กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมรับมือและร่วมลดผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง วางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จัดหาทำความสะอาด ซ่อมแซมภาชนะกักเก็บน้ำ สำหรับรองน้ำไว้ใช้ในยามขาดแคลน เกษตรกรควรติดตามสถานการณ์น้ำและการจัดสรรน้ำในพื้นที่ วางแผนการใช้น้ำและการเพาะปลูกพืชให้สอดคล้องและเหมาะสม ส่วนภาคอุตสาหกรรม เตรียมสำรองน้ำไว้ใช้กรณีขาดแคลนน้ำ วางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ระยะนี้หลายพื้นที่ของประเทศเริ่มประสบสถานการณ์ภัยแล้ง เพื่อลดกระทบจากการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และเพื่อการเกษตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้ง โดยวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้ ประชาชน ควรจัดหา ทำความสะอาด ซ่อมแซม ภาชนะกักเก็บน้ำให้สามารถใช้งานได้ดี สำรองน้ำไว้ใช้ยามขาดแคลน และใช้น้ำอย่างประหยัด ไม่เปิดน้ำไหลทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ ให้รองน้ำใส่ภาชนะแทนการล้างด้วยการปล่อยน้ำจากก็อกน้ำหรือสายยาง ปิดก๊อกน้ำให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน นำน้ำที่เหลือจากการใช้งานไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ รวมทั้งปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ทำให้สิ้นเปลืองน้ำ พร้อมทั้งหมั่นตรวจสอบท่อส่งน้ำ ก๊อกน้ำ หากพบจุดรั่วไหลหรือรอยรั่วซึมของน้ำให้ดำเนินการแก้ไขทันที เกษตรกร ตรวจสอบรูรั่ว รอยแตกของคันกั้นน้ำในพื้นที่การเกษตร หากพบให้เร่งซ่อมแซม โดยนำกระสอบทรายมาวางเสริมปิดรอยรั่ว เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้น ติดตามสถานการณ์น้ำและการจัดสรรน้ำในพื้นที่ เพื่อวางแผนการใช้น้ำและการเพาะปลูกพืชได้สอดคล้องและเหมาะสม ขุดลอกบ่อน้ำในพื้นที่การเกษตร เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ ปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย เช่น ถั่วลิสง ข้าวโพด มันสำปะหลัง เป็นต้น งดการทำนาปรังนอกเขตพื้นที่ที่กำหนด เพื่อป้องกันนาข้าวเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ ภาคอุตสาหกรรม ติดตามสถานการณ์และมาตรการจัดสรรน้ำในพื้นที่ พร้อมประเมินสถานการณ์น้ำ เตรียมสำรองน้ำไว้ใช้กรณีขาดแคลนน้ำ วางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ ดูแลระบบท่อส่งน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน หากชำรุดให้รีบซ่อมแซมทันที รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดน้ำในระบบท่อส่งน้ำ เพื่อลดอัตราการสูญเสียน้ำ สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้น โดยวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และใช้น้ำอย่างประหยัด จะช่วยลดผลกระทบและป้องกันแก้ไขมิให้สถานการณ์ภัยแล้งขยายวงกว้าง ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 — 18 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200
www.disaster.go.th