กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--ตลาดหลักทรัพย์ฯ
1) SET ยังคงเป็นของแข็งสำหรับการหาจังหวะเข้าซื้อเพราะยังดูอ่อนแออยู่มากในแง่อารมณ์ร่วมของนักลงทุนโดยส่วนใหญ่ และหากพิจารณาในแง่มุมทางtechnicalด้วยแล้วยิ่งหาความsafeได้ยากมากจริงๆ(ทั้งๆที่หุ้นยิ่งลงความเสี่ยงในแง่ของราคาก็น่าจะลดลงตามไปด้วยแต่กลับปรากฏความเสี่ยงในเชิงกลยุทธ์ที่เพิ่มขึ้นมาแทนและดูท่าว่าจะแปรผันตรงในเชิงทวีคูณด้วยซ้ำไปในคลื่นย่อยขานี้ของSET)
2) Weekly chartของSETที่หากว่ามาฟอร์มนี้แล้วล่ะก็คงจะทำให้เราต้องกังวลกันไว้ก่อนว่า หากยังไม่มีการเกิดรูปแบบเชิงpositiveขึ้นมาให้เราได้เห็น ไม่ว่าในระดับนาทีหรือในระดับdaily chartจะมีการยึกยักอย่างไรก็ตาม ก็ควรพึงระวังไว้ว่า SETอาจมีลงไปใกล้เคียงระดับ603ก่อนจึงจะเกิดการreboundกลับขึ้นมาแบบดีๆให้ได้เห็นสักครั้ง
3) แต่daily chartเองกลับไม่ชัดเจนในเรื่องของการที่เพิ่งจะมาคิดcut lossที่ตรงนี้ของSET(หรือภาพโดยรวม)แล้วจะเห็นผลได้ทันตาหรือไม่ ดังนั้นจึงอาจต้องพิจารณาแยกออกไปตามต้นทุนที่ติดอยู่ของหุ้นแต่ละตัวในportก็จะเป็นเหตุเป็นผลมากกว่า(โดยเฉพาะต้นทุนในแง่ของจิตใจ)
4) หากต้องสรุปกลยุทธ์ออกมาอาจได้ความว่า การจะเข้าไปลงทุนยังคงไม่มีความชัดเจนมากพอ ส่วนการเก็งกำไรยังคงwait & seeในด้านซื้อต่อไปได้(ไม่ว่าSETจะขึ้นหรือจะลงในวันนี้)
5) PatternของSETPROPอาจเป็นการบ่งชี้ถึงความยากในการดำเนินธุรกิจประเภทนี้ในช่วง1-2ปีข้างหน้านี้
6) ในที่สุดค่าเงินU.S.เทียบกับYENญี่ปุ่นก็ร่วงลงไปเกิดnew low ตามที่เราเคยคาดไว้จริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะมีeffectอะไรมากน้อยแค่ไหนต่อระบบการเงินของโลกหรือกระทั่งตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงนี้หรืออนาคตหรือเปล่า--จบ--
-นท-