กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--เอ.พี.ฮอนด้า
ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเดือนมกราคมส่งสัญญาณบวกแต่ต้นปี ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยคึกคัก ปิดสิ้นเดือนด้วยยอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 129,080 คัน ฮอนด้านำลิ่วเป็นอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งตลาดที่ 67% ด้วยยอดจดทะเบียน 86,998 คัน ด้านรถกลุ่มเอ.ที.มาแรงสุด โกยส่วนแบ่ง 51% ด้วยยอดจดทะเบียน 65,687 คัน ทำสถิติครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เผยกระแสตอบรับหลังฮอนด้าเปิดตัวรถใหม่ 7 รุ่นมาแรง รถเอ.ที.โฉมใหม่ อย่าง ฮอนด้าคลิก 125ไอ และ ฮอนด้า สเปซี่ไอ น่าจับตามองเป็นพิเศษ หลังร่วมกับผู้นำเดิมในตลาดอย่างฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ รวมถึงฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ผลักดันให้อัตราครองตลาดของรถในกลุ่มนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้านผู้บริหารใหญ่ค่ายปีกนกมั่นใจไตรมาสแรกสดใส คาดตัวเลขยอดจดทะเบียนเดือนกุมภาพันธ์ดีดตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด พร้อมส่งรถสปอร์ตทีเด็ดอย่าง ฮอนด้าซีบีอาร์150อาร์ กราฟฟิกลายใหม่ลงสู่ตลาด มุ่งรองรับกลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์ที่หันมาใช้รถจักรยานยนต์เพื่อประหยัดน้ำมันแทน
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไปส่วนงานขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “เดือนมกราคมที่ผ่านมาถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับวงการรถจักรยานยนต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2011 หลังปิดตลาดด้วยยอดจดทะเบียนรวมถึง 129,080 คัน โดยมีฮอนด้านำมาเป็นอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งตลาดที่ 67% ด้วยยอดจดทะเบียน 86,998 คัน ทั้งนี้ กลุ่มที่น่าจับตามองอย่างมากคงต้องยกให้กลุ่มรถแบบเอ.ที. ที่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 51% ด้วยยอดจดทะเบียน 65,687 คัน เป็นส่วนแบ่งตลาดที่สูงที่สุดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากกระแสตอบรับของผู้บริโภค หลังจากที่ฮอนด้าได้เปิดตัวรถใหม่พร้อมกันถึง 7 รุ่น ซึ่งในจำนวนนี้มีรถเอ.ที.ที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษอย่าง ฮอนด้าคลิก 125ไอ ที่มีจุดเด่นเรื่องสมรรถนะ และฮอนด้าสเปซี่ไอที่มีจุดขายในด้านความสบายและความประหยัดรวมอยู่ด้วย เมื่อบวกกับกระแสความนิยมของเจ้าตลาดเอ.ที.อย่างฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ และฮอนด้าพีซีเอ็กซ์ที่มีอยู่ก่อนแล้ว รถในกลุ่มนี้จึงเติบโตกว่ากลุ่มอื่นๆ”
สำหรับแนวโน้มในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นที่คาดว่าตลาดรถจักรยานยนต์โดยรวมจะคึกคักยิ่งขึ้นไปอีก จากปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนหันมาใช้ยานพาหนะที่ประหยัดน้ำมันกว่าในการเดินทาง ประกอบกับการทยอยวางจำหน่ายรถรุ่นใหม่ๆ ของผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด โดยเฉพาะฮอนด้า ที่ได้เริ่มทยอยส่งรถรุ่นใหม่ลงสู่ตลาดไปแล้วถึง 5 รุ่น จาก 7 รุ่นที่ได้เปิดตัวไปในเดือนมกราคม ปัจจัยเหล่านี้จะกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการในการซื้อรถคันใหม่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“ราคาน้ำมันในประเทศที่ขยับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการที่อิหร่านประกาศงดส่งน้ำมันดิบให้กับประเทศในยุโรป ส่งผลดีต่อวงการรถจักรยานยนต์มากกว่าผลเสีย เพราะจะทำให้ผู้บริโภคพยายามลดการพึ่งพาการใช้ยานพาหนะขนาดใหญ่ และหันมาใช้รถจักรยานยนต์ซึ่งประหยัดน้ำมันกว่ามากยิ่งขึ้น ซึ่งฮอนด้าเองก็ได้เริ่มวางจำหน่ายรถสปอร์ตตัวเก่งอย่าง ฮอนด้าซีบีอาร์150อาร์ กราฟฟิกใหม่ ลงสู่ตลาดแล้วเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าระดับบน หรือผู้ขับขี่รถยนต์ที่หันมาใช้รถจักรยานยนต์แทน สิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ยอดจดทะเบียนในเดือนกุมภาพันธ์ดีดตัวสูงขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในไตรมาสแรกนี้” นายสุชาติกล่าวเพิ่มเติม
ด้านรายงานตัวเลขตลาดรวมรถจักรยานยนต์ทุกประเภทประจำเดือนมกราคม 2555 มียอดจดทะเบียนป้ายวงกลมทั้งสิ้น 129,080 คัน แบ่งเป็นรถแบบ เอ.ที. 65,687 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 51% รถแบบครอบครัว 58,759 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 46% รถแบบสปอร์ต 1,940 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 2% รถแบบออน-ออฟ 726 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 1% รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 692 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 1% และรถแบบอื่นๆ รวมกัน 1,276 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 1%
ทั้งนี้ เมื่อแบ่งแยกตามกลุ่มผู้ผลิตพบว่าในเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 86,998 คัน เทียบเท่าสัดส่วนครองตลาดที่ 67% ตามด้วย ยามาฮ่า 33,729 คัน สัดส่วนครองตลาด 26%, ซูซูกิ 4,784 คัน สัดส่วนครองตลาด 4% และคาวาซากิ 1,106 คัน สัดส่วนครองตลาด 1%, และยี่ห้ออื่นๆ รวม 2,463 คัน สัดส่วนครองตลาด 2%