กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) ของธนาคารออมสิน (GSB) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (BAAC) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (GHB) ที่ระดับ ‘2’
ฟิทช์มองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารรัฐทั้ง 3 แห่งจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยภายในระยะเวลาที่เหมาะสมในกรณีที่มีความจำเป็น โดยอ้างอิงจากพระราชบัญญัติ (พรบ.) การจัดตั้งธนาคารของธนาคารทั้ง 3 แห่ง และพิจารณาจากสัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมดโดยรัฐบาล (ยกเว้น BAAC ที่รัฐบาลไทยถือหุ้น 99.8%) และความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับรัฐบาลเนื่องจากบทบาทที่สำคัญในด้านการสานต่อนโยบายภาครัฐของธนาคาร ธนาคารทั้ง 3 แห่งเป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อนโยบายของรัฐและมีบทบาทที่สำคัญต่อระบบสถาบันการเงินของประเทศไทย โดยเน้นให้การช่วยเหลือและสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและข้าราชการเป็นส่วนใหญ่ บทบาทในการสนับสนุนนโยบายรัฐของธนาคารรัฐทั้ง 3 น่าจะยังคงมีความสำคัญในการส่งเสริมสวัสดิภาพของประชาชนและการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว
เมื่อพิจารณาจาก พรบ. ที่เกี่ยวข้อง GSB เป็นธนาคารรัฐแห่งเดียวที่มีการระบุเรื่องการค้ำประกันหนี้สินจากภาครัฐไว้อย่างชัดเจน (explicit guarantee) อย่างไรก็ตาม GSB ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องได้รับการเพิ่มทุนหรือการค้ำประกันเงินกู้จากรัฐตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ถึงแม้จะไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนใน พรบ. จัดตั้ง ฟิทช์มองว่ามีการสนับสนุนทางการเงินจากภาครัฐในลักษณะ implicit guarantee สำหรับ GHB ในรูปแบบของการเพิ่มทุนเมื่อมีความจำเป็น และสำหรับ BAAC ในรูปแบบการเพิ่มทุนโดยรัฐให้แก่ธนาคารและยังมีการให้เงินชดเชยในกรณีที่ธนาคารได้รับความเสียหายเนื่องจากการดำเนินงานตามนโยบายรัฐ (ลักษณะการให้การสนับสนุนในรูปการชดเชยถือเป็นรูปแบบของ deficiency guarantee สำหรับ BAAC) ในอดีตทั้ง BAAC และ GHB ต่างเคยได้รับการเพิ่มทุนและค้ำประกันเงินกู้จากรัฐบาล โดยธนาคารจะเป็นผู้เสนอขอการสนับสนุนจากรัฐ
ในขณะที่การสนับสนุนทางการเงินจากภาครัฐโดยทั่วไปจะต้องได้รับมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี โดยขั้นตอนดังกล่าวสามารถที่จะเร่งรัดเพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการสนับสนุนแก่ธนาคารรัฐทั้ง 3 แห่งได้ในกรณีที่มีความจำเป็น นอกจากนี้รัฐบาลยังได้มีการติดตามสถานะทางการเงินของธนาคารรัฐทั้ง 3 แห่งอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถเข้าให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
ธนาคารรัฐทั้ง 3 แห่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง โดยธนาคารแห่งประเทศไทยทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงานของธนาคารและมีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีของธนาคาร คณะกรรมการธนาคารได้รับการแต่งตั้งตามมติคณะรัฐมนตรี และสำหรับ BAAC รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ
การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสนับสนุน อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) ของประเทศไทย (โดยปัจจุบันได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ ‘BBB’/Stable) หรือการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มของการได้รับการสนับสนุนและความสามารถของภาครัฐในการสนับสนุน ดังนั้นการแก้ไขกฎหมาย และ/หรือ การเปลี่ยนแปลงสถานะตามกฎหมายและสัดส่วนการถือหุ้นที่อาจจะส่งผลให้โอกาสที่ธนาคารทั้ง 3 จะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐลดลง อาจส่งผลให้อันดับเครดิตสนับสนุนของธนาคารถูกปรับลดลงได้ อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่จะเกิดขึ้นกับธนาคารทั้ง 3 แห่ง เนื่องจากการที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนโยบายรัฐ
GSB (มีสินทรัพย์รวม 1.6 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554) มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนโยบายรัฐที่สำคัญรวมถึงการส่งเสริมการออม การให้สินเชื่อแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและข้าราชการ รวมทั้งสนับสนุนนโยบายการพัฒนาสังคมของรัฐ BAAC (มีสินทรัพย์รวม 875.8 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554) เป็นธนาคารรัฐที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมภาคเกษตรกรรมและการพัฒนาชนบท GHB (มีสินทรัพย์รวม 728.9 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554) ให้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง และข้าราชการ