เครือธนาคารกสิกรไทยและแมคควอรีกรุ๊ป ผูกพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจครั้งแรกในไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 10, 2012 15:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--ธนาคารกสิกรไทย เครือธนาคารกสิกรไทย และแมคควอรีกรุ๊ป (“Macquarie”; ASX: MQG) กลุ่มสถาบันการเงินอันดับหนึ่งของออสเตรเลียด้านวาณิชธนกิจ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการการเงินด้วยการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ (Exclusive Strategic Alliance / ESA) พันธกิจแรก ทำให้ KSecurities ขึ้นชั้นเป็นบริษัทหลักทรัพย์ใหญ่ระดับ Top 3 ทันที ความร่วมมือในครั้งนี้ เริ่มจากการให้บริการทางด้านวาณิชธนกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนโดยรวมถึงการให้บริการทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับการซื้อขายและควบรวมกิจการ นอกจากนั้น ยังให้บริการกับลูกค้ากลุ่มสถาบันในการซื้อขายหลักทรัพย์และร่วมกันนำเสนอบทวิเคราะห์แก่ลูกค้าภายในประเทศอีกด้วย นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “จากนี้ไป สถาบันการเงินจะต้องเพิ่มขีดความสามารถของตนเอง ให้รองรับได้กับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มที่จะไม่ได้ถูกขีดกั้นไว้ด้วยพรมแดนหรือข้อจำกัดใด ๆ ทั้งสิ้น เครือธนาคารกสิกรไทยมีรากฐานมายาวนานถึง 67 ปี มีความเข้าใจในอุตสาหกรรมการเงินและความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยอย่างลึกซึ้ง เราสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และบริการเพื่อรองรับทุกความต้องการของลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคต” ความร่วมมือในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจกับแมคควอรีกรุ๊ป ซึ่งเป็นองค์กรการเงินระดับโลกที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกับเรา ครอบคลุมขอบข่ายการให้บริการทางการเงินเช่นเดียวกับเรา แตกต่างกันเพียงอาณาเขตการให้บริการที่ต้องยอมรับว่าแมคควอรีกรุ๊ปมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลกนั้น ถือเป็นมิติใหม่ในอุตสาหกรรมการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านเรา ที่จะทำให้ลูกค้าทุกกลุ่มของเครือธนาคารกสิกรไทยจะได้รับการบริการทางเงินในมิติที่ลึกซึ้ง และกว้างกว่าที่ใคร ๆ เคยให้ในวงการการเงินของประเทศไทย และยิ่งไปกว่านั้น เราเชื่อว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะสามารถทำให้เราทั้งคู่ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และบริการออกมา สร้างความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดให้กับอุตสาหกรรมการเงินทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติต่อไป ขอบเขตการให้บริการของแมคควอรีกรุ๊ป ครอบคลุมด้านการธนาคาร ที่ปรึกษาทางการเงิน การลงทุน และการบริหารกองทุนในเอเชีย-แปซิฟิก และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ด้วยกลยุทธ์การขยายแฟรนไชส์ และการขยายฐานผลิตภัณฑ์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แมคควอรีได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางกลยุทธ์กับกลุ่ม Julius Baer ซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการด้านไพรเวทแบงกิ้งของสวิส, Foundation Securities ผู้นำทางด้านบริษัทหลักทรัพย์ของประเทศปากีสถาน,VinaSecurities ผู้นำทางด้านบริษัทหลักทรัพย์ของประเทศเวียดนาม และ BRAC-EPL ผู้นำทางด้านวาณิชธนกิจของประเทศบังคลาเทศ ปัจจุบันแมคควอรีได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้จัดการ IPO ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ด้วยการนำธนาคารเพื่อการเกษตรของประเทศจีนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งนับเป็นการทำ IPO ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเวลานี้ “ประเทศไทยเป็นประเทศที่ตลาดทางด้านการเงินตื่นตัวมากที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นประเทศที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเราซึ่งจากความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้บทวิเคราะห์ของเราทวีความกว้างและลึกซึ้ง และตรงกับความต้องการของลูกค้าเรามากยิ่งขึ้น” นายมาร์ค ดันแคน Macquarie’s Global Head of Cash Equities กล่าว “ความร่วมมือนี้จะทำให้ลูกค้าของเรามั่นใจว่า พวกเขาจะได้รับข้อมูลข่าวสารและองค์ความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับตลาดในประเทศและต่างประเทศ จากความเชี่ยวชาญทางด้านตลาดในประเทศของเครือธนาคารกสิกรไทย และเครือข่ายที่ครอบคลุมองค์กรระดับนานาชาติและกลุ่มนักลงทุนของแมคควอรีกรุ๊ป อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครของความร่วมมือในครั้งนี้” คาลปานา ดีไซร์ Head of Macquarie Capital Asia กล่าวเสริม น.ส.ณัฐรินทร์ ตาลทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารไพรเวทแบงก์เครือธนาคารกสิกรไทย ในฐานะของก้าวแรกของความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ กล่าวว่า “การที่หลักทรัพย์กสิกรไทย ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดทางด้านวาณิชธนกิจและการให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศไทย ก็ด้วยการที่เรายึดเอาความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง การร่วมมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจกับทางแมคควอรีกรุ๊ป ในครั้งนี้ คือกุญแจสำคัญอีกดอกหนึ่งที่จะไขประตูแห่งการลงทุนให้เปิดกว้างออกไป เพื่อให้ลูกค้าของเราได้เพิ่มโอกาสในการลงทุนออกไปอย่างไม่มีขีดจำกัด ได้เพิ่มเติมมุมมองและข้อมูลที่กว้างและลึกจากงานวิจัยที่หลักทรัพย์กสิกรไทยและแมคควอรีพัฒนาร่วมกันให้มีมุมมองที่เป็นสากลอย่างแท้จริง ในภาคธุรกิจเอง การต่อยอดทางการด้าน Merger & Acquisition ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสและประสิทธิภาพจากฐานลูกค้าองค์กรในระดับนานาชาติที่ครอบคลุมทั่วโลก รวมถึงการขยายฐานการลงทุนต่าง ๆ ก็สามารถให้บริการได้อย่างง่ายดายและถูกต้องแม่นยำ ด้วยความร่วมมือในครั้งนี้” “และเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้เราก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำของประเทศไทยทางด้านงานวิจัย ทั้งเรื่องความครอบคลุมของบทวิเคราะห์รายหลักทรัพย์ที่มีความกว้างและลึก และบทวิเคราะห์ในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นจุดเด่นของแมคควอรี นอกจากนั้น จะทำให้เรามีส่วนแบ่งทางการตลาดของธุรกิจหลักทรัพย์อยู่ในกลุ่ม Top 3 ของตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกด้วย” น.ส.ณัฐรินทร์ สรุปในตอนท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ