กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--IR PLUS
SYNEX อวดกำไรสุทธิปี 54 เพิ่มขึ้นโดดเด่นถึง106.31 ล้านบาท หรือ39.28% จาก 270.67 ล้านบาทในงวดปี 53 เป็น 376.98 ล้านบาทงวดปี 54 แถมบอร์ดใจดีอนุมัติปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 0.22 บาท/หุ้น ส่งผลให้ทั้งปีผู้ถือหุ้นรับทรัพย์หุ้นละ 0.27 บาท “สุพันธุ์ มงคลสุธี” เผยตลาดไอทีปี 55 ยังขยายตัวสูงตามนโยบายรัฐที่สนับสนุนสินค้าไอทีสุดลิ่ม โดยเฉพาะตลาดสมาร์ทโฟน วางเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโตอย่างน้อย 15%
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและซีอีโอ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดปี 2554 (มกราคม — ธันวาคม 2554) ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 20,268.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,606.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.41 จากงวดปี 2553 (มกราคม — ธันวาคม 2553) ที่มีรายได้ 15,661.93 ล้านบาท ขณะเดียวกันงวดปี 2554บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ จำนวน376.98 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.56 บาท เทียบกับกำไรสุทธิจากงวดเดียวกันของปี 2553 จำนวน 270.67 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.40บาท ทำให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 106.31 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.28
สำหรับผลกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ในทุกกลุ่มสินค้า รวมทั้งสมาร์ทโฟนและแทบเล็ตที่เติบโตอย่างชัดเจน ประกอบกับบริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิขยายตัวอย่างโดดเด่นดังกล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวอีกว่าเพื่อตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นที่สนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา คณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการงวดครึ่งหลังปี 2554 อีกในอัตราหุ้นละ 0.22 บาท จากที่ก่อนหน้านี้ได้จ่ายปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 0.05บาท ส่งผลให้ทั้งปี 2554 บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้นในอัตราหุ้นละ 0.27 บาท
เขากล่าวอีกว่า ตลาดไอทีปี 2555 ยังมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง หลังจากที่ภาครัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนธุรกิจไอทีอย่างชัดเจน โดยเฉพาะนโยบายใช้แทบเล็ตเป็นสื่อการเรียนการสอนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้สินค้าในตลาดไอทีมีความต้องการใช้มากขึ้น นอกจากนั้น มั่นใจว่าในปีนี้กระแสสมาร์ทโฟนยังคงเติบโตในอัตราที่ดีหลังจากที่มีสินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ ลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปีนี้ธุรกิจไอทีทั้งระบบจะขยายตัวไม่น้อยกว่าร้อยละ 12 และ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ในอัตราสูงกว่าการเติบโตของตลาดที่อัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยรายได้จากการขายสมาร์ทโฟนก็ยังคงครองอัตราการเติบโตสูงสุดของบริษัทฯ และคาดว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10-20 ของรายได้รวมจาก ร้อยละ 10 ในปี 2554