กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น
พีดีเฮ้าส์ ประเมินกำลังซื้อกรุงเทพฯ และปริมณฑลปี 55 ซึมยาวขณะที่ตจว.กลับสู่ภาวะปกติ เชื่อบริษัทรับสร้างบ้าน Top 5 ปรับตัวแรงรับตลาดชะลอตัว โอ่แค่ 2 ปี ดันแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ติดลมบน เตรียมเปิดตัวแฟรนไชส์แบรนด์น้องใหม่ "เอคิวโฮม" เจาะตลาดบ้านราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท ชี้เทรนด์แบบบ้านปี 55 แนวโมเดิร์นสไตล์และป้องกันน้ำท่วมมาแรง ชิงออกแคมเปญ "บ้านยกพื้นสูง" กระตุ้นกำลังซื้อ ตั้งเป้าไตรมาสแรกกวาดยอดขาย 300 ล้านบาท เผยกลยุทธ์เด็ดดึงรับสร้างบ้านรายเล็กเข้าร่วมแฟรนไชส์ หวังสร้างเครือข่ายธุรกิจให้แข็งแกร่ง ก่อนประเทศไทยเปิดสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีปี 58
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปี 2555 ช่วงหนึ่งเดือนเศษที่ผ่านมา พบว่ากำลังซื้อหรือความต้องการสร้างบ้านยังไม่ฟื้นกลับมา สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังไม่คลายกังวลกับวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา และกำลังซื้ออาจจะซึมต่อเนื่องไปจนถึงปลายไตรมาส 2 ในขณะที่กำลังซื้อต่างจังหวัดมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นเชื่อว่าปีนี้ผู้ประกอบการในกลุ่ม Top 5 ที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้าน น่าจะตื่นตัวและปรับตัวกันพอสมควร ทั้งด้านการทุ่มงบเพื่อสร้างการรับรู้ การสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และการขยายสู่ตลาดหรือพื้นที่บริการใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งการปรับตัวสู่ระบบแฟรนไชส์ เหมือนเช่นที่พีดีเฮ้าส์ประสบความสำเร็จมาแล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่กำลังซื้อหรือตลาดรับสร้างบ้านกทม.และปริมณฑลชะลอตัวในปีนี้
สำหรับปี 2555 เป็นต้นไป กลยุทธ์การขยายแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ นอกจากบริษัทฯ จะคัดเลือกจากนักลงทุนทั่วไปแล้ว ยังเปิดโอกาสให้บริษัทรับสร้างบ้านรายเล็กที่อยู่ในธุรกิจมาก่อน และมีความตั้งใจจะยกระดับธุรกิจของตัวเอง ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ได้เข้ามาร่วมเป็นแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์พีดีเฮ้าส์ ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทั้งนี้ก็เพื่อจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นๆ หากแต่ผู้ประกอบการจะต้องปรับกระบวนการทำงาน และการบริการให้เป็นตามมาตรฐานที่บริษัทฯ กำหนดไว้ รวมทั้งตกแต่งสาขาหรือสำนักงานให้เป็นรูปแบบเดียวกัน โดยผู้ที่เข้าร่วมจะได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมแรกเข้าหรือค่าสิทธิ์แฟรนไชส์ (Franchise Fee) 25% จากปกติ 500,000 บาทเหลือเพียง 375,000 บาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากัน 2-3 ราย ทั้งนี้แนวทางดังกล่าว นอกจากจะเป็นการยกระดับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมเป็นแฟรนไชส์แล้ว ยังเป็นการสร้างเครือข่ายธุรกิจรับสร้างบ้านให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ก่อนประเทศไทยจะเปิดสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 2558
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ กล่าว่าปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาเปิดให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 26 สาขา ล่าสุดได้เปิดสาขาสกลนครเมื่อเร็วๆ นี้ และปีนี้มีแผนจะขยายอีก 10 สาขาหรือเพิ่มเป็น 36 สาขา โดยเน้นขยายสาขาในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ อาทิ เชียงราย นครราชสีมา (สาขาที่ 2) สมุทรปราการ ราชบุรี นครศรีธรรมราช ฯลฯ เป็นต้น เป้าหมายก็เพื่อเพิ่มยอดขายรวมของบริษัทฯ ที่ตั้งไว้ 1,400 ล้านบาท ตามแผนการตลาดปี 2555 นี้ที่วางไว้ ทั้งนี้หลังจากแบรนด์แฟรนไชส์พีดีเฮ้าส์ ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดตัวแฟรนไชส์รับสร้างบ้านเอคิวโฮม (AQ Home) อีกหนึ่งแบรนด์ เพื่อเน้นเจาะตลาดรับสร้างบ้านระดับราคาบ้านต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการขยายฐานลูกค้ากลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ทั้งนี้บริษัทฯ จะเปิดศูนย์รับสร้างบ้านเอคิวโฮม สาขานครปฐมนำร่องในเร็วๆ นี้ โดยตั้งเป้าขยายปีแรก 3 สาขา คาดว่าจะสามารถทำยอขายได้ 90 ล้านบาท
ปี 2555 นี้เชื่อว่าเทรนด์แบบบ้านที่คาดว่าจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคคือ แบบบ้านแนวโมเดิร์นสไตล์ แต่จะต้องออกแบบให้ป้องกันน้ำท่วมในระดับหนึ่ง ดังนั้นในช่วงนี้บริษัทฯ จึงได้ออกแบบบ้านใหม่จำนวน 2 แบบได้แก่ แบบบ้าน F-211, F-212 โดยยกพื้นชั้นล่างสูง 120-150 เซนติเมตร เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าวที่มีอยู่จำนวนมาก ทั้งนี้ผู้ที่ตัดสินใจจองแบบ้านดังกล่าวในช่วงแนะนำจะได้ส่วนลดพิเศษเหลือเพียง 3.5 และ 5.3 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทฯ ยังได้ออกแคมเปญ "ฟรี ยกพื้นสูง" และ "แถม เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน" สำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจสร้างบ้านตามแบบบ้านมาตรฐานที่มีให้เลือกเกือบ 200 แบบ โดยแคมเปญจะสิ้นสุดแค่เฉพาะ 50 หลังแรกเท่านั้น คาดว่าจะสามารถทำยอดขายไตรมาสแรกได้ 300 ล้านบาท นายพิศาล กล่าวทิ้งทาย