ผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 1/2555 ความคืบหน้าการจัดทำแผนปรับบทบาท (พลิกฟื้น) รัฐวิสาหกิจ

ข่าวทั่วไป Monday February 13, 2012 09:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ครั้งที่ 1/2555 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 ณ ทำเนียบรัฐบาล ว่า สคร. ในฐานะเลขานุการฯ ได้ผลักดันวาระต่างๆ เข้าที่ประชุม เพื่อให้การดำเนินงานต่างๆ ของรัฐวิสาหกิจเป็นไปอย่างโปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน พร้อมนำเสนอแนวทางที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง เพื่อให้การดำเนินงานมีความคล่องตัวและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยที่ประชุม กนร. ได้มีมติดังนี้ 1. ความคืบหน้าการจัดทำแผนปรับบทบาท (พลิกฟื้น) ขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร องค์การสะพานปลา องค์การคลังสินค้า องค์การตลาด องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย และบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด - องค์การตลาด (อต.) อยู่ระหว่างการปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์ฯ ตามข้อสังเกตของ สคร. เพื่อนำเสนอกระทรวงมหาดไทยให้ความเห็นชอบภายในเดือนมีนาคม 2555 - องค์การสินค้า (อคส.) ความคืบหน้านั้นอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงกรอบแผนฟื้นฟูฯ เพื่อจะได้นำเสนอกระทรวงพาณิชย์ให้ความเห็นในเดือนมีนาคม 2555 และยังคงเหลือการดำเนินการปิดงบการเงินโครงการปี 2549-2554 อีก 72 งบ (จาก 103 งบ) - องค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อ.ต.ก.) อยู่ระหว่างการทบทวนแผนปรับบทบาทและปรับปรุงแผนปรับบทบาท (พลิกฟื้น) อ.ต.ก. ปีบัญชี 2555-2558 - องค์การสะพานปลา (อสป.) เร่งแก้ไขปัญหาการจัดหาที่ดินเพื่อทำการก่อสร้างสำนักงานใหม่(ยานนาวา) ตามโครงการพัฒนาสะพานปลากรุงเทพ ซึ่งโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) - บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด (บอท.) เร่งรัดให้ บอท. จัดทำแผนธุรกิจ แผนการเงิน และแผนการตลาดที่สะท้อนถึงประมาณการผลตอบแทนที่หน่วยงานจะได้รับภายในระยะเวลา 5-10 ปี ของโครงการย้ายสถานที่ประกอบกิจการอู่เรือ (อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี) โครงการพัฒนาพื้นที่สถานประกอบการเดิม (ยานนาวา) และโครงการร่วมมือกับภาคเอกชนในการขยายธุรกิจและทำการตลาดเชิงรุก ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของ สศช. - องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ได้ดำเนินการจัดทำแผนวิสาหกิจ ประจำปี 2555-2559 และแผนปฏิบัติการประจำปี 2555 แล้วเสร็จ และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ อ.ส.ค. เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2554 แล้ว ทั้งนี้เนื่องจากเหตุอุทกภัยในปลายปี 2554 ส่งผลกระทบให้ อ.ส.ค. มีรายได้ค่าใช้จ่าย และกำไรสุทธิ ในปีงบประมาณ 2555 ลดลง ดังนั้น อ.ส.ค. จึงต้องปรับเป้าหมายประมาณการงบกำไรขาดทุน ซึ่งขณะนี้ อ.ส.ค. อยู่ระหว่างการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี 2555 เพิ่มเติม 2. ความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาการดำเนินธุรกิจของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) - ประเด็นข้อพิพาททางกฎหมายนั้นไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากข้อพิพาทต่างๆ อยู่ในกระบวนการที่รอการพิพาทของศาล ซึ่งทั้งหมดเป็นคดี Access Charge ของ บมจ.ทีโอที - สคร. และรัฐวิสาหกิจทั้ง 5 แห่ง (บมจ. ทีโอที บมจ. กสท. กฟผ. กฟน. และ กฟภ.) อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้ Fiber Optic ซึ่งเป็นการนำทรัพย์สินของแต่ละแห่งที่มีอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ร่วมกัน โดยได้กำหนดพื้นที่ในการศึกษา 2 พื้นที่ ได้แก่ พัทยา จ. ชลบุรี และเขตหนองจอก กรุงเทพฯ - ที่ผ่านมา บมจ. ทีโอที และบมจ. กสท. ได้ดำเนินการจัดทำแผนพลิกฟื้นทางการเงินและได้ดำเนินการตามแผนดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2552 แล้ว แต่ผลการดำเนินงานโดยรวมของ บมจ. ทีโอที และบมจ. กสท. ยังไม่สะท้อนถึงการพลิกฟื้นฐานะทางการเงิน เนื่องจาก บมจ. ทีโอที และบมจ. กสท. อยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนธุรกิจพลิกฟื้นกิจการ 3. การแก้ไขปัญหาการขาดทุนของบริษัท ไม้อัดไทย จำกัด (มอท.) ในปัจจุบัน มอท. ได้หยุดการดำเนินกิจการแล้ว เนื่องจากขาดเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ มอท. ได้ช่วยเหลือพนักงานโดยการจัดทำโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด และมีพนักงานเข้าร่วมจำนวน 365 คน ซึ่งจะได้รับเงินชดเชยประมาณ 25 เท่าของเงินเดือน มีพนักงานโอนย้ายไปองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) จำนวน 18 คน และมีพนักงานที่ไม่เข้าร่วมโครงการจำนวน 38 คน ในการนี้ มอท. ได้กู้ยืมเงินจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำนวน 290 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้สินและค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยมีกำหนดชำระคืนทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคม 2555 และ อ.อ.ป. เป็นผู้รับผิดชอบดอกเบี้ย ซึ่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 มอท. มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 661 ล้านบาท โดยในปัจจุบัน มอท. อยู่ระหว่างการขายที่ดินจำนวนประมาณ 50 ไร่ เพื่อชำระหนี้สินทั้งหมด และให้โอนทรัพย์สินที่เหลือทั้งหมดให้แก่ อ.อ.ป.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ