กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--MMM Digital Asset
ถึงแม้ความสนใจของผู้กำกับสำหรับเรื่อง Ghost Rider Spirit of Vengeance คือการถ่ายทอดฉากแอ็คชั่นในกล้องให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งชัดเจนตั้งแต่เริ่มแล้วว่าภาพยนตร์ต้องใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิค ซึ่งหลังจากนั้นตัวละครหลักจะต้องมีหัวกระโหลกที่มีไฟลุก
มีการควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์โดยผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ เอริค เดิร์สต ผู้กล่าวเหมือนกับทุกฝ่ายว่าภาพยนตร์เรื่อง Ghost Rider ภาคใหม่มีลุคที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากภาคก่อน “มาร์คและไบรอันต้องการลุคใหม่สำหรับ Ghost Rider Spirit of Vengeance จริงๆ ให้เป็นหนังที่เพิ่มความลึกลับ เราจะได้ผสมผสานภาพลักษณ์นั้นเข้าไปได้ ลักษณะของตัวละครไม่ได้มีความล้ำสมัยเลย ยังเป็นโกสต์ ไรเดอร์อย่างเดิมที่มีเปลวไฟบนศีรษะ หัวกระโหลกเป็นสีคล้ำและไหม้ดำอย่างที่ควรเป็นหากมีไฟติดที่หัวกระโหลก ความรู้สึกทำนองนั้นอีกอย่างคือช่วงไหล่ของเสื้อแจ็คเก็ตที่ต้องมีไอร้อนเดือดออกมาจากภายในร่างกาย”
ความท้าทายที่สำคัญในการสร้างวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ เดิร์สตกล่าวว่า “เป็นการสื่อสารกับตัวละคร แสงไฟที่ออกมากจาเปลวไฟบนศีรษะของเขา มันต้องตกกระทบไปถึงไหล่และส่วนอื่นที่อยู่ใกล้เคียง แต่การทำงานร่วมกับแสงเป็นเรื่องที่ยากมากในการสร้างด้วยคอมพิวเตอร์ขึ้นมาใหม่ มันมีความละเอียดอ่อนและมันมีลักษณะแตกต่างไปขึ้นอยู่กับเนื้อผ้าและวัตถุที่ต่างกัน ฉะนั้นเพื่อให้ได้ผลเราเลยใช้หมวกที่มีไฟ LED ที่กระพริบเปิดปิด ซึ่งนั่นเป็นข้อดีสำหรับเรา 2 ข้อ ข้อแรกคือหลอดไฟ LED ทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดตำแหน่งในคอมพิวเตอร์ เวลาที่นิคเคลื่อนไหวศีรษะจากซ้ายไปขวา เราก็สามารถกำหนดหัวกระโหลกให้ตรงกับความเคลื่อนไหวนั้นได้ และแสงไฟ LED ก็สาดแสงใส่ทุกสิ่งที่อยู่ใกล้เคียงด้วยเช่นกัน มันเลยทำให้เราได้แสงที่จะเกิดขึ้นเวลาที่เปลวไฟอยู่บนศีรษะของเขาจริงๆ”
เดิร์สตยังกล่าวว่าตั้งแต่ที่มีการฉาย Ghost Rider ภาคแรกก็มีพัฒนาการด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิคแอนิเมชั่นอย่างยิ่งใหญ่ “พื้นฐานของการใส่เปลวไฟในคอมพิวเตอร์กราฟฟิคคือการเคลื่อนไหวของเหลว และเทคโนโลยีหลายอย่างเกิดขึ้นในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา” เขากล่าว “สำหรับภาพยนตร์ภาคแรก Sony Pictures Imageworks ได้สร้างรหัสและผลงานเอาไว้ในระบบซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ในช่วงนั้น มันเป็นงานที่ยากลำบากและมีความละเอียด สำหรับภาพยนตร์ภาคใหม่ที่มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างคุ้มค่าในระยะเวลา 6 ปีจากการกำเนิด เราสร้างให้หลายสิ่งดูสมจริงได้อย่างน่าประหลาดแล้ว”
เอ็ฟเฟ็กต์สำเร็จขึ้นได้โดย Iloura ซึ่งเป็นบริษัทของชาวออสเตรเลีย “เราตรวจสอบทั่วโลกเพื่อดูว่าใครจะสร้างไฟขึ้นมาได้สวยที่สุด” เดิร์สตกล่าว “การทดสอบแรกมีครบทุกสิ่ง ทั้งความถูกต้อง ลักษณะของหัวกระโหลกที่ดูโหด เปลวไฟ ลักษณะที่ถูกต้องที่ทุกคนตกหลุมรักตั้งแต่ตรงนั้น และ Iloura ก็สร้างผลงานในหนังได้อย่างดีเยี่ยม”
ภาพยนตร์ยังนำโกสต์ ไรเดอร์มาอยู่ในรูปแบบ 3 มิติด้วย “ภาพยนตร์ของเราจะเป็น 3 มิติเสมอตั้งแต่ช่วงแรกเริ่ม เรารักการสร้างหนังที่ให้เต็มอิ่มประสบการณ์มากขึ้น มันเหมือนกับไอเดียที่เจ๋งสุดๆ โดยเฉพาะสไตล์การถ่ายหนังของเรา” เทย์เลอร์กล่าว “เราพยายามยกระดับกับเทคโนโลยี สิ่งแรกที่พวกเขาบอกเราคือทุกสิ่งที่เราไม่สามารถทำได้ ไม่มีกล้องแฮนด์เฮลด์ ไม่มีการตัดต่ออย่างรวดเร็ว ไม่มีการใช้เลนส์แฟลร์ ไม่มีการใช้ฟอร์กราวด์ที่อ่อนโยน ไม่มีเลนส์ซูเปอร์ลอง ไม่มีเลนส์ซูเปอร์ไวด์ … แล้วเราก็ถามว่า ทำไมล่ะ?”
“มันมีกฏเกณฑ์หลายอย่าง ซึ่งมาร์คกับไบรอันก็อยากฉีกกฏเหล่านั้น จึงเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องแหกกฏนั้น” เครก มัมม่า ผู้ออกแบบภาพ 3 มิติกล่าว “เราอยากนำสไตล์ของเขามาปรับให้เข้ากับจอภาพยนตร์และทำให้เป็นประสบการณ์ 3 มิติที่สนุกสนาน ลักษณะการถ่ายทำของมาร์คและไบรอันด้านการควบคุมกล้องเป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบของภาพยนตร์เหมือนเป็นตัวละครอีกตัว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการถ่ายทำของพวกเขา เราเลยต้องใช้เครื่องมือในการปรับเปลี่ยน”
Ghost Rider: Spirit of Vengeance โกสต์ ไรเดอร์ : อเวจีพิฆาต
17 กุมภาพันธ์นี้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
ดูตัวอย่าง ซับไทย http://youtu.be/-67P7eyfgKw