สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futuresภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 28, 2012 10:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,777 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,775 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.50 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,450 บาท กับ 25,550 บาท และกลับมาปิดที่ 25,450 บาท กับ 25,550 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,313 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,135 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 26 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง3% แบบ 10 บาท ลดลง 1% GFG12 ปิดที่ 25,680 บาท เและ GFJ12 ปิดที่ 25,860 บาท และ GF10G12 ปิดที่ 25,680 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 25,860 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 1.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,774.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 18.6 เซนต์ ปิดที่ระดับ 35.52 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,284.6 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.21 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 108.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 1.44 จุดปิดที่ระดับ 12,981.51 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 50 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ - สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลกรีซ ลงมาอยู่ที่ระดับ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน (selective default)" จากระดับ CC S&P กล่าวในแถลงการณ์ว่า การปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วของพันธบัตรรัฐบาลกรีซลงมาอยู่ที่ระดับ 53.5% จากเดิมที่เคยประมาณการไว้ที่ 50% นั้น สะท้อนให้เห็นว่าศักยภาพในการชำระหนี้ของกรีซอ่อนแออย่างมาก ซึ่งทำให้ S&P ตัดสินใจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลกรีซลงสู่ระดับ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน" - สำนักงานสถิติของอิตาลี (Istat) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจร่วงลงมาอยู่ที่ 91.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2552 จากระดับเดือนม.ค.ที่ 92.1 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอิตาลีต้องลดงบประมาณการใช้จ่ายลง รวมทั้งเก็บภาษีเพิ่มขึ้น เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ และควบคุมหนี้สินมูลค่า 1.9 ล้านล้านยูโร ซึ่งมาตรการเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงไตรมาส 4 - อิตาลีระดมทุนได้ 1.225 หมื่นล้านยูโร (1.643 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการประมูลตั๋วเงินคลังในวันนี้ โดยเป็นขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือน 8.75 พันล้านยูโร และตั๋วเงินอายุ 10 เดือนวงเงิน 3.5 พันล้านยูโร โดยตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนมีอัตราผลตอบแทนที่ 1.2% ซึ่งลดลงจาก 1.97% ในเดือนที่แล้ว - สกุลเงินยูโรร่วงลง 0.42% แตะที่ 1.3397 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3454 ดอลลาร์สหรัฐ โดยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ประจำเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1% รวมทั้งการเฝ้าจับตาดูของตลาดเกี่ยวกับมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ - นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ เตือนว่า แม้มีสัญญาณบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกมีความก้าวหน้ามากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่ และเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ใน "เขตอันตราย" อันเนื่องมาจากระบบการเงินที่เปราะบาง, หนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูง และการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนที่ผ่านมา - Pending Home Sales m/m จากตัวเลขเดิมที่ 3.5% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ 2.0% ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - Core Durable Goods Orders m/m คาดว่าจะออกมาที่ 0.0% จากตัวเลขเดิมที่ 2.2% - Durable Goods Orders m/m คาดว่าจะออกมาที่ -0.8% จากตัวเลขเดิมที่ 3.0% - CB Consumer Confidence คาดว่าจะออกมาที่ 63.1 จากตัวเลขเดิมที่ 61.1 วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำเคลื่อนตัวแกว่งในทิศทาง Sideway อยู่ในกรอบ 1765 - 1775 เหรียญจากเมื่อวานนี้ โดยยังเป็นการใช้ข่าวทางด้านการเงินของกลุ่มประเทศยูโรอยู่เช่นเดิม ยังไม่มีข่าวอะไรใหม่ แล้วก็ยังรอความชัดเจนของการที่จะอัดฉีดเม็ดเงิน LTRO (Longer-term refinancing operations) และการประชุมพรุ่งนี้ของ ECB ในส่วนของราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นตลาด Comex และปรับตัวลดลงในช่วยปลายตลาด โดยราคาทองคำมาปิดที่ระดับ 1774 เหรียญ และเช้าวันนี้ราคาได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1768 เหรียญ โดยที่ค่าเงินบาทเองยังแกว่งตัวในทิศทาง Sideway โดยเมื่อวานนี้ค่าเงินบาทได้อ่อนค่าไปที่ระดับ 30.49 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้กลับมาลงที่ระดับ 30.42 บาท/ดอลลาร์โดยประมาณ ดังนั้นเมื่อราคาทองคำแปรเป็นค่าเงินบาทโดยภาพรวมน่าจะเป็นทิศทาง Sideway Down จึงแนะนำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไรไปก่อน รอความชัดเจนในข่าวการเงินอีกครั้งหนึ่ง ทางเทคนิคราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 1765 เหรียญ โดยถ้าหลุดระดับนี้นักลงทุนระยะสั้นควรที่จะทำ Stop Loss ออกไปบ้างบางส่วน แนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ 1780 เหรียญ และถูกกดต่ำมาโดยตลอดเช่นเดียวกัน Gold Futures G12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,750 บาท Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,720 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,920 บาท Silver Futures G12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,080 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวะการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,765 — 1,775 เหรียญ ถ้าหลุดแนวรับที่ระดับ 1765 เหรียญ ควรจะหนีก่อน นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) เป็นการขายทำกำไรต่อเนื่องจากเมื่อวาน ลดพอร์ทลงเหลือ 30% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ขายทำกำไรต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ถือครองพอร์ทที่ 40 % สรุปได้ว่า GFG12 จะหมดอายุภายในวันนี้ นักลงทุนควรที่จะหาจังหวะปิด GFG ออกไปก่อน สำหรับจังหวะในการเข้าซื้อ GFJ น่าจะเข้าทำได้ในช่วงสายหรือบ่าย โดยหาจังหวะย่อแล้วค่อยเข้าซื้อมากกว่า หรือไม่ก็รออยู่เฉยๆ บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ