กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
มท.1 เน้นย้ำผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งแก้ไขวิกฤตหมอกควันไฟป่า บูรณาการความร่วมมือ ประสานแผน และเชื่อมโยงการปฏิบัติการ พร้อมคุมเข้มการเผาวัสดุทุกชนิด ส่วนจังหวัดที่ประสบภัยแล้งให้เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบ ภัยแล้ง มุ่งเน้นการดำเนินการตามมาตรการบริหารจัดการน้ำ และการจัดสรรน้ำให้ทั่วถึง
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ในวันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม 2555 ซึ่งได้เน้นย้ำให้จังหวัดที่ประสบวิกฤตหมอกควันเร่งแก้ไขและบรรเทาปัญหาหมอกควัน-ไฟป่า โดยบูรณาการความร่วมมือ ประสานแผน และเชื่อมโยงการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในระดับพื้นที่ คุมเข้มการเผาวัสดุทุกชนิดในพื้นที่โล่ง ลดการเผาป่าและวัชพืช พร้อมประสานสำนักฝนหลวงและการบินเกษตรจัดทำฝนหลวง รวมทั้งจัดรถบรรทุกน้ำออกฉีดพ่นน้ำสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ เพื่อลดปริมาณหมอกควันและฝุ่นละอองที่จะทำให้วิกฤตหมอกควันรุนแรงมากขึ้น
นายยงยุทธ กล่าวต่อไปถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่า ขณะนี้หลายจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำเป็นจำนวนมาก จึงได้กำชับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานจังหวัดเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยให้จังหวัดนำเงินทดรองราชการในอำนาจอนุมัติผู้ว่าราชการจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) มาใช้จ่ายในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยแล้ง รวมถึงกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหา ที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการน้ำ และการจัดสรรน้ำให้ทั่วถึง เพียงพอต่อการใช้งาน สอดคล้องต่อความต้องการ และปริมาณน้ำต้นทุนในพื้นที่ ควบคู่กับการใช้กลไกความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาคม ชุมชน และหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนจังหวัดที่เป็นประสบ ภัยแล้งซ้ำซากและมีแนวโน้มเกิดสถานการณ์ ขอให้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดมกำลังขุดลอกคูคลองให้แล้วเสร็จก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูแล้ง เพื่อให้มีพื้นที่ในการกักเก็บน้ำเพิ่มมากขึ้น และบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยแล้ง