กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์
จากเหตุเพลิงไหม้ที่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF เมื่อช่วงเวลา 14.00 น. ของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555 เสียหายเฉพาะส่วนไลน์การผลิตกุ้ง แต่ในไลน์การผลิตอื่นๆ ไม่ได้รับผลกระทบ ด้วยระบบมาตรการความปลอดภัยที่ดีของบริษัท ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่าง รวดเร็ว ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้และมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และเผยมีการทำประกันไว้เต็มมูลค่า
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เปิดเผยถึง เหตุการณ์ครั้งนี้ว่า “บริษัทสามารถควบคุมสถานการณ์การได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดใด พนักงานของบริษัทไม่มีผู้ใดเสียชีวิต มีเพียงพนักงานที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติงานได้รับผลกระทบจากควันไฟเล็กน้อย และอุบัติเหตุจากการอพยพเคลื่อนย้ายออกจากที่เกิดเหตุ จำนวน 66 คน จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อปฐมพยาบาลในเบื้องต้น และในขณะนี้ส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คณะผู้บริหารของบริษัทมีความเป็นห่วงในความปลอดภัยของพนักงานทุกคน พร้อมทั้งมีมาตรการในการให้ความช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มที่ และยืนยันว่าทางบริษัทยังคงให้พนักงานทุกคนได้ปฏิบัติงานตามปกติ โดยจะโยกย้ายพนักงานโรงกุ้งจำนวนประมาณ 2,100 คนให้ไปทำงานในส่วนไลน์การผลิตอื่นๆ ของบริษัทแทน ขณะเดียวกันบริษัทในเครือทุกบริษัทก็พร้อมที่จะรองรับพนักงานที่โยกย้ายเข้ามา”
“ในส่วนเรื่องที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า มีก๊าซแอมโนเนียรั่วไหลนั้น ทางบริษัทขอยืนยันว่า ไม่พบการรั่วไหลของก๊าซแอมโมเนีย และไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่รอบข้างบริษัทแต่อย่างใด”
สำหรับพื้นที่ความเสียหายนั้น อยู่เฉพาะในส่วนของการผลิตกุ้ง โดยทางฝ่ายบริหารความปลอดภัยของทางบริษัท (จป.) สามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จากแผนความปลอดภัยและแผนรองรับการอพยพในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งการประสานงานกับหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยและโรงพยาบาลใกล้เคียงต่างๆ จึงไม่ก่อผลกระทบไปยังไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีนและแมคเคอเรล ปลาหมึก ปลาแซลมอน ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ เลย เนื่องจากอยู่คนละส่วนกัน มูลค่าความเสียหายทั้งหมดกำลังอยู่ระหว่างการประเมินและตรวจสอบ ซึ่งบริษัทมีการทำประกันไว้เต็มมูลค่าครอบคลุมทั้งสินค้าและทรัพย์สิน
ขณะเดียวกันบริษัทเองก็มีการติดต่อประสานงานไปยังลูกค้าของบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งลูกค้าได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ โดยยอดขายสินค้ากุ้งของปี 2554 เฉพาะโรงงาน TUF ที่สมุทรสาคร ซึ่งเป็น 1 ใน 2 โรงงานที่ผลิตและส่งออกกุ้ง โดยมียอดขายรวม 233 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 7% ของยอดขายรวมของทั้งกลุ่มบริษัท ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตประมาณ 120 ตันต่อวัน แต่ในช่วงไตรมาส 1 นี้เป็นช่วง Low season ของการผลิตกุ้ง ดังนั้นกำลังการผลิตในช่วงนี้จะอยู่ประมาณ 60% ของกำลังการผลิตเต็มที่ แต่อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนที่จะทำการย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปยัง บจ. ไทยยูเนี่ยน ซีฟู้ด ที่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออีกแห่งที่ดำเนินการผลิตกุ้ง รวมทั้งใช้กำลังการผลิตภายในของ TUF เอง จึงมั่นใจได้ว่าสามารถรองรับการผลิตและส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้ทั้งหมด
ทั้งนี้บริษัทเชื่อมั่นว่า จะสามารถบริหารจัดการเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้ง การผลิต, การให้บริการ, การส่งมอบสินค้า, การปรับปรุงซ่อมแซมในส่วนที่เสียหาย รวมทั้งเชื่อมั่นว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า,นักลงทุน ผู้ถือหุ้น และพนักงานทุกคน ว่าเราจะกลับมาสู่ภาวะปกติในระยะเวลาอันรวดเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทในระยะยาว