กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
บลจ.ทิสโก้ ส่งกอง “ทิสโก้ ตราสารหนี้เพิ่มค่า 6M3” ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งในและ/หรือต่างประเทศ เพิ่มทางเลือกลงทุนระยะสั้นและโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก ไอพีโอตั้งแต่วันนี้ - 15 ก.พ. 55 ที่บลจ.ทิสโก้ และธนาคารทิสโก้ทุกสาขา ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Theeranat Rujimethapass, Managing Director of TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้ เปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้เพิ่มค่า 6M3 (TISCO Fixed Income Plus Fund 6M3)” ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้และ/หรือเงินฝากในประเทศและ/หรือต่างประเทศ และ/หรือตราสารทางการเงินหรือตราสารแห่งหนี้อื่น ๆ โดยในกรณีที่มีการลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะสั้นและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก
ด้าน TISCO Wealth ซึ่งเป็นบริการที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนอย่างครบวงจรของกลุ่มทิสโก้ มองว่าภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ ในตอนนี้เส้นอัตราผลตอบแทน Yield Curve ปรับตัวลดลงทั้งเส้น โดยพันธบัตรที่มีช่วงอายุคงเหลือน้อย ปรับตัวลดลงน้อยกว่าพันธบัตรที่มีช่วงอายุคงเหลือมากเพียงเล็กน้อย โดยมีปัจจัยสนับสนุนการที่ กนง. อาจมีการปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีก 0.25% เนื่องจาก แรงกดดันเงินเฟ้อน้อยลงแล้วและผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยที่ยืดเยื้อ ทำให้ตลาดเริ่มคาดการณ์ถึงการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น อีกทั้ง Supply ของตราสารหนี้ไทยมีอยู่ค่อนข้างจำกัด โดยคาดว่าจะมีภาวะตึงตัวของ Supply ไปถึงสิ้นเดือน ก.พ.หากยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการโอนหนี้ของกองทุนฟื้นฟูแล้ว กำหนดการออกพันธบัตรเพื่อใช้ในการชำระดอกเบี้ยกองทุนฟื้นฟู ถูกเลื่อนออกไป ส่งผลให้ Bond Supply ตราสารหนี้ภาครัฐบางส่วนยังไม่มีกำหนดออกชัดเจน หากรัฐบาลยังมีนโยบายในการบูรณะประเทศซึ่งใช้เงินกู้จำนวนมากเช่นที่ประกาศ ด้วยกรอบการกู้เงินในงบประมาณกว่า 4 แสนล้านบาทแล้ว คาดว่า Supply ตราสารหนี้อาจมีมากขึ้นในช่วงท้ายของปี ทำให้ในระยะสั้นนี้ผลตอบแทนมีแนวโน้มที่จะทรงตัวอยู่ในระดับนี้ต่อไป
ด้านตลาดเงินฝากมีการแข่งขันที่ชะลอตัวลง และอาจได้เห็นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและตั๋วแลกเงินที่มีระยะเวลา 3 — 6 เดือน อยู่ที่ประมาณ 3.00% ซึ่งต่ำกว่าปี 2011 เล็กน้อย เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลง เช่นเดียวกับแนวโน้มต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้นจากการถูกตัดเงินเข้าสมทบในกองทุนฟื้นฟู เพื่อจ่ายดอกเบี้ยของกองทุน ทำให้สถาบันการเงินจึงระมัดระวังในการออกผลิตภัณฑ์ ในช่วงนี้ TISCO Wealth มองว่า แม้อัตราผลตอบแทนจะปรับลดลงบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นระดับที่ยังน่าสนใจในการลงทุนและให้ผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อพื้นฐาน จึงแนะนำการลงทุนในผลิตภัณฑ์เงินฝากหรือตั๋วแลกเงินที่มีอายุตราสารยาวขึ้น เพื่อให้สอดรับกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่อาจปรับตัวลดลงได้อีกครั้ง อีกทั้งสามารถลงทุนได้ในกองทุนรวมตราสารหนี้ ซึ่งมีอายุการลงทุนเฉลี่ย 6 เดือน ถึง 1 ปี ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐบาล ภาคเอกชนที่มีระดับความน่าเชื่อถือสูง หรือเงินฝากในสกุลเงินต่างประเทศซึ่งมีการป้องกันความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน ผู้ลงทุนจะได้รับประโยชน์ทั้งผลตอบแทนที่สูงในทิศทางดอกเบี้ยขาลง
โดย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้เพิ่มค่า 6M3 (TISCO Fixed Income Plus Fund 6M3)” มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน โดยเปิดเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) ระหว่างวันนี้ - 15 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ บลจ.ทิสโก้และธนาคารทิสโก้ ทุกสาขา มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 20,000 บาท
ทั้งนี้ ผู้สนใจกองทุนดังกล่าวสามารถติดต่อได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน