สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futuresภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 1, 2012 11:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,787 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,772 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.32 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,400 บาท กับ 25,500 บาท และกลับมาปิดที่ 25,400 บาท กับ 25,500 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,103 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,218 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 59 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น0.8% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1% GFJ12 ปิดที่ 25,770 บาท เและ GFM12 ปิดที่ 25,980 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 25,770 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 25,960 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 77.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,711.3 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 2.56 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 34.64 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,293.67 ตัน (ซื้อเข้า 9.07 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 52 เซนต์ ปิดที่ระดับ 107.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 53.05 จุด ปิดที่ระดับ 12,952.07 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 49.40 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ - นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการรายงานนโยบายการเงินและแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสว่า เฟดจะยึดแผนตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปจนกว่าจะถึงปลายปี 2557 เป็นอย่างน้อย แม้ว่าอัตราว่างงานจะลดลงอย่างต่อเนื่องก็ตามนายเบอร์นันเก้กล่าวว่า อัตราว่างงานปรับตัวลดลงเร็วกว่าที่เฟดคาดการณ์ จนอยู่ที่ระดับ 8.3% ในตอนนี้ อย่างไรก็ดี เฟดไม่คิดว่าอัตราว่างงานจะลดลงอย่างรวดเร็วในปีนี้ แต่หากอัตราว่างงานยังลดลงอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง เฟดก็จะทบทวนมุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจอีกครั้ง - สัญญาทองคำร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่เบอร์นันเก้ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 ในระหว่างที่แถลงนโยบายการเงินและแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย แต่กล่าวเพียงว่า อัตราว่างานของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างช้าๆในปี 2555 ความผิดหวังที่นักลงทุนมีต่อแถลงการณ์ของเบอร์นันเก้ได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายทางเทคนิคในตลาดทองคำ นอกจากนี้ การที่เบอร์นันเก้ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการ QE3 ได้หนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างแรงกดดันให้กับทองคำด้วย - สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.พ.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศอัดฉีดสภาพคล่องให้กับภาคธนาคารในยูโรโซน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) - สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจากเบอร์นันเก้ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 ในระหว่างการแถลงนโยบายการเงินและแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยเบอร์นันเก้กล่าวเพียงว่า เฟดจะยึดแผนตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปจนกว่าจะถึงปลายปี 2557 เป็นอย่างน้อย และกล่าวอัตราว่างงานปรับตัวลดลงเร็วกว่าที่เฟดคาดการณ์ จนอยู่ที่ระดับ 8.3% นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ยังได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐปรับเพิ่มการประมาณการจีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2554 ขึ้นเป็น 3.0% เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ 2.8% ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคขยายตัว 2.1% - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตในสหรัฐ ครั้งล่าสุด โดยระบุว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคส่วนใหญ่ของสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างช้าๆในช่วงเดือนม.ค.จนถึงต้นเดือนก.พ. ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ระยะของการขยายตัวตั้งแต่ช่วงต้นปี รายงานของเฟดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว "ในระดับปานกลางในเดือนม.ค.จนถึงต้นเดือนก.พ. อีซีบีจัดสรรเงิน 529,530.81 ล้านยูโร (7.133 แสนล้านดอลลาร์) สำหรับการดำเนินมาตรการรีไฟแนนซ์ระยะยาว (LTRO) ระยะเวลา 3 ปีเมื่อวานนี้ โดยวันครบกำหนดชำระคืนเงินกู้คือวันที่ 26 ก.พ. 2558 ขณะเดียวกันอีซีบีเปิดเผยว่า มีธนาคารทั้งสิ้น 800 แห่งที่ขอเงินกู้ดังกล่าว ก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า อีซีบีจะอัดฉีดเงินเพียง 470,000 ล้านยูโร ส่วนในการอัดฉีดเงินเข้าระบบครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วนั้น ทางธนาคารจัดสรรเงินไปทั้งสิ้น 489,000 ล้านยูโร - อิหร่านเตรียมรับชำระค่าน้ำมันด้วยทองคำแทนเงินดอลลาร์ หลังจากที่ผู้ซื้อชำระเงินดอลลาร์ให้อิหร่านได้ลำบากเพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนที่ผ่านมา - Prelim GDP ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 2.8% ตัวเลขจริงออกดีขึ้นมาอยู่ที่ 3.0% - Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 60.2 จุด ตัวเลขจริงออกดีขึ้นมาอยู่ที่ 64.0จุด - Crude Oil Inventory ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 1.6 ล้านบาร์เรล ตัวเลขจริงออกดีขึ้นมาอยู่ที่ 4.2 ล้านบาร์เรล ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 351,000 ราย ตัวเลขคาดการณ์คาดว่าจะออกมาดีขึ้นมาอยู่ที่ 350,000 ราย ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงหลังจากการปราศรัยของเบอร์นันเกถึงภาวะเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้ทองคำเปิดที่ระดับ 1,780 เหรียญ และขึ้นไปทดสอบราคาด้านบนที่ระดับ 1,790 เหรียญ ราคาทองคำยังแกว่งตัวในเชิงทิศทางบวกในขาขึ้นตลอดช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชีย และค่อยๆ ปรับตัวลดลงในตลาดลอนดอนกลางตลาด โดยการลดลงอย่างรวดเร็วจากแรงเทขาย stop selling จากการตรวจสอบข่าวทางนิวยอร์คพบว่า การที่ทองคำและโลหะมีค่าอื่นๆ ตกอย่างรวดเร็ว เป็นจากข่าวของทางเฟดโดยสองสาเหตุหลักจากคำปราศรัยของเบอรนันเก ได้แก่ 1) ภาวะเศรษฐกิจเติบโตในเกณฑ์ค่อนข้างดี และ 2) ยังไม่มีแนวโน้มในการทำ QE ใดๆ และไม่มีการจะเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่ม ด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้เกิดการเทขายอย่างหนักหน่วงจากกลุ่ม CME Group พบว่ามีแรงเทขาย 3 ล้านออนซ์ในเวลาเดียวกัน และเกิดแรงเทขายตามในลักษณะ stop selling หลังจากที่หลุดระดับ 1,750 เหรียญลงมา ฉะนั้นเมื่อวาน SPDR ยังซื้อทองคำเข้า 9.07 ตัน โดยถือครองทองคำที่ระดับ 1,293.67 ตัน โดยที่ข่าวการที่อีซีบีอัดฉีดเงินเข้ามา 529.5 พันล้านยูโรเป็นข่าวที่ตลาดรับรู้แล้วและเกิดการ sell on fact ฉะนั้นตลาดจึงเริ่มผิดหวังจากการที่ไม่มี QE วิเคราะห์ทางเทคนิคได้ว่า เกิด panic selling อย่างรุนแรงในรอบปี ราคาตกร่วงในขณะเดียวกันกว่า 90 เหรียญ โดยที่ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,711.3 เหรียญ และหลังจากตลาดปิดในตลาดอิเล็กทรอนิกส์มี stop selling ต่อเนื่อง ทำให้ราคาหลุดมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดที่ระดับ 1,688.40 เหรียญ และในเช้านี้ตลาดเริ่มเปิดตลาดประมาณ 1,700 เหรียญและมี Technical Rebound ขึ้นมา และมีแรงซื้อเข้าโดยตลอด ณ ขณะนี้ทองคำอยู่ที่ระดับ 1,717 เหรียญ ในเชิงเทคนิคกราฟในระยะสั้นทุกตัวเป็นแนวโน้มขาลง โดยราคาทะลุแนวรับทุกแนวลงไปทั้ง Moving Average และ Oscillator สำหรับ Technical Graph Weekly Chart พบว่าราคาเริ่มลงมาทดสอบแนวรับแรกที่ระดับ 1,707 เหรียญ และมีแนวรับที่สองของ Weekly Chart ที่ระดับ 1,695 เหรียญ ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่าเกิด panic selling และเป็นการ stop selling ตามอย่างหนักหน่วง ทำให้ทิศทางแนวโน้มของทองคำและ Silver เองเริ่มเข้าสู่แนวโน้มขาลง แนะนำนักลงทุนใน Gold Futures คงต้องใช้การบริหาร portfolio ให้ดีตามที่ MTS Gold ได้พยายามย้ำเน้นมาโดยตลอด ท่านที่ยังมีพอร์ทเหลือหาจังหวะในการเข้าซื้อเฉลี่ย และขายบริเวณ 1,730 เหรียญ เพื่อทำกำไรในระยะสั้น สำหรับนักลงทุนที่เข้าข่าย Call Margin ขอให้พยายามหาจังหวะในการลดสถานะลงในระหว่างที่มี Technical Rebound หรือถ้ายังสามารถเติม Margin ได้ให้เติมไปก่อนเพื่อถือรอบริหารพอร์ทและทำกำไรในระยะสั้น MTS Gold มองว่าการตกในครั้งนี้เป็น panic selling ดูแล้วไม่ได้มีข่าวร้ายรุนแรงใดๆ ส่วนหนึ่งจากการเช็คข่าวเป็นช่วง month end ช่วงสิ้นเดือน และเกิดการเทขายใน Gold ETF เป็นต้นมา จึงแนะนำว่าพยายามที่จะบริหารพอร์ทให้ดีที่สุดในสภาวะที่เป็น panic selling ในขณะนี้ Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,150 บาท Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,150 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,400 บาท Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,070 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,120 บาท รายวัน ช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดีในการเข้าช้อนซื้อและทำกำไรในระยะสั้น เข้าช้อนซื้อและขายบริเวณ 1730 เหรียญ รายสัปดาห์ ให้ซื้อพอร์ทเพิ่มเป็น 60% หลังจากที่บริหารพอร์ทเหลือเพียง 30% หาจังหวะเข้าช้อนซื้อ ระยะยาว เพิ่มพอร์ทการซื้อเป็น 80% เป็นจังหวะที่เข้าช้อนซื้อได้อย่างเต็มที่เนื่องจากราคาได้ร่วงลงมาสู่แนวรับสำคัญของนักลงทุนระยะยาวแล้ว สรุปได้ว่า การตกครั้งนี้เป็น panic selling ซึ่งดูเป็นปฏิกิริยามากเกินจริง ขอให้นักลงทุนใช้สติบริหารพอร์ทให้ดี และบริหารจุดขาดทุนคือ stop loss ของท่านให้ดี ลดสถานะลงถ้ามีความจำเป็นเพราะว่าแนวคิดของนักลงทุนที่เข้าข่าย call margin ต้องแตกต่างจากระยะยาว ฉะนั้นการบริหารเงินลงทุนตอนนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ