กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--ไอบีเอ็ม
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ตั้งเป้าหมายปี 2555 เน้นนำประเทศไทยก้าวสู่โลกใหม่ นำองค์ความรู้ ความก้าวหน้าเทคโนโลยีในอนาคต มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพของทุกธุรกิจอุตสาหกรรมในไทย มุ่งสร้างธุรกิจ สร้างคน สร้างเมือง ควบคู่ไปกับการ สร้างสมาร์ทบิสิเนส เป็นคู่คิดช่วยปฏิรูปการดำเนินธุรกิจของลูกค้า ด้วยโซลูชั่นที่ตอบโจทย์และสร้างคุณค่าให้กับทุกอุตสาหกรรม นำเสนอโซลูชั่นที่ช่วยจัดการและวิเคราะห์จำนวนมหาศาล (Big Data) โซเชียลบิสิเนส (Social Business) สมาร์ทคอมเมิร์ซ (Smart Commerce) ช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงาน และสร้างความสำเร็จของธุรกิจในยุคนี้ พร้อมขยายตลาดเพิ่มสาขาต่างจังหวัดทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และประเทศลาว
นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า “ในปี 2555 นี้ไอบีเอ็มได้ตั้งเป้าหมายสำคัญไว้ 3 เรื่องนอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจ คือ การสร้างธุรกิจ สร้างคน และสร้างเมือง เพื่อนำประเทศไทยก้าวสู่โลกยุคใหม่ เนื่องจากเศรษฐกิจการลงทุนของโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทุกวันนี้ฐานการผลิตและการลงทุนต่างก็พุ่งเป้ามาที่ประเทศในกลุ่มที่ตลาดกำลังเติบโต (Growth Market) รวมทั้งอาเซียนและประเทศไทย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างความพร้อมเพื่อรองรับการลงทุนใหม่ๆ เป็นแหล่งผลิตสินค้า และแรงงานที่มีคุณภาพ ด้วยการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ สร้างมูลค่าทางธุรกิจ และทรัพยากรคนที่มีทักษะความชำนาญ
ในฐานะที่ไอบีเอ็มเป็นองค์กรของความก้าวหน้า ด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยที่คิดค้นสร้างสรรค์ให้โลกธุรกิจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับในปี 2555 นี้ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ครบรอบ 60 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไอบีเอ็มทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและองค์กรต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้แก้ไขปัญหาที่ท้าทายและซับซ้อน พร้อมทั้งเสริมสร้างศักยภาพในด้านต่างๆ ด้วยหลักการที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานและค่านิยมของเราในการสร้างความก้าวหน้าให้กับลูกค้า พันธมิตร และตอบแทนให้กับประเทศชาติ จึงได้กำหนดที่จะทำภารกิจใน 3 มิติ เพื่อ สร้างธุรกิจ สร้างคน และสร้างเมือง
1. สร้างธุรกิจ : Building Smarter Business ไอบีเอ็มมุ่งสร้างโซลูชั่นใหม่ๆมาสู่ตลาด เป็นคู่คิดในการช่วยปฏิรูปการดำเนินธุรกิจของลูกค้า ในเรื่องของกระบวนการทางธุรกิจ ช่วยลดค่าใช้จ่าย และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน รวบรวมเอาเทคโนโลยีที่เป็นโซลูชั่นครบทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการทางด้านไอที มาช่วยสร้างคุณค่าให้กับทุกธุรกิจ และอุตสาหกรรม โดยโซลูชั่นทั้งหมดในปีนี้ได้เน้นตอบโจทย์ กระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ที่องค์กรต่างๆต้องพร้อมรับมือ เช่น ภาวะข้อมูลกำลังล้นโลก หรือมีอยู่มากมายจนเกิดกระแสที่เรียกว่าบิ๊กดาต้า ซึ่งหมายถึงข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ซับซ้อน มาจากหลากหลายแหล่งและไม่มีโครงสร้างตายตัว (Unstructured Data) ข้อมูลดิบมหาศาลหรือบิ๊กดาต้าเหล่านี้ ต้องนำระบบวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ(Business Analytics) มาช่วยให้องค์กรปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยระบบวิเคราะห์ข้อมูลจะต้องเป็นองค์ประกอบสำคัญในการคิดไตร่ตรอง นำมาใช้ตัดสินใจและคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ และช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ในยุคที่โซเชียลมีเดียมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ข้อมูลทุกอย่างหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว โลกของเรามีการเชื่อมต่อทางสังคมมากขึ้น ตอนนี้โลกกำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ จากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของโทรศัพท์มือถือ แท๊บเล็ต ทุกคนกลายเป็นผู้เผยแพร่คอนเท้นต์ ไอบีเอ็มมองว่าโซเชียลบิสิเนส รวมทั้งโซลูชั่นสมาร์ทเตอร์ คอมเมิร์ซ ที่ได้ออกแบบมาสำหรับช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาด ที่ครบวงจร เพื่อรองรับยุคของผู้บริโภคที่นิยมใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ จะเป็นกลจักรสำคัญที่จะขับเคลื่อนการปฏิรูปธุรกิจ โดยจะช่วยให้ทุกภาคส่วนขององค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากแนวคิดการเชื่อมโยงกันทางสังคมในระบบงานธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ ไอบีเอ็มยังได้ขยายตลาดออกไปสู่ภูมิภาค และประเทศเพื่อนบ้าน โดยเน้นไปในจังหวัดกลุ่มที่มีนิคมอุตสาหกรรมในทุกๆภาค เพื่อขยายการดูแลลูกค้าให้ได้อย่างใกล้ชิด โดยในปีนีมีแผนขยายไปที่ ชลบุรี โคราช ขอนแก่น หาดใหญ่ และ ประเทศลาว
2. สร้างคน Smarter People : Building workforce of the future สร้างทักษะในตลาดแรงงานโดยเฉพาะทักษะทางด้านไอที จากผลสำรวจผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีทั่วโลก ชี้ว่าอุตสาหกรรมไอที กำลังต้องการบุคลากรที่มีทักษะทางด้าน การวิเคราะห์ข้อมูล( Business Anayltics) บุคลากรที่มีทักษะด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง และบุคลากรที่มีความรู้ด้านธุรกิจและอุตสาหกรรม ไอบีเอ็มได้ริเริ่มช่วยสร้างบุคลากรเหล่านี้ โดยมีแผนงานที่จะนำเอาทีมผู้บริหารที่เชี่ยวชาญของไอบีเอ็มมาให้ความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องความสำคัญและความต้องการ บุคคลากรที่มีทักษะดังกล่าว โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อร่วมกันพัฒนาและสร้างคนกลุ่มนี้ ในการเตรียมรองรับความต้องการของตลาดดังกล่าว นอกจากนี้ไอบีเอ็มยังให้ความสำคัญกับการสร้างความเป็นผู้นำมาโดยตลอด เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจที่มองโลกเป็นผืนเดียวกัน เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาผู้นำยุคใหม่ที่สามารถทำงานได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก ด้วยแนวทางการพัฒนาผู้นำของไอบีเอ็ม
3. สร้างเมือง Smarter Cities : System of The Cities ความแข็งแรงของเมืองที่มีศักยภาพหลากหลายด้านจะช่วยสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ ไอบีเอ็มมีแผนงานจะไปช่วยพัฒนาระบบของเมือง นำความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศ มาบูรณาการเพิ่มประสิทธิภาพในเมืองใหญ่ เพื่อสร้างโมเดลสมาร์ทเตอร์ซิตี้ ในงานบริการภาครัฐ (Government Service) ด้านความปลอดภัยสาธารณะ ( Public Safety) ทางด้านการขนส่ง (Transportation) ทางด้านการศึกษา (Education) ทางด้านพลังงานและสาธารณูปโภค (Energy and Utilities) ทางด้านการสื่อสาร (Telecommunications) และทางด้านการสาธารณะสุข (Healthcare) โดยมุ่งไปที่จังหวัดในเขตนิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากมีการลงทุนภาคอุตสาหกรรม การเข้ามาช่วยสร้างโมเดลสมาร์ทเตอร์ซิตี้ จะเป็นการช่วยสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานให้เมืองพร้อมรองรับการเติบโต พัฒนาเมืองให้เกิดความแข็งแกร่ง สร้างศักยภาพทางด้านตราสินค้าของเมืองให้เป็นที่จดจำได้
“ไอบีเอ็มมั่นใจว่าด้วยองค์ความรู้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ผนวกกับความมุ่งมั่นตั้งใจจริงในการผลักดันแผนงานดังกล่าวให้ต่อเนื่องจะช่วย สร้างธุรกิจ สร้างคน และสร้างเมือง สามารถนำประเทศไทยก้าวเข้าสู่โลกใหม่ได้อย่างแท้จริง” นางพรรณสิรี กล่าวสรุป