กรุงเทพฯ--29 ก.พ.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือ 7 ธนาคาร และ 7 บล. ในเครือ สานต่อโครงการส่งเสริมช่องทางการลงทุนผ่านสาขา และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารพาณิชย์ 2012 (Banker to Broker & One for All) ปีที่ 2 หลังประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมาโดยมุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรธนาคารต่อเนื่อง หวังช่วยขยายฐานผู้ลงทุนไปยังผู้ออมผ่านธนาคารพาณิชย์กว่า 5,200 สาขาทั่วประเทศ ตอกย้ำพันธกิจด้านการเพิ่มช่องทางการซื้อขายผ่านตัวกลาง และการขยายฐานผู้ลงทุนบุคคล ตั้งเป้าเผยแพร่ความรู้ด้านการลงทุนผ่านผู้จัดการสาขาธนาคารทั่วประเทศกว่า 2,500 คน และมีการเปิดบัญชีผ่านการแนะนำจากสาขาธนาคาร ทั้งสิ้น 15,000 บัญชี มีผู้เปิดบัญชีผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง กว่า 8,000 บัญชี ในปี 2555
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับสถาบันการเงินพันธมิตร 4 กลุ่ม ริเริ่มโครงการส่งเสริมช่องทางการลงทุนผ่านสาขา และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารพาณิชย์ หรือ Banker to Broker & One for All โดยเชื่อมต่อตลาดเงินและตลาดทุนเข้าไว้ด้วยกัน โดยให้บริการแก่ผู้ออมเงินในรูปแบบของ Wealth Management ซึ่งให้บริการใน 2 ช่องทาง โดยผู้จัดการสาขา เป็นผู้เชื่อมต่อบริการด้านหลักทรัพย์ ไปสู่บริษัทหลักทรัพย์ในเครือธนาคาร รวมทั้งการเชื่อมต่อด้วยบริการการเปิดบัญชีลงทุนในหลักทรัพย์ทางอิเล็กทรอนิกส์แบบ Single sign on ผ่านหน้าจอธนาคารออนไลน์ ซึ่งได้เพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้าธนาคาร ให้ได้รับบริการทางการเงินครบวงจร โดย ในปี 2554 ที่ได้ดำเนินโครงการ เกิดการขยายฐานผู้ลงทุนร่วม 10,000 บัญชี และมีการพัฒนาศักยภาพผู้จัดการสาขาของธนาคารกว่า 1,500 คนทั่วประเทศ โดยเป็นการอบรมความรู้ด้านการบริหารความมั่งคั่ง(Wealth Management) และผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่างเข้มข้น
“สำหรับโครงการ Banker to Broker 2012 เรามีพันธมิตรร่วมโครงการทั้งสิ้น 7 กลุ่มสถาบันการเงิน โดยในปีนี้มีพันธมิตรใหม่ 3 กลุ่ม คือ บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บมจ. บล. กรุงศรี บมจ. ธนาคารเกียรตินาคิน บล. เกียรตินาคิน บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ และ บล. ไทยพาณิชย์ และพันธมิตร 4 กลุ่มเดิม ได้แก่ บมจ. ธนาคารกรุงเทพ บมจ. บล. บัวหลวง บมจ. ธนาคารกรุงไทย บล. เคที ซีมิโก้ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย บมจ. บล. กสิกรไทย และ บมจ. ธนาคารธนชาต บมจ.บล. ธนชาต ทำให้มีจำนวนสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 14 แห่ง ซึ่งมีสาขาของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ ถึง 5,256 สาขา ที่พร้อมให้บริการด้านการลงทุนอย่างครบวงจรทั่วประเทศ โดยในปีนี้โครงการได้มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรของธนาคารเป็นหลัก โดยจัดหลักสูตรอบรมเชิงลึก ทั้งสิ้น 3 หลักสูตร แก่ผู้จัดการสาขาและพนักงาน ได้แก่ หลักสูตรการลงทุนในหลักทรัพย์ ผลิตภัณฑ์และบริการในตลาดทุน รวมทั้ง ความรู้ด้านการลงทุนในหลักทรัพย์ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งโครงการได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้จัดการสาขาสามารถทดลองเรียนรู้เกมจำลองการลงทุนหุ้นออนไลน์ หรือ Click2Win ได้ด้วยตนเองอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีบุคลากรไม่ต่ำกว่า 2,500 คนทั่วประเทศ พร้อมเข้ารับการอบรม”
“นอกจากนี้ เพื่อเป็นการขยายการให้บริการด้านหลักทรัพย์ไปยังกลุ่มลูกค้าผู้ใช้บริการธนาคารออนไลน์ (Internet banking) ในปีนี้พันธมิตรผู้ร่วมโครงการจะร่วมกันประชาสัมพันธ์บริการดังกล่าวให้เป็นที่รู้จักให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็ว ในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุน ทั้งการสมัครเพื่อเปิดบัญชีและทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยตัวเอง โดยใช้
login name และ password เดียวกันกับการใช้บริการอื่นๆ ของบริการธนาคารออนไลน์ โดยคาดว่าจะมีผู้ทำธุรกรรมด้านการลงทุนในหลักทรัพย์ ผ่านทั้ง 2 ช่องทางทั้งสิ้น 23,000 บัญชีในปี 2555” นายจรัมพรกล่าว
สำหรับปี 2554 ที่ผ่านมา โครงการ Banker-to-Broker ได้มอบรางวัลโปรแกรมท่องเที่ยวทัศนศึกษาประเทศญี่ปุ่น แก่ 4 ธนาคาร ที่ทำผลงานการให้บริการขยายฐานการลงทุนแก่ผู้รับบริการดีเด่น ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ สาขามีนบุรี และ สาขาศรีนครพิงค์ ธนาคารกรุงไทย สาขาบางปลาสร้อย ธนาคารกสิกรไทย สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา และ ธนาคารธนชาต สาขาบิ๊กซีบางบอน สำหรับโครงการ Banker-to-Broker 2012 ปีนี้ จัดให้มีรางวัลทองคำมูลค่า 100,000 บาท ต่อสาขาต่อธนาคาร สำหรับสาขาของแต่ละธนาคารที่มีผลงานดีเด่นสามารถขยายฐานการลงทุนได้ตามเกณฑ์ที่โครงการกำหนดอีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222