กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--พม.
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายศุภฤกษ์ หงษ์ภักดี รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ร่วมแถลงข่าว โครงการ “รัฐบาลรวมใจ ฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบภัย” เพื่อป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบอุทกภัย อย่างเป็นระบบ ณ ห้องราชา ๑ โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวว่า รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการหลัก ๔ คณะ เพื่อเป็นกลไกการปฏิบัติงานฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ประกอบด้วย ๑. คณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย เรียกโดยย่อว่า “กฟย.” มีรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) เป็นประธานกรรมการ ๒. คณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เรียกโดยย่อว่า “กคฐ.” มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ) เป็นประธานกรรมการ ๓. คณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและความเป็นอยู่ของประชาชน เรียกโดยย่อว่า “กศอ.” มีรองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) เป็นประธานกรรมการ และ ๔. คณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ด้านฟื้นฟูคุณภาพชีวิต เรียกโดยย่อว่า “กคช.” ซึ่งเดิมรองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) เป็นประธานกรรมการ และปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา) เป็นกรรมการและเลขานุการ ทั้งนี้การให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย รัฐบาลได้กำหนดแนวทางการช่วยฯ ด้านฟื้นฟูคุณภาพชีวิต แก่จังหวัดที่ประสบภัย มี ๔ ระยะ ได้แก่ ระยะที่ ๑ ระยะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ระยะที่ ๒ ระยะการช่วยเหลือระหว่างที่ระดับน้ำในพื้นที่ยังท่วมสูง ระยะที่ ๓ ระยะฟื้นฟูหลังน้ำลด และ ระยะที่ ๔ ระยะการปรับโครงสร้างถาวร ซึ่งการจัดงาน“รัฐบาลรวมใจ ฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบภัย” นับเป็นการขับเคลื่อนงานโครงการหนึ่งภายใต้การดำเนินงานของ กคช. โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นเจ้าภาพรับผิดชอบการดำเนินงาน
นายศุภฤกษ์ หงษ์ภักดี รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในฐานะกรรมการและเลขานุการในคณะกรรมการฯด้านการฟื้นฟูคุณภาพชีวิต (กคช.) มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอแนะมาตรการ กำหนดแนวทาง กลั่นกรองแผนงานและโครงการในการช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น ในเรื่องการรักษาพยาบาล การฝึกอาชีพ การศึกษา การฟื้นฟูสภาพจิตใจ ซึ่ง กคช. ได้กำหนดมาตรการในการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตภายใต้แนวคิด “ กินอิ่ม นอนอุ่น มีรายได้ ไร้โรคา พร้อมพัฒนา รักษาจิตใจ ” โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติจัดสรรงบประมาณงบกลางในการให้ความช่วยเหลือฯ ด้านฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้กับหน่วยงานจำนวน ๙ หน่วยงาน เป็นเงินจำนวน ๖,๔๔๘,๒๓๘,๔๐๐ บาท ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน ๒,๑๐๕,๐๔๐,๐๐๐ บาท มีโครงการและกิจกรรมที่สำคัญ ๗ โครงการ คือ ๑. การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบซึ่งเป็นกลุ่มคนเปราะบางที่ประสบปัญหาสังคมในกรณีฉุกเฉิน ๒. การฝึกอบรมอาชีพระยะสั้น ๕ วัน และฝึกอาชีพหลังน้ำลด ๔๔ วัน ๓. การฝึกอาชีพให้ผู้สูงอายุ/ผู้พิการที่ประสบอุทกภัย ๔. การฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ/ผู้พิการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ๕. การจัดหารถโยก รถเข็น สำหรับผู้พิการในพื้นที่ประสบอุทกภัย ๖. สนับสนุนกิจกรรมเยาวชนอาสาเพื่อพัฒนาและฟื้นฟูระบบการจัดการชุมชนด้านภัยพิบัติ และ ๗. โครงการช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในชุมชนบ้านมั่นคง สำหรับการจัดกิจกรรมเปิดตัว (Kick Off) ตามโครงการ “รัฐบาลรวมใจ ฟื้นฟูคุณภาพชีวิต ผู้ประสบภัย” กำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ณ วัดกัทลีพนาราม ตำบลบ้านกล้วย อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ซึ่งได้รับเกียรติจาก ฯพณฯนายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) เป็นประธานในพิธีเปิด และทำพิธีมอบงบประมาณที่กระทรวงฯ ได้รับจัดสรร เป็นเงินจำนวน ๒,๑๐๕,๐๔๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นการยืนยันถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเยียวยา และสร้างขวัญกำลังใจแก่กลุ่มคนเปราะบาง ซึ่งประสบปัญหาทางสังคมหรือเป็นผู้ประสบอุทกภัยและมักไม่สามารถเข้าถึงบริการจากรัฐ ได้แก่ คนพิการ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้ง คนยากจนที่รายได้ไม่เพียงพอ คนเจ็บป่วยเรื้อรัง คนถูกเลิกจ้าง หัวหน้าครอบครัวเสียชีวิต ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดลพบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ น้ำท่วมใหญ่ที่รุนแรงและแผ่กระจายไปในหลายอำเภอนับตั้งแต่ปลายปี ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ซึ่งทางจังหวัดได้ระดมทุกสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และในระหว่างที่ระดับน้ำในพื้นที่ยังท่วมสูง ซึ่งปัจจุบันกลับสู่สภาวะปกติแล้ว โดยจังหวัดลพบุรีได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน ๑๑ อำเภอ ๑๒๒ ตำบล ๑,๐๙๙ หมู่บ้าน ๙๗ ชุมชน มีผู้ประสบภัยทั้งสิ้น ๑๐๑,๒๘๑ ครัวเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบ ๓๔๔,๔๓๙ คน มีผู้เสียชีวิต ๔๘ ราย และมีอำเภอที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยวิกฤติ ๓ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอท่าวุ้ง ทั้งนี้ การดำเนินการตามมาตรการฟื้นฟูของจังหวัดลพบุรี ใช้หลักการมาตรฐานสากลในการดำเนินงานช่วยเหลือฟื้นฟู เยียวยาผู้ประสบภัย หลัก 2P2R มีโครงการลักษณะเด่น เช่น การจ้างงานโดยใช้แรงงานในชุมชมประชาชนที่ประสบอุทกภัยเป็นอาสาสมัครดูแลระหว่างผู้ประสบภัยด้วยกันเอง , การจัดโรงเรียนข้างถนน/ครูแดร์ , โครงการโครงสร้างพื้นฐาน หลวงสร้างเราซ่อม , มาตรการทางด้านสาธารณสุข เช่น น้ำมายาถึง น้ำไม่มายาต้องถึง และใช้หลักคิดแบบคิดร่วม แยกทำ และรวมส่ง เป็นต้น และสำหรับการจัดงาน “รัฐบาลรวมใจ ฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบภัย” ในจังหวัดลพบุรี วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ณ วัดกัทลีพนาราม ตำบลบ้านกล้วย อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี มี ๘ กระทรวงหลัก ร่วมในการจัดกิจกรรม ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงวัฒนธรรม, กระทรวงแรงงาน, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ซึ่งในงานมีกิจกรรม ประกอบด้วย การมอบเงินช่วยเหลือฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย (กลุ่มคนเปราะบาง), การมอบเงินตามโครงการฝึกอาชีพให้แก่ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ที่ประสบอุทกภัย ,การซ่อมบ้านผู้พิการและผู้สูงอายุ ,มอบรถสามล้อมือโยกและรถเข็นสำหรับคนพิการ, กิจกรรมสาธิต การฝึกอาชีพและแสดงสินค้า ,จัดบูธ/นิทรรศการการช่วยเหลือเยียวยาของหน่วยงานต่างๆ, จัดเลี้ยงอาหารครัวรัฐบาล ฯลฯ คอนเสิร์ต และการแสดงต่างๆ
ทั้งนี้ “เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในจังหวัด ได้รับความช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเยียวยาในช่วงหลังน้ำลด ตามแผนงานโครงการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านฟื้นฟูคุณภาพชีวิตตามที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบภัยให้สามารถกลับฟื้นคืนสู่ภาวะปกติต่อไปได้” นายฉัตรชัย กล่าว.