กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ ปลื้ม ผลการดำเนินงาน งวดปี 2554 ดีเกินคาด ระบุกำไรสุทธิ อยู่ที่ 84.06 ล้านบาท เพิ่มกว่าปีก่อน 92.07 % ขณะที่รายได้อยู่ที่ 717.79 ล้านบาท เล็งจ่ายปันผล 0.19 บาท/หุ้น ด้านผู้บริหาร “ พูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ” ระบุ พร้อมเดินหน้าการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าเพิ่ม หลังโรงงานเฟส 2 แล้วเสร็จ ภายในไตรมาส 2/2555 เตรียมปูทาง เปิดช่องทางการตลาดต่างประเทศเพิ่ม รองรับ AEC โชว์สินค้าไทยมาตรฐานสากล มั่นใจปี55 รายได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น20%
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานกรรมการ บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) หรือ QTC ผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้า เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดปี 2554 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 84.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.07 % เมื่อเทียบกับปี 2553 ที่มีกำไร 43.77 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมของบริษัทฯอยู่ที่ 717.79 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 524.02 ล้านบาท หรือเป็นการเพิ่มขึ้น 37 %
ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 4 บริษัทฯมีรายได้อยู่ที่ 299.66 ล้านบาท และกำไรอยู่ที่ 53.41ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 230.34 ล้านบาท และกำไร 37.30 ล้านบาท ตามลำดับ โดยสาเหตุของการเติบโตดังกล่าว เนื่องจากบริษัทฯมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าภาครัฐ และเอกชนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทฯได้วางแผนการตลาดในการขยายการจำหน่ายไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้รายได้ และกำไรเป็นไปในแนวทางที่ดี รวมถึงยังสามารถบริหารจัดการ และควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ จากการประชุมคุณกรรมการบริษัทฯได้มีการพิจารณาจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.19 บาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 11 พฤษภาคม 2555 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังต้องขอมติที่ประชุมจากผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 เมษายน 2555 อีกครั้ง
“ ผลการดำเนินการในปี2554 ถือว่าโตเกินเป้าหมายที่วางไว้เดิมที่ 30% ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ที่บริษัทฯจะค่อยๆเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยการวางแผนการดำเนินงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการขยายการส่งออกไปต่างประเทศ หรือรวมถึงความต้องการในประเทศก็ขยายตัวตามความต้องการใช้ไฟฟ้า ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯมียอดคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น” นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2555 นั้น นายพูลพิพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนการขยายสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ เพิ่มเป็น 25% จากเดิม 20% อาทิ ประเทศลาว, พม่า, อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวมีการขยายตัวของจำนวนประชาชน รวมถึงภาพอุตสาหกรรมพลังงานยังคงมีความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแผนการขยายตลาดดังกล่าวจะเริ่มมีความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2555
ขณะที่โรงงานผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า (เฟส2) ซึ่งเป็นส่วนต่อขยาย จะแล้วเสร็จ และสามารถดำเนินการในเชิงพาณิชย์ ได้ภายในไตรมาส2/2555 ส่งผลให้บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตรวมของหม้อแปลงไฟฟ้า ตั้งแต่ขนาด 30 — 30,000 KVA เพิ่มขึ้น 20% จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 952,000 KVA ทั้งนี้ การขยายโรงงานนอกจากจะสามารถผลิตหม้อแปลงที่มีขนาดต่างๆเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยให้บริษัทฯสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเฉลี่ยแต่ละปีลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะส่งผลต่ออัตรากำไร (มาร์จิ้น) ที่ไปในแนวทางที่ดีขึ้น แต่คาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนของต้นทุนที่ลดลงได้อย่างชัดเจนในปี2556
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯคาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปี 2554 จากมูลค่างานในมือ (Back Log) ปัจจุบันที่ 300 ล้านบาท และยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ แผนการดำเนินงานที่กล่าวมาข้างต้น เป็นแผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับเปิดการค้าเสรีอาเซียน (AEC) ที่ทุกบริษัทฯต้องมีศักยภาพในการดำเนินงานจึงสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ซึ่ง QTC เองถือเป็นบริษัทฯคนไทย และตราสินค้าไทยที่ได้การยอมรับเป็นอย่างดีในต่างประเทศที่สามารถแข่งขันในตลาดโลก
โดยบริษัทฯได้รับเครื่องหมายการรันตรีจาก ภาคการค้าและบริการและภาคการผลิต จาก 3 สถาบันภาคเอกชน ซึ่งประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้าไทย ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ภายใต้รางวัล Q-Mark