กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--การกระทรวงวัฒนธรรม
นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงการจัดงานรณรงค์การสวมใส่ผ้าไทย ในแนวคิด “แนวไหนก็ผ้าไทยได้” ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดขึ้นในวันนี้ว่า งานฯในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อณรงค์ส่งเสริมการใช้ผ้าไทย โดยเชิญชวนให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยใส่เสื้อผ้าที่ตัดเย็บด้วยผ้าไทยในชีวิตประจำวัน และเนื่องจากเป็นปีมหามงคล ที่สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา กระทรวงวัฒนธรรมถือเป็นวโรกาสพิเศษจัดกิจกรรมถวายความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติ ในฐานะที่พระองค์ทรงมีสายพระเนตรเห็นคุณค่าของเส้นใยเล็กๆ ที่ถักทอสะท้อนภูมิปัญญาและวัฒนธรรมความเป็นไทย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้และสมควรที่ชาวไทยจะได้ดำเนินตามรอยพระยุคลบาท
นางสุกุมล กล่าวอีกว่า ผ้าไทยในที่นี้ไม่ได้หมายถึงผ้าไหมเพียงอย่างเดียว ยังมีทั้งผ้าฝ้าย ผ้าพิมพ์ลาย ผ้าบาติก ซึ่งถือว่าเป็นผ้าไทยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ปัจจุบันหลายภูมิภาคในประเทศมีการสวมใส่ผ้าไทยอย่างสม่ำเสมอซึ่งได้แสดงออกถึงเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีการตัดเย็บผ้าขาวม้าเป็นชุดเสื้อผ้าหลายรูปแบบมาสวมใส่กัน ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงออกถึงเอกลักษณ์และยังเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ประกอบการทางด้านการทอผ้าในการเสริมรายได้มากยิ่งขึ้น และในจังหวัดชลบุรี จะมีการสวมใส่ผ้าบาติกพิมพ์ลายลายประเพณีวิ่งควาย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีความสามารถในการเย็บผ้าและรักการออกแบบสีเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนจังหวัดตรัง มีการทอผ้าของชาวนาหมื่นศรี มาตั้งแต่โบราณและต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ด้วยความผูกพันกับมรดกวัฒนธรรมที่เสมือนเป็นชีวิต จิตใจ ในขณะเดียวกันนั้น ผ้าไทยยังมีการพัฒนาในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการดูแลรักษา ซึ่งปัจจุบันดูแลรักษาง่ายขึ้น ส่วนวัตถุดิบที่ใช้ก็สวมใส่สบายเหมาะกับสภาพอากาศของแต่ละพื้นที่
“ด้วยเหตุผลของยุคสมัยและกระแสวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คนไทยห่างเหินจากผ้าไทยไปมาก จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยหันมาเห็นความสำคัญของผ้าไทย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในสังคมต่อไป หากพิจารณาให้ดีก็จะเห็นว่าผ้าไทยสามารถนำมาตัดเย็บให้เข้ากับเสื้อผ้ายุคใหม่ได้ทุกรูปแบบ หรือจะนำมาผสมผสาน (MIX & MATCH) ตกแต่งด้วยความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ก็จะยิ่งทำให้เสื้อผ้าดูมีเอกลักษณ์ และดัดแปลงให้ดูทันสมัยเข้าได้กับทุกแฟชั่นได้ดีอีกด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว
นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม ได้ส่งเสริมการแต่งกายด้วยผ้าไทยในชุดพระราชทานสำหรับสุภาพบุรุษ และชุดไทยพระราชนิยม สำหรับสุภาพสตรี รวมถึงการใช้ชุดแนวประยุกต์ ที่มีการส่งเสริมค่านิยมให้กับคนรุ่นใหม่หันมาใช้ผ้าไทยอย่างจริงจัง โดยรูปแบบนี้จะทำให้การใช้ผ้าไทยมีความหลากหลายในรูปแบบของการดีไซด์ ผนวกกับการใช้เครื่องประดับอื่นๆประกอบ เพื่อให้คนที่นิยมใช้ผ้าไทยและแสดงให้เห็นว่าการใช้ผ้าไทยไม่ได้เหมาะสมกับผู้ใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถทำให้วัยรุ่นได้เห็นว่าผ้าไทยสามารถออกแบบได้ตามรูปร่างที่ตนเองต้องการ ที่สำคัญเป้าหมายงานฯในครั้งนี้ คือ อยากให้คนรุ่นใหม่หรือประชาชนทุกคน สามารถมองผ้าไทยในลักษณะที่ว่า ในสถานการณ์ใดๆก็แล้วแต่สามารถใช้ผ้าไทยได้ไม่ว่าจะเป็นงานพิธี หรือเป็นงานทางการเพียงอย่างเดียว แต่ผ้าไทยสามารถใช้ได้ทุกโอกาสอีกด้วย
ด้านณเดชณ์ คูกิมิยะ ในฐานะคนรุ่นใหม่ซึ่งมาร่วมเป็นนายแบบรับเชิญของงานนี้แสดงความคิดเห็น ต่อผ้าไทยว่า “ยอมรับครับว่าคนรุ่นผมไม่ค่อยได้ใส่ผ้าไทยมากนัก นอกจากในงานสำคัญๆ แต่จริงๆ แล้ว ผ้าไทยก็มีหลายประเภท เราสามารถเลือกมาดัดแปลงให้เข้ากับแนวเสื้อผ้าที่เราชอบใส่ได้อย่างชุดที่ผมใส่ในวันนี้ ซึ่งตัดด้วย ผ้าไทยก็ดูดี ใครเห็นก็ชมว่าสวย เห็นมั้ยครับว่า ผ้าไทยตัดเสื้อให้ดูดี เข้ากับแฟชั่นได้ เพียงแค่เราเปลี่ยนความคิดที่มีต่อผ้าไทย อย่ามัวแต่คิดว่าเชย เราก็ใส่ได้อย่างมั่นใจครับ ขอเชิญชวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และคนไทยทุกคนมาสวมใส่ผ้าไทยด้วยกันนะครับ”
ส่วนญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ ก็เชิญชวนให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจผ้าไทยว่า “ญาญ่าว่าผ้าไทยเป็นผ้าที่ไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์ และใส่สบายนะคะ ใส่ได้ในทุกๆ วัน ยิ่งเอามาตัดชุดที่มีดีไซน์เก๋ๆ ก็ยิ่งดูดี วัยรุ่นก็ใส่ได้ ผู้ใหญ่ก็ใส่ดีค่ะ อย่างดีไซเนอร์ชื่อดังหลายๆ คนก็เอาผ้าไทยไปออกแบบชุดสวยๆ เยอะมาก เราเป็นคนไทยก็น่าจะภาคภูมิใจในผ้าไทยด้วย ลองเอาผ้าไทยมาตัดเสื้อผ้าใส่กันดูนะคะ รับรองว่าดูดีทุกคนค่ะ”