร็วและแรงเพื่อใช้กับแอพพลิเคชั่นที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานเต็มรูปแบบและทำงานแบบมัลติทาสก์กิ้ง เพื่อเพิ่มสุดยอดประสบการณ์ในการใช้งาน
- อินเทล SSD 520 เพิ่มทางเลือกในการเก็บข้อมูลให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้มากขึ้น เพื่อผลักดันการใช้ SSD ให้แพร่หลายในกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั้งที่เป็นองค์กรและผู้บริโภคทั่วไป
- อินเทล SSD 520 ประกอบด้วย SATA III ความเร็ว 6 Gbps มีความเสถียรสูงจากการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานอย่างเข้มข้น พร้อมการรับประกันสินค้า 5 ปี
อินเทล คอร์ปอเรชั่น เปิดตัว โซลิดสเตทไดรฟ์ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและความเร็วสูงสุดในปัจจุบันสำหรับองค์กรและผู้บริโภคทั่วไป อินเทลTM โซลิดสเตทไดรฟ์ ซีรี่ส์ 520 (Intel Solid-State Drive 520 Series หรือ Intel SSD 520) ที่อินเทลเปิดตัวล่าสุดนี้ ประกอบด้วย SATA III ความเร็ว 6 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) ผลิตด้วยเทคโนโลยีด้านการจัดเก็บข้อมูล NAND ขนาด 25 นาโนเมตรที่มีคุณภาพสูง จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลกที่มาพร้อมประสิทธิภาพอันทรงพลังและความเร็วที่สูงขึ้น รวมถึงคุณสมบัติใหม่ๆ ด้านความปลอดภัย และความเสถียรสูงในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้ เพื่อสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ในขั้นสูงสุด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้พีซีระดับมือโปร นักเล่นเกมส์ตัวยง นักธุรกิจ และกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
อินเทล SSD 520 ใช้ได้ดีกับแอพพลิเคชั่นสำหรับผู้บริโภคที่ต้องอาศัยการส่งผ่านข้อมูลจำนวนมากผ่านแบนด์วิดธ์ขนาดใหญ่ มีความหน่วงต่ำ พร้อมอัตรการเร่งที่สูง สำหรับ SSD 520 รุ่นที่มีคุณสมบัติต่างๆ ครบถ้วนจะเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัดให้กับผู้ที่ทำงานในแวดวงอาชีพต่างๆ เช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์ สถาปนิก นักบัญชี วิศวกร นักดนตรี นักสร้างสรรค์สื่อต่างๆ และศิลปิน SSD 520 ช่วยให้การใช้แอพพลิเคชั่นในลักษณะมัลติทาสก์กิ้ง หรือเพื่อเพิ่มความเร็วให้กับแอพพลิเคชั่นที่ช้าก็สามารถทำได้อย่างสบายๆ เพราะอินเทล SSD 520 มีความเร็วสูงขึ้นสำหรับการเรนเดอร์กราฟิก การรวบรวมและส่งผ่านข้อมูล ตลอดจนการเปิดเครื่องก่อนเริ่มใช้งาน
นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เราผนวกวิศวกรรมอินเทลเข้ามาพัฒนา SSD ให้มีประสิทธิภาพและความเสถียรในระดับสูงเพื่อรองรับทุกการใช้งานของผู้บริโภค และนี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่อินเทล SSD 520 ได้ยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ SSD ในอุตสาหกรรมให้สูงขึ้น และเอื้อประโยชน์เพื่อการทำงานให้กับกลุ่มผู้บริโภคหลากหลายสาขาอาชีพ และการใช้งานที่ต่างกัน”
SSD แตกต่างจากฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์แบบเดิม ซึ่งใช้การหมุนแผ่นจานดิสก์และชิ้นส่วนเคลื่อนที่ ตรงที่ SSD ผลิตด้วยเทคโนโลยีซิลิกอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การใช้เทคโนโลยีแบบ NAND เพื่อให้สามารถพัฒนาโซลูชั่นที่ประหยัดพลังงาน มีความเสถียรสูงขึ้น และจัดเก็บข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจำเป็นสำหรับการใช้แอพพลิเคชั่นปัจจุบัน หรือชมการถ่ายทอดสดผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงการทำงานหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน
อินเทล SSD 520 ใช้เทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบ NAND ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขนาด 25 นาโนเมตรของอินเทล ประกอบด้วย SATA III ความเร็ว 6 Gbps และใช้ SandForce Flash Storage ของ LSI โดยร่วมมือกับอินเทลในการตรวจสอบเฟิร์มแวร์ เพื่อให้ SSD เป็นอุปกรณ์ที่เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม อินเทล SSD 520 ให้ค่า 4K random write Input-Output Operations Per Second (IOPS) สูงสุดได้ถึง 80,000 ต่อวินาที และอ่าน IPOS ในระดับสปีดของการทำงานทั่วไปในแต่ละวันได้ถึง 50,000 4K random เพื่อให้สามารถรองรับการทำงานในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่ประสิทธิภาพการอ่านอย่างต่อเนื่องสามารถทำได้ถึง 550 เมกะไบต์ต่อวินาที (MBps) และ 520 MBps สำหรับการเขียนข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งนี้ยืนยันถึงประสิทธิภาพที่ล้ำหน้าได้เป็นอย่างดี คุณสมบัตินี้ได้รับการทดสอบและวัดความแม่นยำโดยอินเทลเป็นจำนวนหลายพันชั่วโมง รวมถึงการทดสอบโดยตัวบุคคลอีกกว่า 5,000 ครั้ง พร้อมระยะเวลาการรับประกัน 5 ปี
“เราทำงานร่วมกับอินเทลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้รู้ซึ้งถึงแก่นลึกของความเข้าใจในเรื่อง NAND flash ที่ให้โซลูชั่นเฉพาะซึ่งเหมาะกับแอพพลิเคชั่นเพื่อการประมวลผลของลูกค้า ที่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ LSI SandForce Flash Storage การปฏิบัติงานตามกระบวนการทดสอบคุณภาพอันยาวนานของ อินเทลยืนยันได้ว่า อินเทล SSD 520 จะส่งผลให้มาตรฐานของประสิทธิภาพ คุณภาพ และความเสถียรให้สูงยิ่งขึ้นไปอีกตลอดอายุการใช้งาน” ไมเคิล แรม รองประธานและผู้จัดการใหญ่ของภาคธุรกิจส่วนประกอบของ LSI กล่าว
อินเทล SSD 520 เป็นนวัตกรรมขั้นสูงของตระกูล SSD คุณสมบัติใหม่ที่เพิ่มมาคือ ความจุที่หลากหลายตั้งแต่ 60-480 GB มีคุณสมบัติด้านการเข้ารหัส Advanced Encryption Standard (AES) 256 บิต และระบบการป้องกันรหัสผ่านที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยยิ่งกว่าเดิมในกรณีที่ถูกโจรกรรมหรือสูญหาย จากการตรวจสอบความสามารถการประมวลผลผ่าน PCMark Vantage ผู้ใช้อินเทล SSD 520 อาจรับรู้ได้ถึงประสิทธิภาพของ SSD รุ่นนี้ว่า เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 78 สำหรับนักเล่นเกมส์ตัวยงจะสังเกตได้ถึงประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่สูงขึ้นถึงร้อยละ 88** ครั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจะไม่เพียงแต่นำเสนอประสิทธิภาพและความสามารถที่เพิ่มสูงขึ้นให้แก่ลูกค้าและบุคลากรเท่านั้น แต่ SSD 520 ยังให้ความเสถียรและความปลอดภัยที่สูงขึ้น การทำงานที่ราบรื่นขึ้น และต้นทุนด้านการจัดการโดยรวมลดลง
จอห์น คาร์แม็ก ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการด้านเทคนิคของ id* Software บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์เกมและผู้สร้าง Doom and Quake กล่าวว่า “กระบวนการทำงานด้านการพัฒนาเกมมีทั้งการประมวลผลเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ และการทำ interactive pre-visualization ซึ่งกระบวนการทำงานทั้งสองอย่างนี้ต้องทำขนานควบคู่กันไปจนถึงจุดที่ประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูลเกิดปัญหาคอขวดอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม อินเทล SSD ได้เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระงานให้กับเรา และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากกว่าเดิมถึงสองเท่า บางครั้งยังช่วยให้เรา mapping ข้อมูลภาพได้หลายสิบกิกะไบต์อีกด้วย ที่ผ่านมาเราได้เห็นถึงการพัฒนาสมรรถนะอันล้ำเลิศอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยากและเป็นสิ่งที่พิเศษมาก”
อินเทล SSD 520 มีหลายขนาดความจุให้เลือก โดยราคาสำหรับการซื้อ 1,000 ชิ้นอยู่ที่ชิ้นละ 149 เหรียญสหรัฐสำหรับขนาด 60GB, 229 เหรียญสหรัฐสำหรับ 120GB, 369 เหรียญสหรัฐสำหรับ 180GB, 509 เหรียญสหรัฐสำหรับ 240GB และ 999 เหรียญสหรัฐสำหรับ 480GB พร้อมการรับประกัน 5 ปี เอกสารสำหรับสื่อมวลชนสามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://www.intel.com/newsroom/ssd ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อินเทล SSD สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ www.intel.com/go/ssd หรือที่ อินเทล SSD ทวิตเตอร์ @intelssd และเฟซบุ๊ก www.intel.com/go/ssdfacebook หรือ communities.intel.com
ภาพประกอบ
อินเทลTM โซลิดสเตทไดรฟ์ ซีรี่ส์ 520 รุ่นล่าสุดจากอินเทล ประกอบด้วย SATA III ความเร็ว 6 Gbps ผลิตด้วยเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล NAND ขนาด 25 นาโนเมตรที่มีคุณภาพสูง โดดเด่นด้วย ประสิทธิภาพอันทรงพลังและความเร็วที่สูงขึ้น ปลอดภัยและมีความเสถียรยิ่งกว่าเดิม เหมาะสำหรับผู้ใช้พีซีมือโปร นักเล่นเกมส์ตัวยง นักธุรกิจ และกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี