กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--บีโอไอ
กระทรวงอุตสาหกรรม โดยบีโอไอเปิดตัวแคมเปญฟื้นฟูภาพลักษณ์ประเทศไทย ประจำปี 2555 “Unbeatable Thailand, Unparalleled Opportunities” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุนและท่องเที่ยว โดยชู “จิตวิญญาณความเป็นนักสู้” ของคนไทย สะท้อนศักยภาพที่เข้มแข็งของประเทศ พร้อมเปิดตัวแคมเปญใหม่ในต่างประเทศครั้งแรกที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคณะ และเตรียมเดินสาย สร้างความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องไปยังประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลีใต้ และจีน
ม.ร.ว. พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังงานเปิดตัว แคมเปญเสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทย “Unbeatable Thailand, Unparalleled Opportunities” ประจำปี พ.ศ. 2555 ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ กระทรวงอุตสาหกรรม ว่า หลังจากที่ภาคอุตสาหกรรมประสบเหตุอุทกภัยในช่วงปลายปีที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการช่วยเหลือเยียวยานักลงทุนที่ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม การป้องกันนิคมอุตสาหกรรมสำคัญๆ ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งช่วยให้การผลิตของหลายบริษัทเริ่มกลับเข้าสู่ภาวสะปกติ รวมไปถึงการอนุมัติมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูสถานประกอบการที่ได้รับความเสียหาย แต่แผนงานหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ก็คือ การสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุน และการเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยไปพร้อมๆ กัน
กระทรวงอุตสาหกรรม โดยบีโอไอ จึงดำเนินโครงการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว ซึ่งในครั้งนี้ มีความแตกต่างจากการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่ผ่านมาทุกครั้ง เนื่องด้วยเราได้นำสิ่งที่อยู่ในสายเลือดของคนไทยทุกคนมาเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างภาพลักษณ์และสร้างความเชื่อมั่นในครั้งนี้
จิตวิญญาณความเป็นนักสู้ของคนไทยแล่นอยู่ในทุกอณูของสายเลือดคนไทย กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ จึงได้นำจุดเด่นนี้ มาเป็นกลยุทธ์ใหม่ในการฟื้นฟูและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในภาพลักษณ์ของประเทศ ในปี 2555 ด้วยแคมเปญ “Unbeatable Thailand, Unparalleled Opportunities”
ซึ่งคำว่า Unbeatable Thailand ภายใต้แคมเปญนี้ สะท้อนถึง“จิตวิญญาณความเป็นนักสู้ (Fighting Spirit) ของคนไทยและประเทศไทย” ซึ่งไม่ว่าจะเผชิญอุปสรรคทั้งจากความขัดแย้งทางการเมืองและภัยธรรมชาติ ก็ยังสามารถพลิกเกมและฟื้นตัวกลับขึ้นมาใหม่ได้ทุกครั้ง เปรียบได้กับศิลปะมวยไทย ที่นักมวยจะต้องฝึกฝนอย่างอดทน เพื่อเรียนรู้กลยุทธ์ในการต่อสู้มีทั้งเกมรับและเกมรุก
ขณะที่ ในแง่ของการลงทุน ประเทศไทยมีจุดแข็งในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งอันเป็นยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงสร้างพื้นฐานที่ดี รากฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง การสนับสนุนการลงทุนแบบครบวงจร และสิทธิประโยชน์ภาครัฐ การมีรากฐานของภาคอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมสนับสนุนมาอย่างยาวนาน รวมทั้งความหลากหลายทางเศรษฐกิจและทรัพยากร วัฒนธรรม และความเป็นมิตรของคนไทย สิ่งเหล่านี้ผสมผสานกันทำให้ประเทศไทยเป็นแหล่งรองรับการลงทุนที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร
สำหรับคำว่า Unparalleled Opportunities ในแคมเปญนี้ หมายถึง โอกาสดีๆ มากมายของประเทศในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการลงทุนในอุตสาหกรรมและบริการที่หลากหลาย โอกาสในการเป็นแหล่งผลิตเพื่อขยายสู่ตลาดของประชาคมอาเซียน รวมทั้งโอกาสอีกมากมายที่เกิดจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มที่ดี
ด้านนางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวว่า แคมเปญ “Unbeatable Thailand, Unparalleled Opportunities” จะเปิดตัวในต่างประเทศเป็นครั้งแรก ในโอกาสการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนำโดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 6 — 10 มีนาคมนี้
โดยบีโอไอ จะจัดสัมมนาใหญ่กับนักลงทุนญี่ปุ่นในวันที่ 7 มีนาคม 2555 ที่โตเกียว ซึ่งขณะนี้ มีนักธุรกิจ นักลงทุนญี่ปุ่นตอบรับเข้าร่วมงานมากกว่า 1,200 คน และวันที่ 8 มีนาคม 2555 ที่เมืองนาโกยา ก็มีนักธุรกิจนักลงทุนตอบรับเข้าร่วมเกือบ 400 คน สะท้อนให้เห็นถึงการตอบรับและความสนใจของนักธุรกิจนักลงทุนญี่ปุ่นที่มีต่อประเทศไทยอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ งานสัมมนาใหญ่ที่จะจัดขึ้นที่โตเกียว และนาโกยา นอกจากจะเป็นเวทีให้ชี้แจงมาตรการการรองรับการลงทุนของไทย อาทิ มาตรการฟื้นฟูธุรกิจและสิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยแล้ว ยังจะเป็นเวทีในการชี้แจงแผนการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของรัฐบาลให้ นักลงทุนญี่ปุ่นได้รับทราบ รวมถึงแผนยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและการลงทุนจากกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่น ว่าไทยยังพร้อมที่จะเป็นแหล่งรองรับการลงทุนจากญี่ปุ่นได้อย่างดี
สำหรับในช่วงค่ำของวันที่ 8 มีนาคม จะมีการจัดงาน ไทยไนท์ (Thai Night) เพื่อแสดงความขอบคุณที่นักธุรกิจและนักลงทุนญี่ปุ่นได้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนที่สำคัญตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา และไทยยังคงเป็นฐานการผลิตที่มีบทบาทต่อไปในอนาคตดังจะเห็นได้จากผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย ในไตรมาส 1 ปี 2555 โดยเจโทร ซึ่งระบุว่า ความเชื่อมั่นของ นักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยสูงขึ้น และส่วนใหญ่ยังยืนยันที่จะลงทุนในประเทศไทยต่อไป รวมทั้งงาน Thai Night นี้จะเป็นเวทีที่จะแสดงถึงศิลปวัฒนธรรมของไทย โดยได้รับความร่วมมือจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อีกทั้งยังจะมีการแสดงศิลปะการต่อสู้ของไทยโดยบัวขาว ป.ประมุข เพื่อสื่อความหมายของคำว่า “Unbeatable Thailand, Unparalleled Opportunities”
นอกจากนี้ ในวันศุกร์ที่ 9 มีนาคม จะมีการพบปะเจรจารายบริษัท กับบริษัทชั้นนำในกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนของญี่ปุ่น รวม 9 บริษัท ได้แก่ บริษัท Toshiba Corporation บริษัท Honda Motor บริษัท Toyota Motors บริษัท Nissan Motors บริษัท Mitsubishi Motors บริษัท Isuzu Motors บริษัท Suzuki Motor บริษัท Bridgestone และบริษัท Marubeni
ซึ่งจะหารือด้านความคืบหน้าของการฟื้นตัวภาคอุตสาหกรรมไทย และแผนการลงทุน ทั้งนี้ นอกจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรม ยังมีแผนการเดินทางไปสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนในกลุ่มประเทศเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง อาทิ เกาหลีใต้ จีน เป็นต้น