กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--คอร์แอนด์พีค
รองรับความเสี่ยงเหตุการณ์ภัยพิบัติ เชื่อยังเป็นปัจจัยสำคัญเอื้อให้องค์กรธุรกิจตัดสินใจลงทุนวางระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีครั้งใหญ่
ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ชี้บทเรียนจากเหตุการณ์อุทกภัย ในปีที่ผ่านมา ยังเป็นปัจจัยเอื้อให้นักบริหารในองค์กรธุรกิจต่างๆ ตัดสินใจวางแผนลงทุนวางระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีครั้งใหญ่ เพื่อรองรับความเสี่ยงภัยพิบัติที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจ ระบุปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ยอดขายบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมามียอดเติบโตขึ้น 142%
นายวัชรสิทธิ์ สันติสุขนิรันดร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ หรือ เอชดีเอส เปิดเผยว่า ในรอบปีที่ผ่านมาทั่วโลกต่างประสบกับปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ ส่งผลให้องค์กรธุรกิจต่างๆ เห็นความสำคัญของการวางแผนป้องกันความเสี่ยงที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจ จึงทำให้โซลูชั่นที่รองรับความเสี่ยงดังกล่าวได้รับความสนใจจากองค์กรธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะโซลูชั่นบริหารจัดการข้อมูลในระบบเสมือนจริง (Virtualization) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการกับลูกค้าทั้งอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (สตอเรจ)และโซลูชั่นในการบริหารจัดการข้อมูลมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลประกอบการของฮิตาชิ ประเทศไทย ในปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 142% ทั้งนี้จะเห็นได้จากข้อมูลของไอดีซีในไตรมาสที่ 2 ปี 2554 ระบุฮิตาชิ มีส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Chare) อยู่ที่ 10.4% และในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งประเทศไทยประสบกับปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ในขณะที่บริษัทอื่นๆ มีปัญหาธุรกิจหยุดชะงัก แต่สำหรับฮิตาชิ ธุรกิจยังดำเนินต่อไปได้ โดยมียอดการสั่งซื้อจากลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสั่งซื้อจากลูกค้าเดิมที่ยังคงดำเนินการอยู่และการสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหม่ที่สำนักงานของเขาประสบกับปัญหาน้ำท่วม ขณะที่ธุรกิจจำเป็นต้องดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง จึงมีการสั่งซื้อสตอเรจและโซลูชั่นการบริหารจัดการข้อมูลจากบริษัทฯ เพื่อทำดาต้า เซ็นเตอร์ สำรอง ให้สามารถทำงานจากนอกสำนักงานได้
โดยในปี 2555 นี้ ฮิตาชิมีแผนที่จะรุกขยายตลาดมากขึ้น หลังจากที่บริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท บลูอาร์ก ผู้นำด้านระบบจัดเก็บข้อมูลเครือข่าย ที่มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งในด้านการบริหารจัดการไฟล์และเนื้อหา (File &Content) ให้กับบริษัทฯ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเติบโตของข้อมูลแบบไม่ได้จัดระเบียบ (Unstructure Data) และโมบาย แอพพลิเคชั่น ซึ่งก่อให้เกิดข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ปัญหาสำคัญขององค์กรธุรกิจในปัจจุบันซึ่งจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีสตอเรจเข้าช่วยในการบริหารจัดการ รวมทั้งบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับโซลูชั่นที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบีซีดีอาร์ (Business Continuity & Disaster Recovery) เซิร์ฟเวอร์ เวอร์ชวลไลเซชั่น,สตอเรจ เวอร์ชวลไลเซชั่น และเดสก์ทอป เวอร์ชวลไลเซชั่น รวมถึงคลาวด์ แพลทฟอร์ม และรีโมต บรานซ์ ออฟฟิศ โซลูชั่น เพื่อรองรับองค์กรธุรกิจในประเทศไทยที่เริ่มมีสาขามากขึ้น
นอกจากนี้ ฮิตาชิ ยังได้จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายราย อาทิ VMware, Citrix, Microsoft, Oracle, และ SAP ในการนำเสนอโซลูชั่นที่แตกต่างจากคู่แข่ง สำหรับกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจสื่อสาร มีเดียและบันเทิง กลุ่มธุรกิจการเงินธนาคาร ประกันภัย หน่วยงานภาครัฐ และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และในปีนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะเริ่มเจาะตลาดในกลุ่มธุรกิจความงามเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้บริษัทฯ จะมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30%