กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
ถ่ายทำฉากแรก แอฟ-ทักษอร ผ่านฉลุย ท่านมุ้ยชมเหมาะสมเหมือนเจ้าหญิง มีความตั้งใจ คู่ควรบท “มณีจันทร์” พอใจภาพรวมการถ่ายทำออกมาดี ด้านบท “พระสุพรรณกัลยา” ดึง “เกรซ—แบม” เป็นตัวเต็ง
เปิดตัวนางเอกครั้งแรกของภาพยนตร์ “นเรศวร” ด้วยฉาก “มณีจันทร์” นางสนองพระโอษฐ์ของพระสุพรรณกัลยา มาซื้อของที่ตลาดโยเดียในหมู่บ้านพม่า และ “พระราชมนู” ทหารเอกของพระนเรศวรปลอมเป็นวณิพกมาดักพบเพื่อแอบบอกความลับ สำหรับบท “มณีจันทร์” รับบทโดยสาวหน้าหวาน แอฟ—ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ที่เข้าตาท่านมุ้ย เพราะลักษณะเหมือนเจ้าหญิง มีความตั้งใจสูงทั้งการเล่น และน้ำเสียง เข้าฉากครั้งแรกผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะเป็นฉากที่ยากเพราะมีรายละเอียดมาก แต่ภาพรวมออกมาดีน่าพอใจ
“เหตุที่เลือกแอฟมารับบทนี้เพราะในความรู้สึกคิดว่าพวกมอญน่าจะเป็นคนขาว และแอฟเป็นคนที่มีผิวพรรณดี หน้าตาดี ไม่มีอะไรด่างพร้อย ลักษณะเหมือนเจ้าหญิง เหมาะสำหรับบทนี้ เพราะมณีจันทร์คนที่หวานนอกแข็งใน และสำหรับฉากนี้เป็นฉากที่ค่อนข้างยาก เพราะรายละเอียดของฉากมีมาก เราใช้นักแสดงประกอบกว่า ๕๐๐ คน ซึ่งนักแสดงต้องพูดหลายภาษาทั้ง พม่า มอญ มันเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ ต้องเชิญอาจารย์ที่มีความรู้ด้านนี้มาช่วยเรื่องการออกเสียง สำเนียงของนักแสดง เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมจริงที่สุด ในด้านอุปสรรคของการถ่ายทำก็มีบ้างเพราะฝนตก ทำให้การถ่ายทำล่าช้าออกไป แต่ในภาพรวมการถ่ายทำวันนี้ถือว่าออกมาดี
สำหรับบทของพระสุพรรณกัลยาที่มีการพูดถึงกันมาก ตอนนี้เรามองอยู่ คือ คุณเกรซ มหาดำ-รงค์กุล และ คุณแบม-เจณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ แต่ก็ยังไม่ได้ติดต่อเป็นทางการ เพียงแค่มองๆ ไว้เท่านั้น คนที่จะรับบทนี้ ต้องมีลักษณะเหมือนสุริโยไท สง่าเป็นเจ้าหญิง” ท่านมุ้ย กล่าว
แอฟ — ทักษอร พูดถึงบทบาทที่ได้รับว่า “ภูมิใจและดีใจมากที่ได้มีส่วนในเรื่องนเรศวร ส่วนตัวอยากเล่นเรื่องที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องนี้ฉากทุกอย่างดูสมจริง ได้แต่งตัวโบราณซึ่งไม่เคยใส่มาก่อน และได้เข้าไปใช้ชีวิตเหมือนคนสมัยก่อน จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก ซึ่งก่อนหน้านี้แอฟได้เรียนขี่ม้า ขี่ช้าง ฟันดาบ ต้องฝึกซ้อมนานเป็นปี เพราะไม่มีพื้นฐานด้านนี้ ทำให้ตอนนี้มีความพร้อมในการเข้าฉากเต็มที่ แอฟอยากให้ทุกคนได้ชม เพราะนานๆ จึงจะมีหนังคุณภาพอย่างนี้ออกมา เป็นเรื่องยากทั้งในส่วนของการลงทุน ลงแรง ทั้งคนและเวลาได้มากขนาดนี้ และที่สำคัญภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นประวัติศาสตร์ของชาติเราเอง ทำให้เราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และความยากลำบากของ บรรพบุรุษในการกอบกู้เอกราชจนมีประเทศไทยมาจนถึงทุกวันนี้”
นับว่าเป็นภาพยนตร์ไทยที่น่าจับตามองอีกเรื่องที่ คนไทยทุกคนต้องดู พร้อมเข้าฉายวันฉัตรมงคล ฉลองครองราชย์ ๖๐ ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ปีหน้าแน่นอน
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง “นเรศวร”
บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร ๐ ๒๖๙๑ ๖๓๐๒-๔, ๐ ๒๒๗๔ ๔๙๖๑-๒
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--