กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศผลประกอบการรายได้ทะลุ 137 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้นถึง 36.0 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็น 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ปี 2553 : 2.98พันล้านดอลลาร์สหรัฐ )สำหรับรายได้ก่อนการหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าคิดเป็นเงิน 648 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไรสุทธิคิดเป็นเงิน 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าเกินความคาดหมายของสายการบินที่มุ่งจะจบปีพ.ศ. 2554นี้ด้วยการคุ้มทุน
มร. เจมส์ โฮเกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “นับเป็นผลประกอบการที่น่าจดจำ และน่าภูมิใจสำหรับสายการบินใหม่ ซึ่งดำเนินการมาได้เพียง 8 ปีเท่านั้น”“เมื่อ 5 ปีที่แล้วได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า สายการบินจะสามารถทำกำไรได้ภายในปี 2554 และถึงแม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาจะมีอุปสรรค์มากมาย อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจโลก ปัญหาสถานะน้ำมันโลก ปัญหาความมั่นคงภายในประเทศ แต่เอทิฮัดก็ยังสามารถทำรายได้ทะลุเป้าหมายที่วางเอาไว้”
“สำหรับเป้าหมายของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือการสร้างสายการบินที่มีประสิทธิภาพเหนือสายการบินอื่นๆ ด้วยความปลอดภัยสูง และสามารถทำกำไรได้เช่นกัน ซึ่งที่กล่าวมานั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่ทางสายการบินทำสามารถทำได้จริง”
“สิ่งต่างๆ ที่เราได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ ต่างประสบผลสำเร็จจริง และขณะนี้เรามุ่งหน้าสู่ก้าวต่อไปในการพัฒนา ที่สอดคล้อง บวกกับสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างยั่งยืน”
“หากเปรียบเทียบกับสายการบินอื่นๆ ในผลประกอบการประจำปี พ.ศ.2554 เอทิฮัดถือเป็นสายการบินหนึ่งที่ประสบผลสำเร็จทั้งทางด้านผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นและผลกำไรที่เกิดขึ้นจากผลประกอบการนั้น ถึงแม้เราจะเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการบินต่างๆมากมายก็ตาม”
“สำหรับปีพ.ศ. 2555 นี้เรายังคงมุ่งหน้าสร้างความเติบโตอย่างมั่นคง และในสภาพสภาวะเศรษกิจโลกที่กำลังตกต่ำ เราตั้งเป้าหมายผู้โดยสารไว้อยู่ที่ 10 ล้านคน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของผลกำไร”
ผลงานสำคัญประจำปี 2554 :
ผู้โดยสาร 8.3 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2553 ถึง 17 เปอร์เซ็นต์ ( 7.1 ล้านคน ) อัตราผู้โดยสารเฉลี่ยคิดเป็น 75.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเกือบ 2 เปอร์เซ็นต์ ( 74.0 เปอร์เซ็นต์)รายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อกิโลเมตร (Revenue Passenger Kilometres — RPKs) เพิ่มขึ้นจาก 45.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2553 เป็น 51.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 13.0 เปอร์เซ็นต์มีการเพิ่มการเส้นทางการบินใหม่ 5 เส้นทาง— บังกาลอร์, มัลดีฟส์, เซเชลส์, เฉิงตู และ ดุสเซลดอร์ฟเรายได้ในส่วนของคริสตัล คาร์โก เพิ่มขึ้นจาก 518 ล้านดอลลาร์สหรัฐมาเป็น 651 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 25.7 เปอร์เซ็นต์ ของการเติบโตในแต่ละปี โดยคิดเป็นตันเพิ่มขึ้นกว่า 17.8 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 77,623 ตัน สายการบินเอทิฮัดเพิ่มการออกบินจาก 57,534 ครั้งมาเป็น 62,735 ครั้ง โดยมีค่า dispatch reliability อยู่ที่ 99 เปอร์เซ็นต์ มีการร่วมมือกับ 8 สายการบิน ที่ใช้รหัสบินร่วมกัน ซึ่งปัจจุบันรวมแล้วมีการร่วมมือกับสายการบินต่างๆทั้งสิ้น 35 สายการบิน ส่งผลให้สายการบินเอทิฮัดมีเครือข่ายการบินถึง 259 จุดหมายปลายทาง และถือว่ามีมากกว่าสายการบินอื่นๆในตะวันออกกลางมร. โฮแกน กล่าวเพิ่มเติมว่า สายการบินเอทิฮัดประสบผลสำเร็จในด้านกลยุทธการสร้างพันธมิตรกับสายการบินอื่น โดยเฉพาะการเข้าลงทุนในหุ้นของสายการบินแอร์เบอร์ลิน สายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของทวีปยุโรปที่ได้ทำการประกาศไปแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา
“สิ่งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่สำหรับสายการบินเอทิฮัด ที่ได้เพิ่มการให้บริการเที่ยวบินเป็น 157 จุดหมายปลายทาง และรองรับผู้โดยสารใหม่ที่เพิ่มขึ้นอีกถึง 35 ล้านคน”
“การทำงานกับสายการบินแอร์เบอร์ลิน จะเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมให้เราเจริญเติบโตเพิ่มมากขึ้นในปีพ.ศ. 2555 เพราะถือเป็นการสร้างเครือข่ายการเดินทางไปยังไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของยุโรป ซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับสายการบิน ถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ”
“ที่สำคัญในปีที่ผ่านมา นับเป็นปีแรกที่สายการบินเอทิฮัดได้ร่วมมือกับสายการบินเวอร์จิน ออสเตรเลีย ในการให้บริการไปยัง 45 จุดหมายปลายทางในประเทศออสเตรเลียและแถบแปซิฟิก ซึ่งส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการร่วมมือกับสายการบินอื่นของออสเตรเลียที่ผ่านมาถึง 700 เปอร์เซ็นต์”
“เรายังคงมองถึงความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกับสายการบินอื่นๆในปีพ.ศ. 2555 นี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นปีเราได้ประกาศความร่วมมือกับกับสายการบินแอร์เซเชลส์ ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญในการเพิ่มการดำเนินการไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในแถบมหาสมุทรอินเดียและแอฟริกา”
มร. โฮแกน กล่าวต่ออีกว่า แผนการประหยัดพลังงานเป็นปัจจัยสำคัญในการทำรายได้ให้กับสายการบิน ซึ่งทำให้ต้นทุนจากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อกิโลเมตรของปีที่ผ่านมาลดลงถึง 4.6 เปอร์เซ็นต์ และ 16.6 เปอร์เซ็นต์ในช่วงระยะ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถช่วยลดค่ายใช้จ่ายต่อไปได้มากกว่า 187 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“ในขณะที่เราได้ให้บริการเต็มรูปแบบกับอะคันตุกะผู้ทรงเกียรติ แต่ลักษณะการบริหารงานของเราก็มิได้ต่างจากสายการบินต้นทุนต่ำ เราได้ให้ความสำคัญในการควบคุมค่าใช้จ่ายในทุกๆภาคส่วนของธุรกิจ แต่ก็ยังคงด้วยประสิทธิภาพในการให้บริการ”
สำหรับสายการบินเอทิฮัดได้มีนโยบายในการซื้อน้ำมันล่วงหน้า ซึ่งช่วยปกป้องสายการบินจากปัญหาความผันผวนของราคาน้ำมัน โดยในปี 2554 ที่ผ่านมาสายการบินเอทิฮัดได้ทำการซื้อน้ำมันไว้ล่วงหน้าว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และในปัจจุบันได้ทำการซื้อน้ำมันล่วงหน้าไว้แล้วกว่า 75 เปอร์เซ็นต์
เมื่อปลายปีพ.ศ. 2554 สายการบินเอทิฮัดมีพนักงานทั้งสิ้น 9,038 คน ซึ่งเพิ่มมากขึ้นจากปีพ.ศ. 2553 ถึง 15.1 เปอร์เซ็นต์ (7,855) และมีพนักงานมากกว่า 120 สัญชาติด้วยกัน นับเป็นความสำเร็จของสายการบินเอทิฮัดในการดำเนินนโยบาย Emiratisation เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวอาหรับผู้มีความรู้ความสามารถในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้มีโอกาสร่วมงานกับสายการบิน ปัจจุบันสัดส่วนของเจ้าหน้าที่อาหรับคิดเป็น 18 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนพนักงานทั้งหมด
โฮแกน ได้กล่าวขอบคุณความร่วมมือของพนักงานเอทิฮัดทุกคนว่า “ความร่วมมือของพนักงานทั้ง 9,000 คนนั้น ส่งผลให้สายการบินเอทิฮัดที่เปิดบริการมาได้เพียง 8 ปี สามารถประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นที่น่าภาคภูมิใจอย่างมาก”
“พวกเราได้ร่วมกันสร้างให้สายการบินเอทิฮัดเป็นสายการบินชั้นนำระดับโลก ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุมหมดทั้ง 5 ทวีป โดยมีศูนย์กลางการบินอยู่ที่ อาบูดาบี และดำเนินการโดยเครื่องบินที่ล้ำสมัยที่สุด ”
“สายการเอทิฮัดยังยืนหยัดในการลงทุนในการเปิดเส้นทางบินใหม่ๆ รวมทั้งการลงทุนซื้อเครื่องบินที่ทันสมัย ซึ่งในปีนี้ทางสายการบินเอทิฮัดจะทำการเพิ่มเครื่องบินใหม่ในฝูงบินอีก 7 ลำ และที่ผ่านได้ทำการประกาศเพิ่มเส้นทางบินใหม่ในทวีบเอเชีย และแอฟริกาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
“เมื่อเดือน มกราคม เราได้ประกาศการดำเนินการไปยัง กรุงทริโปลี เซี่ยงไฮ้ และไนโรบี ซึ่งจะเริ่มให้บริการได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ และในเดือนกรกฎาคมนี้ ทางสายการบินจะเพิ่มเส้นไปยัง เมืองลากอส ซึ่งเป็นประเทศในทวีปแอฟริกา รวมทั้งเพิ่มเส้นทางอื่นๆในอนาคตใกล้”
เมื่อปีพ.ศ. 2551 ณ ฟาร์นโบโรห์ แอร์โชว์ สายการบินเอทิฮัดได้ทำการสั่งซื้อเครื่องบินใหม่กว่า 100 ลำและสิทธิ์ในการสั่งซื้ออีกกว่า 105 ลำ เพื่อเพิ่มศักยภาพและตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารในอีก 10 ปีข้างหน้า ปัจจุบันสายการบินเอทิฮัดได้ทำการกู้ยืมเงินราว 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากสถาบันการเงินชั้นต่างๆราว 41 สถาบัน
อัตราผู้โดยสารของสายการบินเอทิฮัด
ตัวบงชี้หลัก พ.ศ. 2554 พ.ศ. 2553 ส่วนต่าง
US$ US$ %
รายได้เที่ยวบินโดยสาร 2.96b 2.39b +23.9
รายได้เที่ยวบินขนส่ง 651m 518m +25.7
รายได้รวม 4.1b 2.98b +36
จำนวนผู้โดยสาร 8.3m 7.1m +17
รายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อกิโลเมตร 38.7m 33.4m +15.8
อัตราการเจริญเติบโตจากมาตราวัดจำนวนที่นั่งโดยสาร 51.0b 45.2b +13
อัตราผู้โดยสารเฉลี่ย 75.80% 74% +1.8
จำนวนเครื่องบิน 64 57 +7ลำ
จำนวนพนักงาน 9,038 7,855 +15.1
เกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัด
สายการบินเอทิฮัด เป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีสำนักงานใหญ่ ณ เมืองหลวงอาบูดาบี ปัจจุบันสายการบินเอทิฮัดให้บริการเที่ยวบินสำหรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ 66 จุดหมายปลายทาง ครอบคลุมตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ แอฟริกา และเอเชีย ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัดได้ที่ www.etihadairways.com