ภาวะตลาด Silver by Bowins Silver

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 13, 2012 11:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--โบวินส์ ซิลเวอร์ Price Movement สถานะการณ์ของกรีซยังคงกดดันตลาด commodity และค่าเงินยูโรอย่างต่อเนื่องหลังจากที่รัฐมนตรีคลังของกลุมประเทศในยุโรปชะลอแผนที่จะให้ความช่วยเหลือกรีซรอบ 2 ทำให้เกิดการอ่อนค่าของค่าเงินยูโรและราคา Silver อ่อนตัวลงอย่างหนักประธาน FED ได้ออกมาย้ำถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ ชี้ว่าปัญหาตลาดที่อยู่อาศัย ฉุดการการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้มีแรงฉุดราคา Silver กลับมาได้นิดหน่อย ราคา silver วันนี้ น่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway up โดยมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 34และ 34.50 แนวรับที่ระดับ 33.50 และ 33.30 Key Point in Silver Market สถานะการณ์ของกรีซยังคงกดดันตลาด commodity และค่าเงินยูโรอย่างต่อเนื่องหลังจากที่รัฐมนตรีคลังของกลุมประเทศในยุโรปชะลอแผนที่จะให้ความช่วยเหลือกรีซรอบ 2 ทำให้เกิดการอ่อนค่าของค่าเงินยูโรและราคา Silver อ่อนตัวลงอย่างหนัก ความแตกต่างบนความแตกแยกของ EU นั้นค่อยๆที่จะปะทุให้เห็นเป็นระยะ การดำเนินงานภายใต้ความกดดันของ คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของกรีซนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่งการประกาศรับนโยบายหรือมาตรการรัดเข็มขัดภายในประเทศเพื่องที่จะได้รับความช่วยเหลือรอบสองจาก EU และ IMF ท่ามกลางการประท้วงอย่างหนัก ของประชาชนภายในประเทศ นับว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่เคยได้แล้วไม่ได้ หรืออาจจะต้องลำบากหนักขึ้นไปอีก ของชนชาวกรีกที่เคยมีอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ในอดีต แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น การที่รัฐมนตรีคลังยุโรป ชะลอการแผนที่จะให้ความช่วยเหลือแก่กรีซแต่เชื่อว่าในใจลึกเองนั้นสุดท้ายแล้วก็จะต้องจำเป็นที่จะต้องให้ความช่วยเหลือและกรีซเองก็จำเป็นที่จะต้องรับความช่วยเหลือเช่นกัน เนื่องจากกรีซคงไม่สามารถที่จะผิดนัดชำระหนี้ในเดือนมีนาคมนี้ได้หากปล่อยให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซนั้น ผลที่จะตามมาและกระทบต่อกลุ่มเจ้าหนี้และเสถียรภาพในยูโรโซนเองนั้น ก็คงจะมีไม่น้อยและที่สำคัญคงมากกว่าผลกระทบที่เผชิญอยู่ในปัจจุบันอย่างแน่นอน หนี้สูญที่จะหายไปพร้อมกับการล่มสลายของกรีซ จะเป็นปัญหาใหญ่ๆอีกปัญหานึงที่จะต้องตามแก้แต่ก็อย่าลืมว่าการที่จะเป็นปัญหาหนักๆเข้าไปอีกปัญหานึงบวกกับปัญหาเดิมๆที่ยังคงมีอยู่ ทั้งโปรตุเกส สเปน อิตาลี ก็ยังคงอยู่เช่นเดิม ฉะนั้นแล้วปัญหาของ EU จะยังคงต้องใช้ความสมานสามัคคีร่วมมือกันที่จะหาแนวทางแก้ไขปัญหาเดิมที่ยังมีอยู่และที่สำคัญคืออย่างสร้างปัญหาใหม่ ข้ามฟากมายัง สหรัฐอเมริกา กันบ้าง จะสัปดาห์ที่แล้ว ข้อมูลการขาดดุลการค้าสหรัฐยังคงขาดดุลอย่างต่อเนื่อง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะคงชะลอตัวหรือใครหลายๆคนคิดว่าค่อยๆฟื้นก็ไม่ได้ผิดมากนัก แต่สภาพทางเศรษฐกิจที่ยังคงกดดันการฟื้นตัวของสหรัฐ ยังคงมีอยู่หลากหลายปัจจัยอย่างมากมาย ทั้งการว่างงาน การขาดดุลงบประมาณในระดับที่สูง ตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังคงซบเซา (แม้ราคาจะกระเตื่องขึ้นบ้าง) ดูจากการที่ประธาน FED ที่ออกมาพูดถึงสภาพของเศรษฐกิจที่อ่อนแออย่างต่อเนื่อง หรือ FED คิดจะทำอะไรต้องติดตามดูต่อไป น่าจะไปเห็นไม้ตายของ FED ในเร็วๆนี้ ทางฝั่งภาคพื้นเอเซีย ความกังวลเกี่ยวกับสถานะการณ์ในอิหร่าน ที่ดูท่าทีของอิหร่านจะการที่ ปธน.อาร์มาดิเนจาท ออกมาพูดถึงโครงการนิวเคลียร์ที่จะดำเนินการต่อไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มาตรการในการตอบโต้การคว่ำบาตรที่จะไม่ส่งน้ำมันในกับบางประเทศในยุโรป ทั้งที่เค้ายังไม่เริ่มการคว่ำบาตร สะท้อนให้เห็นว่าอิหร่านเองก็ไม่ได้เกรงกลัวหรือเป็นกังวลว่าจะขายน้ำมันไม่ได้ อีกทั้งยังสื่อสารไปยังกลุ่ม OPEC ที่ไม่ให้เพิ่มเพดานการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยส่วนที่หายไปของอิหร่าน(ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ข้อสรุปยังไง) แต่การตอบโต้ของอิหร่านในลักษณะนี้ทำให้เราประเมินได้ว่าอิหร่านเองก็พร้อมที่จะรับมือเช่นกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วชาติมหาอำนาจที่ไม่ค่อยชอบการท้าทายเท่าไหร่ จะทำยังไง เราก็ยังคงต้องติดตามกันต่อไป ต่อมาก็มาถึงจีน ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆของโลก ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ พุ่งขึ้นแบบน่าใจหาย และน่าเป็นกังวล ดัชนีราคาผู้ผลิตพุ่งพรวด ตัวเลขเกินดุลงบประมาณเพิ่มกว่า 50% ต่อไปจากนี้เศรษฐกิจของจีนเองหรือรัฐบาลของจีนคงจะต้องควบคุมหรือหาทางที่จะชะลอตัวเองเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจโตเร็วเกินไปจนยากที่จะควบคุมหรือว่าถ้าปล่อยให้โตเร็วเกินไปมันก็อาจจะแตกเร็วด้วยฉะนั้นแล้ว ค่อยๆเป็นค่อยๆไปน่าจะดีกว่า สุดท้ายนี้หลากหลายปัจจัยในมุมมองของ Macro-Economic ล้วนแล้วแต่น่าจะเป็นผลดีต่อราคา Commodity ทั่วโลก โดยเฉพาะ GOLD และ Silver ที่มีคุณสมบัติเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยพ่วงท้ายมาด้วยนั้นเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ