สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 29, 2012 13:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,768 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,783 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.37 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,400 บาท กับ 25,500 บาท และกลับมาปิดที่ 25,450 บาท กับ 25,550 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 8,094 คู่สัญญา แบบ10 บาท อยู่ที่ 12,256 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 119 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interestแบบ 50 บาท ลดลง13% แบบ 10 บาท ลดลง 21% Gold Futures series G ราคาปิด Final Settlement Price ที่ 25,613.48 บาท เและ GFJ12 ปิดที่ 25,860 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 25,850 บาท และ GFM12 ปิดที่ 26,070 บาท และGF10M12 ปิดที่ 26,070 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 13.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,788.4 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 1.61ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 37.14 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,284.6 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมันNYMEX ปิดลดลง 1.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 108.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 23.61 จุดปิดที่ระดับ 13,005.12 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 48 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ - รัฐสภากรีซมีมติอนุมัติมาตรการลดการใช้จ่ายฉบับใหม่ เพื่อให้กรีซมีคุณสมบัติในการรับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบที่ 2 ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้า มาตรการดังกล่าวประกอบไปด้วยการปรับลดเงินบำเน็จบำนาญลงประมาณ 10-20% รวมทั้งไม่มีการปรับขึ้นเงินเดือนและปรับลดเงินเดือนข้าราชการพลเรือน และปรับลดอัตราค่าแรงขั้นต่ำรายเดือนในภาคเอกชนลง 22% ซึ่งมาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะช่วยให้รัฐบาลกรีซสามารถลดการขาดดุลการคลัง และเพื่อให้กรีซมีคุณสมบัติในการรับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบที่ 2 ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่รัฐสภาเยอรมนีลงมติให้การสนับสนุนมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบ 2 สำหรับกรีซ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 496 ต่อ 90 เสียง - กระทรวงการคลังอิตาลีเปิดประมูลพันธบัตรอายุ 10 ปีรอบใหม่ระดมทุนได้ 3.75 พันล้านยูโร พร้อมผลตอบแทน 5.5% เป็นอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่การประมูลขายพันธบัตรอายุ 5 ปีระดมทุนได้ 2.5 พันล้านยูโร ผลตอบแทนอยู่ที่ 4.19% ต่ำกว่าการประมูลครั้งที่ผ่าน โดยอิตาลีประมูลพันธบัตรได้ทั้งสิ้น 6.25 พันล้านยูโรตามเป้าหมายสูงสุดที่กำหนดไว้ และทำให้กระทรวงการคลังสามารถรองรับค่าใช้จ่ายในการไถ่ถอนพันธบัตร 3.7 หมื่นล้านยูโรที่ครบกำหนดในสัปดาห์นี้ได้ - คณะกรรมาธิการยุโรปรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจของผู้บริหารและผู้บริโภคในกลุ่มยูโรโซนประจำเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 94.4 จาก 93.4 เมื่อเดือนม.ค. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจติดลบในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาแล้ว -สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ถือครองสกุลเงินยูโรก่อนที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะอัดฉีดเงินกู้ระยะเวลา 3 ปีให้กับธนาคารพาณิชย์ เพื่อกระตุ้นสภาพคล่องในระบบธนาคารให้ไหลเวียนดีขึ้น ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.45% แตะที่ 1.3459 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3399 ดอลลาร์สหรัฐ - คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยระดับโลกรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 70.8 จุด จากระดับของเดือนม.ค.ที่ผ่านการทบทวนแล้วที่ระดับ 61.5จุด ลิน ฟรังโก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยผู้บริโภคของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด กล่าวว่า "ผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกต่อสภาวะธุรกิจและตลาดแรงมากกว่าในเดือนม.ค. รวมถึงสถานการณ์ด้านการเงินของผู้บริโภคเองด้วย นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ แม้ว่าราคาน้ำมันเบนซินภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม" - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้ออสินค้าคงทนออกมากที่ -4.0% ในเดือนม.ค. ซึ่งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเดือนม.ค. 2552 และเทียบกับคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ประเมินไว้ว่าจะลดลง 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนธ.ค. ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนที่ผ่านมา - Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ -3.2% จากตัวเลขเดิมที่ 2.2% - Durable Goods Orders m/m ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ -4.0% จากตัวเลขเดิมที่ 3.0% - CB Consumer Confidence ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ 70.8 จากตัวเลขเดิมที่ 61.1 ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - Prelim GDP q/q คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 2.8% จากตัวเลขเดิมที่ 2.8% - Chicago PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 61.6 จากตัวเลขเดิมที่ 60.2 - Crude Oil Inventories คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 1.4M จากตัวเลขเดิมที่ 1.6M วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนวานเพื่อรับข่าวการอัดฉีดเม็ดเงินของอีซีบีเข้าสู่ระบบการเงินยุโรปประมาณ 5 แสนล้านยูโร ทำให้นักลงทุนวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เข้าซื้อยูโร/ดอลลาร์ ทำให้ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.3459 ดอลลาร์/ยูโร ราคาทองคำทะลุแนวต้านเดิมที่ระดับ1785 เหรียญได้ และทดสอบแนวต้านบนที่ระดับ 1790 เหรียญ และกลับมาปิดตัวที่ระดับ 1788 เหรียญ คาดว่าราคาทองคำน่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1800 เหรียญได้ อย่างไรก็ดีราคาทองคำในรูปของค่าเงินบาทก็ถูกกดดันลง โดยเมื่อวานนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 7 สตางค์ ทำให้ราคา Gold Futures ขยับไม่มากนัก และเช้านี้เองค่าเงินบาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมา 10 สตางค์ โดยขณะนี้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.25 บาท/ดอลลาร์ การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นก็จะทำให้ราคาทองคำไม่ปรับตัวมากขึ้นนัก ในทุกๆ 10 สตางค์ที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น จะกดดันราคาทองคำลงประมาณ 85 บาท Silver - เมื่อวานราคา Silver ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5 เหรียญ โดยเป็นการปรับตัวมากกว่า 3% ในเมื่อวานนี้ โดยราคา Silver มีลักษณะเป็นแนวโน้มขาขึ้น ในลักษณะกราฟทางเทคนิคมีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 37 เหรียญได้ แนะนำให้ลงทุนในระยะยาว เนื่องจากสภาพคล่องของ Silver Futures ยังต่ำอยู่ Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,780 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,000 บาท Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,980 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,200 บาท Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,080 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,130 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวะการณ์แกว่งตัว ในกรอบ 1,780 — 1,800 เหรียญ ในวันนี้ในทิศทางขาขึ้น และค่าเงินบาทเองก็เป็นตัวกดดัน ขอให้นักลงทุนพิจารณาควบคู่กันไป แนะนำให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวและขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว เพิ่มพอร์ทเป็น 40 % นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ยังเป็นการซื้อเพิ่มพอร์ท 40 % เช่นเดียวกัน บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ