กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด กล่าววันนี้ว่า อันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ยังไม่ได้รับผลกระทบในทันทีจากแผนการซื้อหุ้น 100% ใน Old World Industries I, Ltd. และ Old World Transportation, Ltd. ซึ่งเป็นผู้ผลิตเอทิลีนออกไซด์ (Ethylene Oxide -- EO) และเอทิลีนไกลคอล (Ethylene Glycol -- EG) ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบริษัททั้งสองดังกล่าวเรียกรวมกันว่า Old World Chemical (OWC)
ทั้งนี้ บริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าบริษัทจะลงทุน 100% ใน OWC โดยมีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 795 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 24,645 ล้านบาท) บริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินประมาณ 70% ส่วนที่เหลือ 30% เป็นกระแสเงินสดภายใน การลงทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทเป็นผู้ผลิตในอุตสาหกรรมโพลีเอสเตอร์ที่ครบวงจรยิ่งขึ้นเนื่องจากบริษัทจะผลิตทั้งกรดเทอเรฟธาลลิกบริสุทธิ์ (Purified Terephthalic Acid -- PTA) และสารโมโนเอทิลีนไกลคอล (Monoethylene Glycol -- MEG) ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตสารโพลีเอทิลีนเทอเรฟธาลเลท (Polyethylene Terephthalate Acid -- PET) การผลิตที่ครบวงจรจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนและช่วยให้บริษัทมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า OWC เป็นผู้ผลิต EO และ EG รายใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีกำลังการผลิต EO ขนาด 435,000 ตันต่อปี EO บริสุทธิ์ขนาด 204,000 ตันต่อปี MEG ขนาด 358,000 ตันต่อปี ไดเอทิลีนไกลคอล (Diethylene Glycol -- DEG) ขนาด 64,000 ตันต่อปี และไตรเอทิลีนไกลคอล (Triethylene Glycol -- TEG) ขนาด 6,400 ตันต่อปี ซึ่งโรงงานของ OWC ตั้งอยู่ในศูนย์กลางอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่เมือง Clear Lake มลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2553 OWC มีรายได้ 514 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่ากับ 16% ของรายได้ของบริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส ในปี 2553
สำหรับมุมมองทางด้านอันดับเครดิตนั้น ทริสเรทติ้งกล่าวว่าการลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายของบริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส ที่จะเป็นผู้ผลิตระดับโลกในห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์และเพิ่มกำลังการผลิตให้มีขนาด 10 ล้านตันต่อปีภายในปี 2558 การผลิต MEG ของ OWC นั้นจะเสริมความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส เนื่องจาก MEG เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการผลิตในห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์ ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนและเพิ่มอัตราการทำกำไรของบริษัทในอนาคตเนื่องจากการดำเนินงานของ OWC มีอัตราการทำกำไรที่สูง อย่างไรก็ตาม ฐานะการเงินของบริษัทจะอ่อนแอลงจากการมีภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจในยุโรปที่อ่อนแอประกอบกับความผันผวนด้านราคาของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอาจส่งผลให้บริษัทอ่อนแอลงได้หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปในทางลบ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการจัดการสภาพคล่องที่ดี โดยทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาระดับสภาพคล่องให้เพียงพอตลอดเวลาเพื่อรองรับภาวะอุตสาหกรรมในช่วงขาลง
บริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรมห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์ โดยบริษัทมีฐานการผลิตกระจายตัวอยู่ใน 3 ทวีปได้แก่ เอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ กำลังการผลิตในปัจจุบันของบริษัทประกอบด้วย การผลิต PTA ขนาด 2.452 ล้านตันต่อปี PET ขนาด 3.582 ล้านตันต่อปี เส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ขนาด 0.6 ล้านตันต่อปี เส้นใย Bi/mono-component ขนาด 229,000 ตันต่อปี และโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลขนาด 83,000 ตันต่อปี โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 บริษัทมีรายได้ 142,762 ล้านบาท
ปัจจุบันทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่”