กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--บีโอไอ
ก.อุตสาหกรรม มั่นใจนักลงทุนเชื่อมั่นศักยภาพประเทศไทย เผยเดือน มกราคม 2555 มีผู้สนใจยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนแล้ว 112 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนเฉียด 80,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็น 3 เท่า เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปี 2554 พร้อมมอบบีโอไอ จัดกิจกรรมกระตุ้นการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เตรียมแผนโรดโชว์ในประเทศเป้าหมายทั้งปี กว่า 100 คณะ
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนในปี 2555 ว่า นักลงทุนยังคงให้ความสนใจ และเชื่อมั่นศักยภาพการเป็นประเทศรองรับการลงทุนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้รายงานสถานการณ์ลงทุนในเดือนมกราคม 2555 ที่ผ่านมา มีนักลงทุนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทยแล้ว 112 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 78,700 ล้านบาท โดยโครงการปรับขึ้นร้อยละ 8.74 จากช่วงเดียวกันปี 2554 ที่มี 103 โครงการ ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนปรับเพิ่มขึ้นคิดเป็น 3 เท่า จากมูลค่าการลงทุนช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่าอยู่ที่ 26,300 ล้านบาท
กิจการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนสูงสุด เป็นกลุ่มเคมี กระดาษ และพลาสติก จำนวน 25 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 47,700 ล้านบาท กิจการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรองมาเป็นกิจการบริการและสาธารณูปโภค มี 25 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 13,200 ล้านบาท กิจการอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้ามี 22 โครงการ เงินลงทุน 5,300 ล้านบาท กิจการผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง มี 19 โครงการ เงินลงทุน 5,200 ล้านบาท กิจการเกษตรกรรม และผลิตผลจากการเกษตร 13 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 4,500 ล้านบาท ตามลำดับ
“แม้ในช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ประเทศไทยจะเผชิญกับปัญหาจากอุทกภัยน้ำท่วม แต่ในภาพรวมนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นต่อศักยภาพ และแผนบริหารจัดการปัญหาน้ำของรัฐบาลที่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังยืนยันที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการลงทุน และขยายกิจการในอนาคต รวมถึงเพื่อรองรับการขยายตลาดภายหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้ ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพเป็นศูนย์กลางทางด้านการค้า และการลงทุนในได้สูงสุดในภูมิภาค ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นและจูงใจนักลงทุนในการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2555 นี้ จึงมอบนโยบายให้บีโอไอ เร่งเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นทั้งในส่วนของนักลงทุนภายในประเทศ และต่างประเทศมากขึ้น ทั้งกิจกรรมในรูปแบบการอบรม สัมมา การพบปะผู้ประกอบการโดยตรง รวมถึงการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงจับคู่ธุรกิจ เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการไทย
ขณะเดียวกันเร่งจัดกิจกรรมโรดโชว์ในประเทศต่างๆ ที่มีศักยภาพ และเป็นเป้าหมายการดึงดูดการลงทุนของไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตามแผนในปี 2555 นี้ บีโอไอ กำหนดจะจัดให้มีกิจกรรมในรูปแบบของการจัดคณะโรดโชว์ ไปยังประเทศเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 115 คณะ ประกอบด้วย คณะใหญ่ ซึ่งจะมีตัวแทนของผู้บริหารระดับกระทรวงร่วมเดินทางด้วย และกิจกรรมของคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของบีโอไอ
สำหรับประเทศเป้าหมาย ของกิจกรรมโรดโชว์ ในปี 2555 อาทิ ญี่ปุ่น มีอุตสาหกรรมเป้าหมายในการชักจูงการลงทุน อาทิ อุตฯยานยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แปรรูปเกษตร และอาหาร พลังงานทดแทน บริการเครื่องจักรและอุปกรณ์
ประเทศอเมริกา มีกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ ไบโอเทคโนโลยี อุตสาหกรรมอากาศยาน ซอฟต์แวร์ อุปกรณืและเครื่องมือแพทย์ ประเทศเยอรมนี กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เคมีภัณฑ์ พลังงานและส่งเวดล้อม วิจัยและพัฒนา ประเทศอังกฤษ อุตสาหรกรมแปรรูปเกษตร ชิ้นส่วนโลหะ วิจัยและพัฒนา ไบโอเทคโนโลยี เป็นต้น
นอกจากนี้ยังจะเร่งจัดให้มีกิจกรรมทั้งในรูปแบบของการชักจูงการลงทุน และกระตุ้นให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในประเทศนั้น ๆ เพื่อขยายตลาดการค้าและการลงทุน รวมถึงลดต้นทุนการผลิต อาทิ ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพเข้าไปลงทุนในด้าน อุตสาหกรรมบริการ เกษตรแปรรูปและอาการ ประเทศอินเดีย นักลงทุนไทยสามารถเข้าไปลงทุนได้ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เกษตรและเกษตรแปรรูป ก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น