กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) ครั้งที่ 1/2555 ซึ่งมีผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมประชุม ว่า เป็นการประชุมรับทราบรายงานเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งเหตุระเบิด 3 จุดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันว่า แม้กทม.จะไม่ได้เป็นเป้าของกลุ่มก่อการร้ายโดยตรง แต่ก็จำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องระมัดระวังป้องกันเป็นพิเศษ ซึ่งในส่วนนี้กทม.ได้ยืนยันกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ากทม.จะสนับสนุนหน่วยงานความมั่นคง โดยเจ้าหน้าที่เทศกิจ และพนักงานรักษาความสะอาด จะทำหน้าที่เพียงสอดส่องเป็นหูเป็นตาเท่านั้น หากพบพิรุธหรือเหตุสงสัยที่ผิดสังเกตก็จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ถามถึงนโยบายในเรื่องการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ซึ่งกทม.รายงานว่าได้ติดตั้งไปแล้ว 15,000 กล้อง และในปีนี้จะติดตั้งเพิ่มอีก 10,000 กล้อง พร้อมทั้งเริ่มเชื่อมโยงกับกล้องวงจรปิดของเอกชนให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร หากทางตำรวจมีความกังวลในพื้นที่ใดเป็นพิเศษขอให้แจ้ง กทม.เร่งรัดติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ จากกรณีเหตุระเบิดที่ผ่านมา ฝ่ายความมั่นคงได้เน้นให้เฝ้าระวังในพื้นที่ที่มีชาวต่างชาติเข้า-ออก หรือพักอาศัยจำนวนมาก แต่จะถือเป็นเกณฑ์เดียวในการเฝ้าระวังไม่ได้ เพราะเหตุระเบิดที่ผ่านมาก็เกิดในพื้นที่ที่ไม่ได้มีชาวต่างชาติเข้า-ออกหรือพักอาศัยจำนวนมาก ดังนั้นที่สำคัญควรต้องเฝ้าระวังทั้งเมือง ส่วนการเฝ้าระวังที่จะตรวจตราชาวต่างชาติตะวันออกกลางเป็นพิเศษนั้น น่าจะเป็นการไม่เหมาะสมควรต้องเฝ้าระวังทั้งเมืองเน้นที่เหตุผิดสังเกตมากกว่า ผู้ว่าฯกทม.ยังได้ตอกย้ำอีกครั้งว่า “ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก เหตุการณ์เช่นนี้หลายเมืองทั่วโลกก็เกิดเหตุ เป็นการแพร่ระบาดที่ไม่อาจปิดกั้นได้ แต่เราก็ไม่นิ่งนอนใจในการที่จะป้องกันและดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชน”