กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
“เพลงลูกทุ่งมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะลูกเอื้อนที่ไม่เหมือนเพลงแนวใด เนื้อหาในบทเรียนสามารถสื่ออารมณ์ได้ดี” เสียงหวานๆ ของ “น้องเติ้ล” นางสาวศุภยา แก้วปิยะทรัพย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ภาควิชานาฎดุริยางคศิลป์ สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาวเสียงดีจากรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ดีกรีรางวัลชนะเลิศเวทีแจ้งเกิด นิสิต นักศึกษา season 2 จากรายมาสเตอร์คีย์ ที่ฝ่าฟันผู้เข้าแข่งขันกว่า 1,000 คน คว้าเงินรางวัล 100,000 บาทมาเป็นทุนการศึกษา
“เติ้ล” เล่าว่า เริ่มประกวดร้องเพลงครั้งแรกตอนชั้นประถมศึกษาที่ 5 ตอนนั้นต้องขึ้นไปร้องนำวงของโรงเรียน ซึ่งตอนนั้นนักร้องประจำวงไม่มาด้วยบทเพลง “คุณลำไย” ถึงได้รางวัลรองชนะอันดับที่ 2 มาครอง อยู่กับเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่จะสอนให้ฟังเพลงลูกทุ่ง ปลูกฝังให้รักในความเป็นลูกทุ่ง ซึ่งตอนนั้นเริ่มชอบเพลงลูกทุ่ง ศิลปินในดวงใจได้แก่ คุณแม่พุ่มพวง บวกกับจะเป็นแดนเซอร์ของโรงเรียน จึงฟังเพลงลูกทุ่งจนติดหู ระหว่างที่เรียนที่ ร.ร.นครนายกพิทยาคม ได้ทำกิจกรรมระหว่างที่เรียนทั้งรำและร้อง จึงใช้ความสามารถสมัครเข้าเรียนที่ ภาควิชานาฏดุริยางคศิลป์ สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี
ปัจจุบันเป็นนักร้องประจำวง “บอลลูน” ของ มทร.ธัญบุรี และ ร้องเพลงในวง “ศรีนคร” วงสุนทราภรณ์ ของอาจารย์ที่ ร.ร.นครนายกพิทยาคม โดยรูปแบบของการร้องเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง และสุนทราภรณ์แตกต่างกันมาก ต้องฝึกฝน ฟังมากๆ โชคดีที่ได้มีโอกาสฝึกร้องเพลงสุนทราภรณ์มากับคุณครู ต้องจับจังหวะการร้องให้ถูกต้อง สำเนียงในการออกเสียง ส่วนเพลงลูกทุ่งก็ต้องฝึก ฟังเยอะๆ เทคนิคของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งตนเองอาศัยการฟังมากๆ ออกกำลังกายให้ปอดใหญ่ รักษาเสียง ไม่กินเผ็ด ไม่ดื่มน้ำเย็น ดื่มน้ำอุณหภูมิต่ำ
โดยส่วนตัวจะไม่ได้เดินสายประกวดด้วยตนเอง จะประกวดตามเวทีที่อาจารย์แนะนำ เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลา เวลาส่วนใหญ่จะเรียนและทำงาน “แต่การประกวดเหมือนเป็นการตามความฝันของแต่ละคน ที่อยากได้ประสบการณ์และประสบความสำเร็จในการดำรงชีวิต” ตนเองเป็นอีกคนที่อยากออกเทป มีเพลงของตนเอง เป็นความฝันของนักร้องเกือบทุกคน เวทีและรางวัลที่เคยได้รับ ถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ชมรมข้าราชการชำนาญ จ.นครนายก แชมป์เสียงดีมีค่าเทอม รายการชิงช้าสวรรค์ และล่าสุดกับรางวัล ชนะเลิศเวทีแจ้งเกิด นิสิต นักศึกษา season 2 จากรายมาสเตอร์คีย์
3.5 คือเกรดเฉลี่ย ตนเองต้องเหนื่อยกว่าเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกัน เพราะว่า ต้องทำงานและเรียนไปด้วย หลังจากเลิกเรียนต้องทำงานที่อาจารย์สั่งให้เสร็จ เพราะงานที่รับส่วนใหญ่จะเป็นเวลากลางคืน ค่าตอบแทนจะได้รับคืนละ 500 - 1,000 บาท เก็บเงินที่ได้เป็นค่าอุปกรณ์การเรียน ส่วนเงินประกวดที่ได้รับจากเวทีต่างๆ จะให้แม่เก็บไว้เป็นทุนการศึกษา หลังจากสำเร็จการศึกษา อยากเป็นครู เนื่องจากครูสอนเด็กทางด้านนาฏศิลป์ไทยยังขาดแคลน ทางบ้านอยากให้รับราชการ เป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่อยากจะตอบแทนบุญคุณของพวกท่าน คุณแม่รับจ้างขายอาหารอยู่ที่ ร.ร.นครนายกพิทยาคม คุณพ่อเป็นพนักงานบริษัท SVOA อยากให้พวกท่านสบาย
“อนาคต คือ ความฝัน ควรทำปัจจุบันให้ดีที่สุด” อนาคตมันคือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ฉะนั้นปัจจุบันสำคัญที่สุด ควรตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพราะว่า คือเส้นทางที่นำไปสู่จุดหมายและความสำเร็จในชีวิต สิ่งสำคัญตอนนี้สำหรับวัยรุ่นอย่างพวกเรา คือ การเรียน ไม่ว่าจะทำอะไรให้นึกถึงพ่อแม่ คนที่รักเรามากที่สุด มุ่งมั่นและตั้งใจ สำหรับคนที่มี “ความฝัน” กล้าที่จะคิดและกล้าที่จะทำ ตามหาความฝัน เหมือนกับตนเองที่ รักในบทเพลงลูกทุ่งและสุนทราภรณ์ จนในที่สุดความสำเร็จก็เกิดขึ้น ดีใจมากที่ได้รับรางวัลจากรายการมาสเตอร์คีย์ เพราะว่า กว่าจะผ่านมาแต่ละรอบ จนคัดเลือกเหลือ 1 ใน 10 มาแข่งรอบสัปดาห์ ต้องขอบคุณคณะกรรมการ อาจารย์ เพื่อนๆ และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ ที่ปลูกฝัง “บทเพลงลูกทุ่ง” ให้กับตนเอง เติ้ลกล่าวทิ้งท้าย