กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
หากวิเคราะห์ถึงภาพรวมธุรกิจบริหารโครงการของเมืองไทยในปัจจุบัน พบว่า มีพัฒนาการด้านการให้บริการที่แตกต่างจากในอดีตอย่างเห็นได้ชัด ในอดีตธุรกิจบริหารโครงการถือเป็นสิ่งใหม่สำหรับสังคมไทย หลายๆ โครงการมักจะดำเนินการบริหารเองในแบบสไตล์ใครสไตล์มัน ทำให้ขาดมาตรฐานในการให้บริการ แต่เมื่อมีบริษัทข้ามชาติที่มองเห็นโอกาสการพัฒนาธุรกิจบริหารโครงการในเมืองไทย เพราะเป็นธุรกิจที่ยังไม่ค่อยมีใครลงมาดำเนินการอย่างจริงจัง จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของบริการที่มีระบบและกฏเกณฑ์ในการให้บริการที่มีกลิ่นอายแห่งความเป็นสากลเพิ่มขึ้น
และจากมูลค่าตลาดรวมของธุรกิจบริหารโครงการนี้เอง ส่งผลให้บริษัทสัญชาติไทยหลายรายกระโดดเข้าชิงส่วนแบ่งทางการตลาดดังกล่าว จึงทำให้ธุรกิจบริหารโครงการของเมืองไทยเริ่มมีสีสันมากขึ้น จนกระทั่งถึงยุคที่ต้องเกิดการแข่งขันแบบถึงพริกถึงขิง มีการฟาดฟันกันในเรื่องของราคากันอย่างเห็นได้ชัด แต่นั่นก็ถือเป็นบทพิสูจน์ที่ดีว่า " ของถูกและดีไม่มีในโลก" เพราะหลายโครงการที่คัดเลือกบริษัทเข้ามาบริหารโดยมองเรื่องราคาเป็นปัจจัยหลักในการคัดเลือกนั้น ต่างก็ต้องเรียนรู้ว่า ปัจจัยที่สำคัญในการคัดเลือกบริษัทบริหารโครงการนั้นแท้จริงแล้วมิใช่มองเพียงแค่ราคา แต่เป็นเรื่องของมืออาชีพที่พร้อมให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ และมีระบบการบริหารจัดการที่ดีมากกว่า ซึ่งสิ่งนี้เองที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านรูปแบบการแข่งขันของธุรกิจบริหารโครงการในเมืองไทย
หากเราลองสังเกตความเคลื่อนไหวของธุรกิจบริหารโครงการของไทย เราจะพบว่า ปัจจุบันหลายบริษัทต่างงัดกลยุทธ์ต่างๆ เข้ามาเพื่อสร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง และกลยุทธ์หนึ่งที่หลายบริษัทนำมาใช้ก็คือ "การมอบบริการที่ดีที่สุด" ซึ่งการที่นำคำว่า "บริการที่ดีที่สุด" มาใช้เป็นจุดขายนั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะใครๆ ก็สามารถหยิบขึ้นมาเป็นจุดขายได้ แต่การที่จะนำคำว่า "บริการที่ดีที่สุด" มาสร้างให้เกิดเป็นรูปธรรมนั้นต่างหาก ที่ถือเป็นตัววัดมาตรฐานการดำเนินงานของบริษัทบริหารโครงการมืออาชีพ
และจากเหตุผลในการนำเสนอ "การบริการที่ดีที่สุด" มาเป็นจุดขายของการแข่งขันในตลาดบริหารโครงการนี้เอง ส่งผลให้ Concierge Service ถือกำเนิดขึ้นเพื่อมอบบริการที่สมบูรณ์แบบในบทบาทของการเป็นผู้ช่วยที่สมบูรณ์แบบแก่กลุ่มลูกค้าอย่างไร้ขีดจำกัด
Concierge Service ถือเป็นบริการอันเป็นที่คุ้นเคยอย่างดียิ่งสำหรับผู้ที่นิยมใช้บริการของโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่ให้บริการประหนึ่งผู้ช่วยพิเศษสำหรับลูกค้าวีไอพี ในการจัดการหรือดำเนินการกิจธุระสำคัญต่างๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในช่วงที่พักอาศัยในโรงแรมให้ได้รับความสุขสูงสุด โดยคำว่า Concierge ตามพจนานุกรม อ่านเป็นภาษาไทยว่า "คอนเซียร์จ" หรือ "กงซีเอจ" ตามแบบรากศัพท์ของฝรั่งเศส มีความหมายว่า "คนเฝ้าประตู" ในขณะที่ Concierge Service หมายถึง บริการผู้ช่วยพิเศษที่จะดำเนินการจัดการทั่วไปตามที่ได้รับมอบหมายจากลูกค้าคนสำคัญ อาทิ บริการติดต่อสำรองห้องพักโรงแรม ร้านอาหาร ตั๋วเครื่องบิน บริการจัดหารถเช่าและแท็กซี่สาธารณะ บริการจองตั๋วภาพยนตร์และบัตรคอนเสิร์ต บริการจองสนามกอล์ฟและจองเวลาทีออฟ บริการจองโต๊ะและสถานที่สำหรับสถานบันเทิงต่างๆ บริการจัดซื้อรายการอาหารในห้างสรรพสินค้า บริการสั่งดอกไม้ รวมถึงการให้บริการค้นหาและจัดส่งของไปยังสถานที่ต่างๆ ที่ยากลำบากต่อการค้นหา เป็นต้น
ด้วยความโดดเด่นของคอนเซปต์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Concierge Service ล่าสุด บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจบริหารโครงการของไทย จึงได้นำ Concierge Service มาประยุกต์ใช้ภายใต้บริการชื่อ "Plus Concierge" ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมการให้บริการของธุรกิจบริหารโครงการที่เน้นให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก ทั้งนี้ "Plus Concierge" ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้รับมาตรฐานการบริการที่ดี เพิ่มความสะดวกสบายในช่วงระหว่างการพักอาศัย เพิ่มเวลาสำหรับชีวิตส่วนตัว และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้าดังแนวคิด "Service Beyond Your Expectations" โดยสามารถจัดแบ่งรูปแบบการให้บริการ Plus Concierge ตามประเภทของบริการได้ดังนี้ บริการด้านบุคคล การให้บริการลูกค้าดุจบริการเลขาส่วนตัว มอบความสะดวกสบาย และจัดเตรียมทุกสิ่งแทนท่าน เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น มีความสุขในการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ดังตัวอย่างบริการ เช่น บริการรับฝากชำระค่าบริการ บริการดูแลเด็ก และผู้สูงอายุ บริการดูแลรักษารองเท้า บริการด้านเสริมสวย บริการจัดซื้อของขวัญ บริการจัดส่งดอกไม้ บริการจัดหาพาหนะ บริการจัดส่งอาหาร บริการดูแลสัตว์เลี้ยง บริการซัก อบ รีด บริการซื้อสินค้า บริการจัดหาน้ำดื่ม บริการด้านที่พักอาศัย บริการจัดหาผู้ดูแลทำความสะอาดสระว่ายน้ำภายในที่พักอาศัย บริการจัดหาผู้ออกแบบ, ดูแลรักษาต้นไม้ บริการจัดหาผู้ออกแบบ, ตกแต่งต่อเติมที่พักอาศัย บริการให้คำปรึกษา และสรรหาผู้ดูแลด้านงานรักษาความปลอดภัย บริการจัดหาบริการทำความสะอาด บริการให้คำปรึกษาและจัดหาบริษัทผู้ให้บริการด้านงานประกันภัย บริการจัดหาบริการกำจัดแมลง บริการงานซ่อมแซม บริการจัดหาบริการขนย้าย บริการให้คำปรึกษาในการขาย - เช่าอสังหาริมทรัพย์ บริการด้านสันทนาการ บริการจองบัตรชมการแสดง อาทิ ละครเวที คอนเสิร์ต ภาพยนตร์ กีฬา ฯลฯ บริการจัดเลี้ยง ตกแต่งสถานที่ บริการด้านการเดินทาง บริการจองที่พักร้านอาหาร บริการจองตั๋วเครื่องบิน บริการรถรับ - ส่ง บริการรถเช่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างให้กลุ่มลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งปัจจุบัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ ได้นำบริการ "Plus Concierge" เข้าให้บริการแก่โครงการที่รับบริหารทั้งโครงการหมู่บ้านและคอนโดมิเนียมแล้ว
"เป็นที่ทราบกันว่าปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งเห็นได้ชัดในปีที่ผ่านมา ซึ่งหากเราวิเคราะห์แล้วจะพบว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้าจะมีโครงการใหม่ๆ ทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับธุรกิจบริหารโครงการ เพราะนั่นหมายถึงว่าเราสามารถขยายตลาดเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน แต่อะไรจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราโดดเด่นกว่าคู่แข่งนั้น คงเป็นการบ้านที่หนักสำหรับทุกบริษัท สำหรับ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ นั้น เราสั่งสมความพึงพอใจของลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเราสามารถก้าวสู่ตำแหน่งเบอร์หนึ่งของธุรกิจบริหารโครงการของไทยได้สำเร็จ ด้วยพื้นที่บริหารกว่า 2.65 ล้านตารางเมตร ทั้งนี้เป็นเพราะระบบการให้บริการที่ได้มาตรฐานระดับสากล การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อลดต้นทุนในการจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนกลางของแต่ละโครงการ ซึ่งจากข้อดีต่างๆ ทำให้ทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชนต่างยอมรับในความเป็นมืออาชีพของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์" นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าว
ด้านมุมมองที่มีต่อธุรกิจบริหารโครงการในปี 2547 นั้น นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กล่าวเสริมว่า "ในปี 2547 เชื่อว่าทุกบริษัทต่างต้องวางกลยุทธ์ที่จะเสริมให้บริการมีความโดดเด่นเหนือกว่า ดังที่ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ ได้เปิดตัวบริการใหม่ล่าสุด "Plus Concierge" บริการผู้ช่วยสมบูรณ์แบบ ที่ถือเป็นแห่งแรกของเมืองไทยในปัจจุบันที่นำเสนอคอนเซปต์ดังกล่าว เพราะผู้ที่ทำได้ ต้องมั่นใจในคุณภาพของบุคลากร ทั้งด้านความเพียงพอในแง่จำนวนและมาตรฐานการให้บริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน การมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มบริษัทผู้ให้บริการในด้านต่างๆ เพื่อเสนอบริการที่ดีในราคาที่สมเหตุสมผลแก่กลุ่มลูกค้า ซึ่งการที่จะทำเช่นนี้ได้นั้นต้องอาศัยเวลา โดยส่วนตัวแล้วเชื่อมั่นว่าปีนี้ตลาดจะต้องมีการแข่งขันกันมากขึ้น ซึ่งมองว่าแนวโน้มในการแข่งขันด้านราคาน่าจะลดลงแต่จะแข่งกันในเรื่องการบริการที่เหนือกว่ามากขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯ ก็ได้วางแผนด้านกลยุทธ์การทำตลาดไว้อย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าปลายปี 2547 จะสามารถบริหารโครงการรวม 85 โครงการ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปีที่ผ่านมา"--จบ--
-นท-