กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--อาซาตซู (ประเทศไทย)
ระยะทาง 492 กิโลเมตรของสเตจที่ 6 หลังจากเข้าเช็คพอยท์เริ่มจับเวลาในสเปเชี่ยลสเตจ ซึ่งมีระยะทาง 121 กิโลเมตร โดยในระยะแรกของเส้นทางจะเป็นทะเลทรายล้วนๆ ซึ่งสามารถใช้ความเร็วได้เต็มที่ แต่หลังจากผ่านเข้ากิโลเมตรที่ 245 เหล่านักแข่งจะเผชิญกับเนินทรายสูงที่ต้องกระโดดข้ามนับพัน นอกจากนี้สภาพภูมิประเทศที่มีแต่ทะเลทรายยังทำให้นักแข่งจะต้องพบกับภาพลวงตาได้บ่อยๆ ซึ่งอาจทำให้หลงทางออกนอกเส้นทางและติดหล่มทรายได้
ผลการแข่งขันในสเตจที่ 6 ทีมมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เร่งเครื่องทำเวลาขึ้นมาได้เป็นอย่างดี โดยในด้านทีม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เรปซอย เอทีเอส สตูดิโอ ลุค อัลฟาน นักขับชาวฝรั่งเศส และกีเลส์ ปิการ์ด เนวิเกเตอร์ ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร อีโวลูชั่น หมายเลข 312 ทำเวลาตีตื้นขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ระดับเวลารวมหรือโอเวอร์ออล 9 ชั่วโมง 23.11 นาที โดยในระดับสเตจอยู่ที่อันดับ 4 ด้วยการจับเวลาในช่วงสเปเชี่ยลสเตจระยะทาง 121 กิโลเมตร คือ 4 ชั่วโมง 09.46 นาที ซึ่งตามหลัง 2 แชมป์เก่าคือ สเตฟาน ปีเตอร์อองเซล ในรถหมายเลย 306 ที่สามารถพลิกขึ้นมาคว้าอันดับ 1 ของสเตจ 6 โดยเวลาในช่วงสเปเชี่ยลสเตจอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 0.29 นาที ส่งผลให้อันดับในเวลารวมหรือโอเวอร์ออลขึ้นมาอยู่ที่ 5 และฮิโรชิ มัตซึโอกะ ในรถหมายเลข 309 เข้ามาอยู่ในอันดับที่ 2 ของสเตจ 6 ที่เวลา 4 ชั่วโมง 06.27 นาที จากเดิมสเตจที่ 5 อยู่ที่อันดับ 124 ส่งผลให้อันดับในเวลารวมหรือโอเวอร์ออลขึ้นมาที่ 42
ลุค อัลฟานให้สัมภาษเกี่ยวกับการขึ้นมาเป็นผู้นำว่า “ในสเตจที่ 5 ผมตามหลังนักแข่งจากโฟล์คอยู่ 3 คัน มีโอกาสที่จะแซงได้แต่ผมคิดว่ามันออกจะเสี่ยงเกินไปกับการแซงในทางแคบๆ จึงตัดสินใจรักษาตำแหน่งเดิมเพื่อถนอมรถให้ผ่านช่วงประเทศโมร็อคโคไปก่อน และจะไปเร่งเครื่องในอีก 2-3 วันข้างหน้า ซึ่งทีมเราจะหันมาใช้กลยุทธ์แข่งเป็นทีมมากขึ้น” ทั้งนี้ มร. โดมินิค ซีรีส์ ผู้จัดการทีม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เรปซอย เอทีเอส สตูดิโอ กล่าวว่า “สำหรับสถานการณ์การแข่งขันในขณะนี้ เรายังเหลือเวลาอีกมากที่จะเร่งขึ้นมาทำอันดับหรือแม้กระทั่งถ้วยรางวัล ผมอยากให้เตรียมจับตามองการแข่งขันในช่วง สเตจ 9 ซึ่งตอนนี้เราจะเปลี่ยนยุทธวิธีอีกครั้งโดย ทีมมัตซึโอกะ จะขึ้นมารับหน้าที่เป็นทีมคู่หูให้กับทีม ลุค อัลฟาน ‘แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้นักแข่งของเราส่วนใหญ่กลับขึ้นมานำ แต่สำหรับเกมการแข่งขันแล้วมันก็เป็นไปได้ไม่ใช่เหรอ?’ ”
ด้านทีม มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ที่มีทั้งหมด 9 ทีมแต่ขณะนี้อยู่ในการแข่งขันทั้งหมด 8 ทีม เนื่องจากทีมไทยต้องออกจากการแข่งขันไปตั้งแต่สเตจที่ 5 สรุปผลการแข่งขันล่าสุดจบสเตจที่ 6 ทีมของ โดมินิค โอซิเออร์ นักขับ และโลอิค ฟาก็อท เนวิเกเตอร์ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร หมายเลข 331 สามารถทำเวลาขึ้นมาอยู่อันดับที่ 15 ในระดับเวลารวมหรือโอเวอร์ออล ที่เวลา 10 ชั่วโมง 26.31 นาที ในขณะที่ กวน หยวน เหมิน นักแข่งจากทีมจีน ขับรถ มิตซูบิชิ ปาเจโร V60 หมายเลข 373 ขณะนี้ทำเวลาขึ้นมาอยู่ที่ 58 ในระดับเวลารวมหรือโอเวอร์ออล ด้วยเวลา 13 ชั่วโมง 46.21 นาที
โดยในสเตจต่อไปคือสเตจที่ 7 จากเมืองโซร๊าส (Zou?rat) ถึงเมืองทิชิต (Tichit) ระยะทางทั้งสิ้น 669 กิโลเมตร ซึ่งความน่ากลัวของสเตจนี้คือ มีสเปเชี่ยลสเตจที่ยาวที่สุด และเป็นสเตจมาราธอนสเตจแรกของการแข่งขัน โดยในช่วงมาราธอนสเตจทีมรถช่วยเหลือจะไม่สามารถเข้ามาซ่อมแซมหรือปรับแก้ไขรถได้เลย ดังนั้นนอกจากนักแข่งจะต้องขับเคี่ยวกันด้วยความเร็วแล้วยังต้องพยายามถนอมรถให้สามารถผ่านช่วงเวลาทดสอบที่ยาวถึง 660 กิโลเมตรอีกด้วย โดยการแข่งขันตลอดหลายปีที่ผ่านมานักแข่งหลายๆ ทีมจะต้องหลุดออกจากการแข่งขันในช่วงนี้เนื่องจากรถไม่สามารถไปต่อได้หรือนักแข่งเองประสบอุบัติเหตุ แต่สำหรับนักแข่งที่สามารถข้ามผ่านมาช่วงหฤโหดนี้มาได้ก็จะได้พบกับความสดชื่นของ “ทิชิตโอเอซิส”
ความคืบหน้าของอาการเจ็บของพรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล ในขณะนี้พรสวรรค์และทีมงานรวมทั้ง พรเทพ สุขะหุต เนวิเกเตอร์ ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองไทยแล้วเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ในวันที่ 6 ธันวาคม 2548 ซึ่ง พรสวรรค์จะเดินทางกลับไปรักษาตัวและพักเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่บริเวณหลังในบ้านที่จังหวัดลำปางในวันเดียวกันนี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ
แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท อาซาตซู (ประเทศไทย) จำกัด
หมายเลขโทรศัพท์ 0 2367 5951
วิรุญญา วินทุพราหมณกุล ต่อ 3302
เพียงใจ สุทธิรักษ์ ต่อ 3303
ณัฐวุฒิ เอี่ยมสะอาด ต่อ 3306
โทรสาร 0 2367 5946
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--