กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
นายแพทย์บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ในระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง หลายพื้นที่บางวันมีฝนตก หรือมีอุณหภูมิลดลง บางวันอากาศร้อนอบอ้าว อาจส่งผลให้ประชาชนเกิดการเจ็บป่วยได้ โรคที่มักพบบ่อย ได้แก่ โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม เป็นต้น โดยเฉพาะโรคไข้หวัดเป็นโรคที่เกิดได้ตลอดทั้งปี ส่วนไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจอย่างเฉียบพลันเกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus) หรือไวรัสไข้หวัดใหญ่ โรคหวัดสามารถติดต่อจากคนสู่คน สำหรับอาการของผู้ป่วยไข้หวัดทั่วไปอาการที่พบบ่อย คือ ตัวร้อนเป็นพักๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกใส จาม คอแห้ง เจ็บคอ ไอ ส่วนไข้หวัดใหญ่จะมีอาการแตกต่าง คือ ไข้สูงฉับพลัน หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และหากมีโรคแทรกซ้อนก็อาจมีอาการรุนแรงจนทำให้เสียชีวิตได้ ผู้ป่วยที่ต้องดูแลเป็นพิเศษเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ คือ ผู้สูงอายุตั้งแต่อายุ 65 ปีขึ้นไป, ผู้ที่มีโรคประจำตัว, เด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี, เด็กที่ทานยาแอสไพรินเป็นเวลานาน, หญิงตั้งครรภ์ในฤดูกาลที่มีไข้หวัดใหญ่ระบาดและมีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
โรคไข้หวัดแม้จะเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นและติดต่อได้ง่าย ด้านการดูแลรักษาก็สามารถทำได้ง่ายเช่นกัน เพียงดูแลสุขภาพให้แข็งแรง สวมเครื่องนุ่งห่มที่มีความหนาจะสามารถทำให้ร่างกายของเราอบอุ่น ประชาชนจึงควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทุกหมู่ ดื่มน้ำมากๆ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใกล้ชิดและการใช้ของร่วมกับผู้ป่วย ล้างมือบ่อยๆ หากเป็นไข้หวัด ควรมีผ้าปิดปากป้องกันการไอหรือจามที่จะแพร่เชื้อไปสู่คนรอบข้าง เป็นต้น ส่วนเด็กเล็กที่มีอาการเป็นไข้ควรหลีกเลี่ยงยาลดไข้แอสไพริน เพราะอาจเกิดอาการตับวายและสมองอักเสบได้ หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบส่งให้แพทย์ตรวจ สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ แนะนำให้ฉีดในบุคคลทั่วไปที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังตั้งแต่อายุ 65 ปีขึ้นไปและบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนผู้ที่ไม่แน่ใจว่าแพ้ส่วนประกอบของวัคซีนควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดทุกครั้ง
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า จากกรณีข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ ที่เรียกว่า “Human H3N2 — Swine Origin Influenza Virus” ที่พบในสหรัฐอเมริกานั้นสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ศูนย์ไข้หวัดใหญ่แห่งชาติได้มีการติดตามและเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง และจากการสุ่มเก็บตัวอย่างเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่แยกได้ในระบบเฝ้าระวังของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และระบบบริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการระหว่าง เดือนมกราคม ถึง ธันวาคม 2554 เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงสายพันธ์ พบว่าตัวแทนของเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่แยกได้ มีความคล้ายคลึงกันกับสายพันธุ์วัคซีนที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้ทางซีกโลกเหนือและใต้ สำหรับในประเทศไทยนั้นยังไม่พบการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ H3N2- SOIV หรือ H3N2V