กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--เอแบคโพลล์
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ (Social Innovation Management and Business Analysis, SIMBA) โดยการสนับสนุนทุนวิจัยของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด มหาชน เปิดเผยผลวิจัย เชิงสำรวจเรื่อง การจับจ่ายใช้สอยของชาย-หญิงในวันวาเลนไทน์: กรณีศึกษาตัวอย่างอายุ 18-50 ปี ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 722 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 5-8 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา โดยผลสำรวจทั้งหมดนี้สามารถดึงข้อมูลได้ที่ www.abacpolldata.au.edu
เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างถึงกิจกรรมที่วางแผนจะทำในวันวาเลนไทน์ พบว่า ร้อยละ 65.1 ระบุไปกินข้าว ร้อยละ 40.8 ระบุดูหนัง ร้อยละ 32.4 ระบุทำอาหารกินกันเอง ร้อยละ 18.5 ระบุไปพักตากอากาศ และรอง ๆ ลงไป คือ ฟังเพลง เที่ยวกลางคืน ผับ เทค ไปต่างประเทศ ตามลำดับ
สำหรับค่าใช้จ่ายที่วางแผนไว้สำหรับการไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ พบว่า ร้อยละ 13.8 ระบุใช้ไม่เกิน 500 บาท ร้อยละ 17.9 ระบุ 501-1,000 บาท ร้อยละ 31.7 ระบุ 1,001-2,000 บาท ร้อยละ 18.3 ระบุ 2,001-3,000 บาท และร้อยละ 18.3 เท่ากันระบุมากกว่า 3,000 บาท จำนวนเงินเฉลี่ยสำหรับไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เท่ากับ 1,950 บาท โดยเพศชายวางแผนใช้จ่ายมากกว่าเพศหญิง คือ เพศชายใช้จ่ายเฉลี่ย 2,171 บาท และเพศหญิงใช้จ่ายเฉลี่ย 1,750 บาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ เมื่อทำการประมาณการค่าใช้จ่ายสำหรับการวางแผนไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ พบว่า อยู่ที่ 3,723,030,266 (สามพันเจ็ดร้อยยี่สิบสามล้านสามหมื่นสองร้อยหกสิบหกบาท)
เมื่อให้เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่วางแผนสำหรับการไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ของปีนี้กับปีที่แล้ว พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 60.4 ระบุเท่าเดิม ร้อยละ 32.7 ระบุเพิ่มขึ้น ขณะที่ร้อยละ 6.9 ระบุลดลง
เมื่อถามถึงการวางแผนซื้อของขวัญให้กับคนพิเศษ/คนรัก พบว่า เกินกว่าครึ่งหรือร้อยละ 56.6 ระบุไม่ซื้อ และร้อยละ 43.4 ระบุซื้อ สำหรับที่ของขวัญที่ตั้งใจจะซื้อให้กับคนพิเศษ/ คนรัก พบว่า อันดับหนึ่งหรือร้อยละ 37.5 ระบุดอกไม้ รองลงมาหรือร้อยละ 26.7 ระบุเครื่องแต่งกาย เช่น กระเป๋า รองเท้า ร้อยละ 23.5 ระบุขนมเค้ก ช็อคโกแลต ร้อยละ 16.9 เครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อย กำไล ต่างหู และร้อยละ 1.3 ระบุโทรศัพท์มือถือ ตามลำดับ
และเมื่อสอบถามถึงราคาของขวัญสำหรับคนพิเศษ/คนรัก พบว่า ร้อยละ 29.1 ระบุไม่เกิน 500 บาท ร้อยละ 26.8 ระบุ 501-1,000 บาท ร้อยละ 27.8 ระบุ 1,001-2,000 บาท ร้อยละ 7.0 ระบุ 2,001-3,000 บาท และร้อยละ 9.3 ระบุมากกว่า 3,000 บาท โดยที่ค่าเฉลี่ยราคาของขวัญที่จะซื้อให้คนพิเศษ/คนรัก เท่ากับ 1,487 บาท โดยเพศชายมีค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อของขวัญมากกว่าเพศหญิง คือ เพศชายใช้จ่ายเฉลี่ย 2,167 บาท และเพศหญิงใช้จ่ายเฉลี่ย 838 บาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ เมื่อทำการประมาณการค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อของขวัญในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ พบว่า อยู่ที่ 1,892,699,489 (หนึ่งพันแปดร้อยเก้าสิบสองล้านหกแสนเก้าหมื่นเก้าพันสี่ร้อยแปดสิบเก้าบาท)
เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่วางแผนสำหรับซื้อของขวัญในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ จำแนกตามช่วงอายุ พบว่า กลุ่มอายุ 18-24 ปี มีการใช้จ่ายประมาณ 757.53 บาท กลุ่มอายุ 25-33 ปี มีการใช้จ่ายประมาณ 2,208.18 บาท กลุ่มอายุ 34-39 ปี มีการใช้จ่ายประมาณ 1,793.33 บาท และกลุ่มตัวอย่างอายุ 40-50 ปี มีการใช้จ่ายประมาณ 1,142.18 บาท ตามลำดับ
และเมื่อให้เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่วางแผนสำหรับการซื้อของขวัญ ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ของปีนี้กับปีที่แล้ว พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 57.1 ระบุเท่าเดิม ร้อยละ 28.9 ระบุเพิ่มขึ้น และร้อยละ 14.0 ระบุลดลง
จากการวัดดัชนีความเชื่อมั่นในการวางแผนช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ พบว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นวัดได้ อยู่ที่ 114.9 จุด หมายความว่า จะมีการใช้จ่ายเกิดขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์
ลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่าตัวอย่างร้อยละ 46.8 เป็นชาย และร้อยละ 53.2 เป็นหญิง ตัวอย่างร้อยละ 20.3 อายุระหว่าง 18 — 24 ปี (Gen M) ร้อยละ 25.6 อายุระหว่าง 25 — 33 ปี (Gen Y) ร้อยละ 16.8 อายุระหว่าง 34 — 39 ปี (Gen X) และร้อยละ 37.3 อายุระหว่าง 40 — 50 ปี (Gen B) สำหรับรายได้ร้อยละ 46.1 ระบุรายได้ไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 17.4 ระบุรายได้ 10,001-15,000 บาท ร้อยละ 17.8 ระบุรายได้ 15,001-20,000 บาท และร้อยละ18.7 ระบุรายได้ 20,001 บาทขึ้นไป ด้านการศึกษา ร้อยละ 64.3 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 32.7 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และร้อยละ 3.0 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี