ภาพข่าวโมเอ็ท ชองดอง ฉลองเปิดตัวแชมเปญระดับวินเทจชั้นเลิศ โมเอ็ท ชองดอง แกรนด์ วินเทจ 2002 (Moet & Chandon Grand Vintage 2002)

ข่าวทั่วไป Tuesday February 14, 2012 10:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--Media Plus Connection โมเอ็ท ชองดอง (Moet & Chandon) เจ้าตลาดแชมเปญยอดนิยม เปิดตัว “โมเอ็ท ชองดอง แกรนด์ วินเทจ 2002” (Moet & Chandon Grand Vintage 2002) แชมเปญระดับวินเทจที่ใช้ระยะเวลาการหมักบ่มนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1930 เป็นต้นมา พร้อมเปิดตัวสัญลักษณ์แบรนด์ใหม่ (Brand Identity) ที่โดดเด่นกว่าเดิม ฉลองความสำเร็จที่เกิดจากความพิถีพิถันในการหมักบ่มองุ่นพันธุ์ดี เก็บเกี่ยวในปีที่มีภูมิอากาศเหมาะสม โดยฝีมือและความเชี่ยวชาญที่ส่งผ่านกันมาหลายชั่วคนของโมเอ็ท ชองดอง พร้อมเหล่าเซเลบริตี้ร่วมงานกันอย่างคับคั่ง โมเอ็ท ชองดอง แกรนด์ วินเทจ 2002 เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่มีเฉพาะแขกพิเศษที่ได้รับเชิญเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดเป็นเซเลบชั้นนำและคนรักแชมเปญอย่างแท้จริง โดยจัดขึ้นที่เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ในค่ำคืนบรรยากาศสุดหรูใจกลางกรุงเทพฯ มร. อาร์โนล มิเร่ย์ แบรนด์แอมบาสเซเดอร์ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก เปิดเผยว่า “แกรนด์ วินเทจ 2002 เกิดจากความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงที่จะผลิตแชมเปญที่พิเศษสุดให้เป็นของขวัญสำหรับคนรักแชมเปญ ทั้งนี้ เราไม่ได้หมักนานแค่ 3-5 ปีเท่าแชมเปญระดับวินเทจทั่วไป แต่เลือกที่จะหมักบ่มนานถึง 7 ปีเพื่อให้ได้แชมเปญคุณภาพสูงที่ไม่มีใครเหมือน” โมเอ็ท ชองดอง แกรนด์ วินเทจ 2002 ผลิตจากองุ่นที่เก็บเกี่ยวในแคว้นแชมเปญของฝรั่งเศสในปี 2545 ซึ่งเป็นปีที่พิเศษเนื่องจากมีอุณหภูมิที่ค่อนข้างอุ่นกว่าปกติ มีแสงแดดอ่อนๆ ในฤดูหนาว ซึ่งเป็นลักษณะภูมิอากาศที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการปลูกองุ่น โมเอ็ท ชองดอง แกรนด์ วินเทจ 2002 มีรสชาติที่สมบูรณ์แบบ ทั้งหวานและเข้มในจิบแรกจะรู้สึกได้ถึงรสชาติและกลิ่นอันอบอุ่นของธัญพืช และกลิ่นหอมหวาน ผสานกับกลิ่นหอมของอัลมอนด์ มอลต์ มอคคา และกลิ่นยาเส้นบางเบา เมื่อจิบแรกผ่านไปแล้วจึงจะได้สัมผัสถึงกลิ่นผลไม้สุกที่นุ่มลิ้น ปิดท้ายด้วยรสจบที่สมบูรณ์แบบที่สุด และเพื่อเฉลิมฉลองความพิเศษที่ไม่มีใครเหมือนของ แกรนด์ วินเทจ 2002 จึงได้เปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์ แบรนด์ใหม่ ที่เพิ่มความโดดเด่นและยกย่องปีวินเทจที่ดีที่สุด ที่โมเอ็ท ชองดองเลือกใช้ในการผลิตแชมเปญระดับวินเทจ โดยสัญลักษณ์แบรนด์ใหม่นี้เกิดจากแรงบันดาลใจจากป้ายที่เขียนด้วยชอล์คที่โรงบ่มไวน์ และนำมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาสัญลักษณ์แบรนด์ใหม่ที่จะสื่อถึงความหรูและความสุนทรีย์อันเป็นรางวัลชีวิต มร.คริสเตอร์ สเวนสัน ผู้จัดการทั่วไป เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า “เรามีความยินดีที่ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่เปิดตัว โมเอ็ท ชองดอง แกรนด์ วินเทจ 2002 แชมเปญระดับวินเทจนี้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นการฉลองความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างโรงแรมและโมเอ็ท ชองดอง รวมทั้งความพยายามของเราที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกราย ทั้งนี้ เราจึงเลือก โมเอ็ท ชองดอง แกรนด์ วินเทจ 2002 มาใช้เป็น แชมเปญหลัก ในการเสิร์ฟลูกค้า เพื่อนำเสนอประสบการณ์อันน่าประทับใจ และให้ลูกค้าคนสำคัญได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อที่มาใช้บริการที่โรงแรม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดตัวแชมเปญระดับวินเทจ พร้อมสัญลักษณ์แบรนด์ใหม่ โมเอท ชองดอง ได้จัดงานเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้รูปแบบพิเศษ โดยเชิญเหล่าเซเลบริตี้คนดังมาร่วมเผยเคล็ดลับการจับคู่อาหารจานโปรดที่ทานคู่เข้ากันได้ดีกับ แกรนด์ วินเทจ 2002 ในงาน “The Moet Grand Vintage Gourming Atelier” (เดอะ โมเอ็ท กูมมิ่ง แอททิเลีย) ซึ่งโมเอ็ท ชองดอง สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้คนรักแชมเปญได้สัมผัสกับ ศิลปะแห่งการปรุงอาหารอย่างมีสไตล์ และแชมเปญรสเลิศอย่าง แกรนด์ วินเทจ 2002 ลีโอนาร์โด คอนเซสซี่ เอ๊กเซ็กคลูทีฟเชฟ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ได้นำความเชี่ยวชาญและความชำนาญของตนมาสร้างสรรค์ และสาธิตให้ทุกคนที่มาร่วมงานได้ทดลองชิมแชมเปญ เมื่อจับคู่กับอาหารแต่ละชนิดที่มีส่วนผสมแตกต่างกันไป ซึ่งจะช่วยดึงเอาความโดดเด่นและรสชาติอันนุ่มละมุนของ แกรนด์ วินเทจ 2002 ที่สะท้อนความเป็นแชมเปญในตระกูลแกรนด์ วินเทจ ได้อย่างเต็มที่ มร. อาร์โนล มิเร่ย์ แบรนด์แอมบาสเซเดอร์ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และมาสเตอร์เชฟ ลีโอนาร์โด คอนเซสซี่ รวมกันแชร์ความประทับใจเกี่ยวกับความชื่นชอบที่มีต่อ แกรนด์ วินเทจ 2002 “สำหรับผมแล้ว แกรนด์ วินเทจ 2002 ถือเป็นการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เพราะเป็นแชมเปญระดับวินเทจคุณภาพเยี่ยมที่หาได้ยาก และเกิดจากการผสมผสานระหว่างองุ่นชั้นเลิศจากธรรมชาติและความพิถีพิถันในการผลิตเพื่อให้ได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบที่สุด โมเอ็ท ชองดอง ต้องใช้ ความกล้าหาญมากมายที่จะไม่ทำตามธรรมเนียมเพื่อรังสรรค์เครื่องดื่มที่พิเศษสุด ซึ่งผลลัพธ์ก็ยอดเยี่ยมจริงๆ ยิ่งเมื่อจับคู่กับเครื่องปรุงที่เหมาะสมและอาหารที่เข้ากันดีก็จะยิ่งให้ประสบการณ์พิเศษเหนือระดับจริงๆ” ดร. แคทลีน มาลีนนท์ กิจโอธาน ร่วมเผยประสบการณ์ในการจับคู่อาหารจานโปรดที่ทานคู่เข้ากันได้ดีกับ แกรนด์ วินเทจ 2002 ว่า “งานนี้เป็นการฉลองที่เหนือระดับจริงๆ เราได้มีโอกาสเรียนรู้จากมาสเตอร์เชฟเกี่ยวกับศิลปะในการปรุงอาหารและจับคู่อาหารที่เข้ากันได้ดีกับแชมเปญ นับว่าเป็นประสบการณ์พิเศษ จริงๆ ค่ะ” และเนื่องในโอกาสพิเศษฉลองเปิดตัว แกรนด์ วินเทจ 2002 ในการจับมือร่วมกันระหว่าง โมเอ็ท ชองดองและเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ลูกค้าผู้ชื่นชอบแชมเปญวินเทจ เมื่อสั่งแกรนด์ วินเทจ 2002 จำนวน 1 ขวดที่ เซนต์ รีจิส บาร์ รับคานาเป้เมนูพิเศษแนะนำโดยเซเลบริตี้คนดังและมาสเตอร์เชฟ ที่บาร์ของโรงแรม ระหว่างวันที่ 1-29 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ