กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทยโดดหนุนธุรกิจแฟคเตอริ่ง ออกสินเชื่อ เค แฟคเตอริ่ง เกินร้อย หนุนเงินทุนหมุนเวียนก่อนและหลังส่งมอบสินค้าวงเงินสูงถึง 108% รับเงินภายใน 24 ชั่วโมง ช่วยเพิ่มสภาพคล่องและโอกาสทางธุรกิจ ตั้งเป้าปล่อยกู้ปีนี้ 3,000 ล้านบาท
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางที่มียอดขาย 50-400 ล้านบาท มีการเจริญเติบโตทางการค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดใหม่ คู่ค้าใหม่ในประเทศ และเชื่อว่าหลังการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 จะยิ่งให้ความสำคัญกับการเพิ่มคู่ค้าต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นทวีคูณ
ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทย จึงออกบริการสินเชื่อ เค แฟคเตอริ่ง เกินร้อย (K-Factoring More Than 100) ขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการทั้งก่อนและหลังการส่งมอบสินค้า/บริการ ประกอบด้วย
สินเชื่อหลังการส่งมอบสินค้า/บริการ (Post-Shipment Financing) เป็นวงเงินสินเชื่อแฟคเตอริ่ง (K-Factoring) ที่ลูกค้าสามารถใช้ใบแจ้งหนี้ (Invoice) ที่มีเทอมการชำระเงินเปลี่ยนเป็นเงินทุนหมุนเวียนได้ทันทีด้วยวงเงินสูงสุดถึง 90% ของมูลค่าใบแจ้งหนี้
สินเชื่อก่อนการส่งมอบสินค้า/บริการ (Pre-shipment Financing) เป็นวงเงินสินเชื่อเบิกเงินเกินบัญชี (O/D) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องในการจัดซื้อวัตถุดิบสำหรับผลิตสินค้า หรือจัดหาสินค้าสำเร็จรูปเพื่อส่งมอบ โดยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะได้รับวงเงินสินเชื่อเบิกเกินบัญชี (O/D) สูงสุดถึง 20% ของวงเงินสินเชื่อแฟคเตอริ่ง หรือสูงสุดถึง 6 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อลูกค้านำใบแจ้งหนี้ (Invoice) จากคู่ค้ามูลค่า 10 ล้านบาท มาใช้ในการขอสินเชื่อ เค แฟคเตอริ่ง เกินร้อย ธนาคาร ฯ จะพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อแฟคเตอริ่ง 90% ของมูลค่าใบแจ้งหนี้ หรือ 9 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อเบิกเกินบัญชี (O/D) 20% ของวงเงินสินเชื่อแฟคเตอริ่งที่ลูกค้าได้รับ หรือ 1.8 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับวงเงินอนุมัติรวม 10.8 ล้านบาท หรือ 108% ของใบแจ้งหนี้
นายพัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า สินเชื่อ เค แฟคเตอริ่ง เกินร้อย เป็นบริการที่ให้วงเงินสินเชื่อก่อนการส่งมอบสินค้า (Pre-shipment Loan) และสินเชื่อหลังการส่งมอบสินค้า (Post Shipment Finance) ครบวงจรที่สุดสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง เนื่องจากมีความยืดหยุ่นในการใช้วงเงิน และธนาคาร ฯ มีประวัติการใช้สินเชื่อของคู่ค้ากว่า 60,000 ราย จึงสามารถพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็ว โดยผู้ประกอบการจะได้รับเงินภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนให้ธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการ ในกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเครื่องดื่ม ยา กระดาษและบรรจุภัณฑ์ ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ และการบริการ จัดหางาน รักษาความปลอดภัย บันเทิงและนันทนาการ โดยที่คู่ค้าได้ทั้งเอกชนและราชการ
ธนาคารกสิกรไทย ตั้งเป้าวงเงินสินเชื่อ เค แฟคเตอริ่ง เกินร้อย ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับปริมาณธุรกิจของลูกค้าได้ถึง 6,000 ล้านบาท จากเป้าหมายปริมาณธุรกิจสินเชื่อ K-Factoring ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในปีนี้ที่ 29,000 ล้านบาท โดยเพิ่มจากในปี 2554 ที่มีประมาณ 16,000 ล้านบาท
สำหรับตลาดสินเชื่อแฟคเตอริ่งในไทยทั้งหมดในปี 2554 มีปริมาณธุรกิจประมาณ 186,000 ล้านบาท เติบโตค่อนข้างมาก โดยธนาคารกสิกรไทยมียอดสินเชื่อแฟคเตอริ่งทั้งหมดรวม 36,500 ล้านบาท เติบโต 33% และมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 20% เป็นอันดับหนึ่งในตลาด สำหรับในปี 2555 คาดว่ายอดสินเชื่อแฟคเตอริ่งทั้งระบบจะเพิ่มเป็น 243,000 ล้านบาท โต 30% โดยคาดว่าจะเป็นยอดสินเชื่อของธนาคารกสิกรไทย 58,000 ล้านบาท โต 59% และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 24%
นายพัชร กล่าวในตอนท้ายว่า สินเชื่อ เค แฟคเตอริ่ง เกินร้อย เป็นอีกสิ่งหนึ่งดี ๆ ที่ทางครือธนาคารมอบให้แก่ลูกค้าในรูปแบบ K-Value Chain Solutions ซึ่งช่วยทำให้ลูกค้าผู้ประกอบการ มีวงจรธุรกิจที่แข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครใช้บริการสินเชื่อ เค แฟคเตอริ่ง เกินร้อย ได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา และศูนย์ธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ K-BIZ Contact Center โทร. 02-888-8822