สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 โดย YLG

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 24, 2012 17:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--PRdd สภาวะตลาดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,774.66 — 1,782.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ12 อยู่ที่ 25,870 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,880 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ12 อยู่ที่ 1,100 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 34 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,066 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.51 น.ของวันที่ 24/02/12)ออกมา คือ ออกมา คือ แนวโน้มวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 กระแสข่าวรัฐสภากรีซให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายที่จะนำไปสู่การเริ่มดำเนินการสว็อปหนี้สำหรับผู้ถือพันธบัตรในภาคเอกชนแล้ว โดยพันธบัตรชุดใหม่จะมีกำหนดไถ่ถอนที่นานขึ้นและมีอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วที่ลดลง เป็นการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วของพันธบัตรกรีซลง 53.5% และจะทำให้หนี้ค้างชำระของกรีซลดลง 1.07 แสนล้านยูโร ก็เป็นประเด็นที่หนุนค่าเงินสกุลยูโรให้แข็งค่าขึ้น อีกทั้งกระแสข่าวในอิหร่านหลังแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศที่ยังตึงเครียดประเด็นอิหร่าน ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์เกรงว่าอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าที่รุนแรงซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันในที่สุดประกอบกับโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 127.50 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วง 12 เดือนข้างหน้า พร้อมระบุว่าสต็อกน้ำมันทั่วโลกไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก แม้ซาอุอาระเบียผลิตน้ำมันดิบที่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี และลิเบียกำลังผลิตน้ำมันกลับเข้าสู่ตลาดก็ตามซึ่งกระแสข่าวนี้ได้หนุนราคาน้ำมันให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามวายแอลจีประเมินว่าแม้นค่าเงินยูโรและราคาน้ำมันจะหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่การปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างรวดเร็วจำเป็นต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมา เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นไปเหนือระดับ 1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง จะมีแนวโน้มขึ้นทดสอบบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนแบ่งขายทำกำไรตามแนวต้านต่างๆเพื่อควบคุมความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและ ยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง หรือถ้าราคาสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยเน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,763 (25,330บาท) 1,750 (25,150บาท) 1,742 (25,030บาท) แนวต้าน 1,800 (25,870บาท) 1,815 (26,080บาท) 1,830 (26,300บาท) GOLD FUTURES (GFJ12) แนวรับ 1,763 (25,620บาท) 1,750 (25,430บาท) 1,742 (25,320บาท) แนวต้าน 1,800 (26,160บาท) 1,815 (26,380บาท) 1,830 (26,590บาท) SILVER FUTURES (SVJ12) แนวรับ 34.35 (1,060บาท) 33.90 (1,046บาท) 33.12 (1,022บาท) แนวต้าน 36.00 (1,110บาท) 36.70 (1,131บาท) 37.32 (1,150บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ www.ylgbullion.com สภาวะตลาดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,774.66 — 1,782.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ12 อยู่ที่ 25,870 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,880 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ12 อยู่ที่ 1,100 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 34 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,066 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.51 น.ของวันที่ 24/02/12)ออกมา คือ ออกมา คือ แนวโน้มวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 กระแสข่าวรัฐสภากรีซให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายที่จะนำไปสู่การเริ่มดำเนินการสว็อปหนี้สำหรับผู้ถือพันธบัตรในภาคเอกชนแล้ว โดยพันธบัตรชุดใหม่จะมีกำหนดไถ่ถอนที่นานขึ้นและมีอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วที่ลดลง เป็นการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วของพันธบัตรกรีซลง 53.5% และจะทำให้หนี้ค้างชำระของกรีซลดลง 1.07 แสนล้านยูโร ก็เป็นประเด็นที่หนุนค่าเงินสกุลยูโรให้แข็งค่าขึ้น อีกทั้งกระแสข่าวในอิหร่านหลังแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศที่ยังตึงเครียดประเด็นอิหร่าน ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์เกรงว่าอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าที่รุนแรงซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันในที่สุดประกอบกับโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 127.50 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วง 12 เดือนข้างหน้า พร้อมระบุว่าสต็อกน้ำมันทั่วโลกไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก แม้ซาอุอาระเบียผลิตน้ำมันดิบที่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี และลิเบียกำลังผลิตน้ำมันกลับเข้าสู่ตลาดก็ตามซึ่งกระแสข่าวนี้ได้หนุนราคาน้ำมันให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามวายแอลจีประเมินว่าแม้นค่าเงินยูโรและราคาน้ำมันจะหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่การปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างรวดเร็วจำเป็นต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมา เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นไปเหนือระดับ 1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง จะมีแนวโน้มขึ้นทดสอบบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนแบ่งขายทำกำไรตามแนวต้านต่างๆเพื่อควบคุมความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและ ยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง หรือถ้าราคาสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยเน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,763 (25,330บาท) 1,750 (25,150บาท) 1,742 (25,030บาท) แนวต้าน 1,800 (25,870บาท) 1,815 (26,080บาท) 1,830 (26,300บาท) GOLD FUTURES (GFJ12) แนวรับ 1,763 (25,620บาท) 1,750 (25,430บาท) 1,742 (25,320บาท) แนวต้าน 1,800 (26,160บาท) 1,815 (26,380บาท) 1,830 (26,590บาท) SILVER FUTURES (SVJ12) แนวรับ 34.35 (1,060บาท) 33.90 (1,046บาท) 33.12 (1,022บาท) แนวต้าน 36.00 (1,110บาท) 36.70 (1,131บาท) 37.32 (1,150บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ www.ylgbullion.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ