กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--กันตนา กรุ๊ป
"เซอร์ไวเวอร์" พาแฟนพันธุ์แท้ ท่องเที่ยวดินแดนซาฟารี "เคนยา" สัมผัสมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ การผจญภัย เรียนรู้ชีวิตสัตว์ป่า และชนเผ่าพื้นเมืองมาซาย
หลังจากการคัดเลือกแฟนพันธุ์แท้ของรายการ เซอร์ไวเวอร์ ชุด แอฟริกา รายการเกมโชว์ชื่อดังของซีบีเอสสหรัฐอเมริกา จนได้ผู้โชคดี 10 ท่านไปในช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันซอลท์ ผู้สนับสนุนหลักรายการ "เซอร์ไวเวอร์" และค่ายบันเทิงยักษ์ กันตนา ผู้ดูแลการนำเสนอรายการ "เซอร์ไวเวอร์" ในประเทศไทย ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี พร้อมทีมงานก็ได้โอกาสเหมาะช่วงปิดภาคเรียนพาผู้โชคดีที่ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษา เหินฟ้าไปสัมผัสกับประสบการณ์ท่องซาฟารีในประเทศเคนยา ดินแดนแห่งธรรมชาติ และสัตว์ป่ากันอย่างเต็มอิ่ม เป็นเวลา 5 คืน 6 วัน ในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เคนยา (KENYA) ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ รวมลักษณะเฉพาะของเขตสงวน พันธุ์สัตว์ป่า ชายหาดที่สวยงามทัศนียภาพอันน่าหวาดเสียว อากาศสบาย และที่พักที่งดงาม ทุกอย่างรวมกันโดยผู้คนที่มีอัธยาศัยและมีความสุข ไม่มีที่ใดในพื้นโลกนี้อีกแล้ว ที่จะเสนอความหลากหลาย และสิ่ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เหมือนสถานที่แห่งนี้
ในเคนยามีชาวเขามากกว่า 40 เผ่า เป็นตัวแทนส่วนผสมของวัฒนธรรมที่ไม่ต้องเทียบกับประเทศอื่น การเปลี่ยนแปลงมากมายอย่างขัดแย้งนี้ได้หล่อหลอมชนในชาติให้มีแบบอย่างความฮึกเหิม และ เป้าหมายเป็นของตนเอง
ผู้โชคดีทั้ง 10 ท่าน พร้อมคณะออกเดินทางจากประเทศไทยด้วยสายการบินเคนยาแอร์เวย์ ถึง กรุงไนโรบี เมืองหลวงของประเทศเคนยา ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 23 มีนาคม จากนั้น ก็เริ่มเดินทางสู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเคนยา โดยมีจุดหมายอยู่ที่ป่าสงวน Masai Mara National Reserve ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของประเทศเคนยา และประเทศแทนซาเนีย ป่าสงวนแห่งนี้มีอาณาบริเวณถึง 1,700 กิโลเมตร เป็นป่าแบบทุ่งหญ้าซาวันนาที่มีลักษณะเป็นป่าโปร่งไม่มีต้นไม้หนาทึบ และเป็นที่โล่งกว้างสามารถมองเห็นได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ทำให้เราสามารถเห็นสัตว์ป่าได้จากระยะไกล
ระหว่างทางผู้โชคดีทั้ง 10 คนก็ต้องตื่นเต้นกับสัตว์ป่ามากมาย เช่น กวาง ควายป่า ม้าลาย ยีราฟ และนกนานาชนิด สัตว์ป่าเหล่านี้มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างธรรมชาติ โดยไม่ต้องระแวดระวังภยันตรายจากมนุษย์ เพราะป่าแห่งนี้ คือ ถิ่นที่อยู่ของมันที่มันสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเสรี ดื่มด่ำไปกับความสวยงามยามอาทิตย์อัสดงเหนือทุ่งหญ้าซาวันนา
คณะของเรามีโอกาสสัมผัสกับธรรมชาติที่แปลกตาและหมู่สัตว์ป่านานาชนิดอย่างใกล้ชิด ได้พบหมู่สิงโตนั่งเคล้าเคลียกัน พบเห็นการไล่ล่าหาอาหารของสัตว์ใหญ่ เช่น เสือซีต้า ซึ่งเป็นสัตว์ที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลกประมาณ 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือฝูงไฮยีน่า ที่คอยจังหวะให้เหยื่อเผลอ
นอกจากนั้นยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาว "มาซาย" (ชนเผ่าหนึ่งของเคนยา มีศักดิ์ศรีเป็นนักรบ และเป็นชนเผ่าที่มีพื้นที่ครอบครองมากที่สุดในเคนยา) อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
ชาวมาซายได้เปิดโอกาสให้ผู้โชคดีทั้ง 10 ท่าน ได้เข้าไปในหมู่บ้านของพวกเขา (Masai Village) ชาวมาซายทั้งหญิงและชายจะมีความสูงเกิน 6 ฟุต นิยมใช้ผ้าสีแดงนุ่งห่มร่างกายแทนเสื้อผ้า สวมเครื่องประดับที่ทำจากลูกปัด สีสันสดใสทั้งสร้อยคอ สร้อยข้อมือ สร้อยข้อเท้า ปลอกคอ และต่างหู บางคนมีรูที่ใบหูขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางเกือบ 3 นิ้ว เนื่องจากใส่ตุ้มหูขนาดและหนัก ถ่วงจนรูหูกว้าง
บ้านของพวกเขาจะเป็นลักษณะของบ้านดิน ทำจากขี้วัว อาหารหลักของพวกเขาคือ นม หรือ โยเกิร์ตผสมเลือดวัวสดๆ และเนื้อสัตว์ อาชีพหลักคือการเลี้ยงวัว ปัจจุบันยังทำเครื่องประดับขาย นักท่องเที่ยวอีกด้วยวันต่อมา ผู้โชคดีทั้งสิบคนได้เดินทางต่อไปยัง Lake Nakuru National Park ซึ่งเป็นวนอุทยานอีกแห่งหนึ่งของเคนยาที่เต็มไปด้วยนกกว่าร้อยชีวิต และสัตว์ป่าอื่นๆ อีกมากมาย สดชื่นไปกับบรรยากาศยามเช้าและเสียงนกนานาชนิดที่ออกหากิน ที่นี่ผู้โชคดีทั้งสิบคน ได้มีโอกาสเห็นชีวิตสัตว์ป่าในยามเช้า ที่บ้างก็กำลังออกหากิน บ้างก็กำลังกลับจากการหากิน บ้างก็กำลังเอร็ดอร่อยไปกับเหยื่อที่ได้จากการล่าในช่วงดึก อาทิ ยีราฟ แรด ควายป่า กวาง ม้าลาย รวมทั้งนกอีกนานาชนิด ที่มหัศจรรย์ที่สุด ก็คือ ฝูงนกฟลามิงโก ในทะเลสาบนากูรู ซึ่งทำให้ทะเลสาบทั้งทะเลสาบกลายเป็นสีชมพูสดใส เนื่องจากฝูงนกฟลามิงโกกว่า 2 ล้านตัว กำลังหากินอยู่ที่ริมทะเลสาบ นอกจากนั้นยังมีนกพิลิแกนอีกฝูงใหญ่ที่หากินอยู่ใกล้กัน สร้างความมหัศจรรย์ให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะอำลาจากนากูรู จากทะเลสาบนากูรู ผู้โชคดีทั้ง 10 ท่าน ก็มุ่งสู่ อุทยานแห่งชาติ Aberdare ผ่านเมือง Nyahururu ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตร ที่นี่ทุกคนได้ชมความมหัศจรรย์โดยการสาธิตของชาวพื้นเมือง ด้วยการเทน้ำลงในภาชนะ และยืนเปรียบเทียบในจุดเหนือ ใต้ และที่เส้นศูนย์สูตรให้ดูปรากฏว่า เมื่อยืนอยู่ในพื้นที่เหนือเส้นศูนย์สูตร และถือขันน้ำไว้ ไม้ก้านเล็กๆ ที่ลอยน้ำอยู่จะหมุนไปตามเข็มนาฬิกา แต่ถ้าเปลี่ยนไปยืนใต้เส้นศูนย์สูตร ไม้ก้านนี้ก็จะหมุนทวนเข็มนาฬิกา แต่ถ้ายืนที่เส้นศูนย์สูตรพอดี ไม้ก้านนี้ก็จะหยุดนิ่ง จากเส้นศูนย์สูตร ทุกคนมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติ Aberdare โดยมุ่งหน้าสู่ตอนกลางของประเทศอันเป็นเขตเทือกเขาสูงที่สลับซับซ้อน โดยใช้เส้นทางหลักผ่านหมู่บ้านละบริเวณป่าเขาที่น่าสนใจ ผ่านเมือง Nyahururu ที่ตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตร และเป็นเมืองที่ชาวผิวขาวเริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานในยุคเริ่มต้นของประเทศเคนยาวนอุทยานแห่งชาติ Aberdare แห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการผจญภัยในป่าใหญ่ที่ไม่เหมือนที่ใดในโลกคณะของเรามีจุดหมายอยู่ที่ Treetops บ้านยอดไม้ ซึ่งเป็นที่พักสำหรับเฝ้าดูสัตว์ ที่นี่ทุกคนได้สัมผัสกับประสบการณ์การเฝ้าดูสัตว์ที่ไม่เหมือนกับที่ใดๆ ในโลกอีกเช่นกัน เนื่องจากบริเวณพื้นที่โดยรอบของ Treetops จะเป็นโป่ง (แหล่งอาหารของสัตว์) ทำให้ผู้ที่มาพักที่นี่ได้พบเห็นสัตว์มากมายที่ต้องลงมากินเกลือและแร่ธาตุต่างๆ ที่โป่ง ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน และในครั้งนี้…ผู้โชคดีทั้งสิบท่านของเรา ก็ได้มีโอกาสเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของสัตว์นานาชนิดที่มารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ อย่างใกล้ชิด บรรดาสัตว์เล็ก และสัตว์ใหญ่ต่างก็แสดงทีท่าที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็อวดความยิ่งใหญ่ บ้างก็ทำท่าสงบเสงี่ยม บ้างก็เกเร และดุร้าย ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้คณะของ เซอร์ไวเวอร์จากประเทศไทยต้องจดจำไปนานแสนนาน อมตะ ทิสาคร หรือหนุ่มหาญ กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต เผยความ รู้สึกด้วยใบหน้าตื่นเต้นว่า "สถานที่ที่ประทับใจผมมากที่สุดคือ ที่ทะเลสาบนากูรู เพราะที่นั่นอากาศดี และตอนที่ไปนั้นเป็นช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้ตก เป็นภาพที่สวยงามมากครับ เมื่อได้มาเห็น ได้สัมผัสด้วย ตัวเอง แล้วรู้สึกทึ่งมากเลยครับ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เราหาไม่ได้จากที่ไหน และเป็นภาพความประทับใจในการเดินทางครั้งนี้เลยครับ ที่ทึ่งอีกอย่างคือความเป็นธรรมชาติของสัตว์ และระบบนิเวศ ที่มีความ สอดคล้องและลงตัว ไม่ได้อยู่แค่กรอบสี่เหลี่ยม หรือไม่ได้อยู่แค่ในกรง เหมือนมันอยู่ในบ้านของมัน เราเข้าไปจับต้องได้ และมันรู้สึกว่าเราเป็นมิตรกับมัน สำหรับป่าในมาไซมารา เราได้เจอสัตว์ต่างๆ เสือ สิง กระทิง แรด ช้าง แม้ว่าเราจะเห็นได้ที่สวนสัตว์ แต่ที่ต่างกัน คือ ที่นี่มันมีความสด อยู่ด้วยความเป็นธรรมชาติ มีการล่าเหยื่อ ได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์เหล่านั้น ลูกเดินตามแม่ พ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกัน ซึ่งเป็นสังคมของสัตว์ที่น่ารักอีกอย่างหนึ่งครับ"
เยาวชนคนกล้า จากจังหวัดตาก อรรณนพ หมั่นพลู ได้พูดคุยเกี่ยวกับมุมมองการท่องเที่ยว เคนยาในทริปนี้ว่า "แต่ละที่ที่ผมได้ไปมา มีความหลากหลาย มีความประทับใจที่ต่างกัน อย่างที่มาไซมารา มีเสือดาว สิงโต กระทิง แรด ช้าง ซึ่งแม้ว่าสัตว์เหล่านี้จะมีในสวนสัตว์ แต่เมื่อได้มาเห็นที่นี่แล้ว มันต่างกัน ประทับใจครับ ส่วนที่ทะเลสาบนากูรู ได้พบกับนกฟลามิงโก ที่หาดูได้ยากในแถบเอเชีย และการได้ดูนกครั้งนี้ เป็นการดูนกถึง 2 ล้านตัว เป็นวิวที่สวยมาก มองไปรอบๆ เห็นสีชมพู คิดว่าภาพแบบนี้ จดจำได้ตลอดชีวิตครับ สำหรับที่ทรีท็อป มีธรรมชาติที่เป็นธรรมชาติจริงๆ คือ ประเทศเคนยา เป็นประเทศที่สุดยอดของธรรมชาติ เราได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่หลากหลาย เป็นประสบการณ์ที่ดี หาซื้อที่ไหนไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่วิบากมากๆ แต่เมื่อถึงจุดหมายแล้วคุ้มค่ามากครับ"
หนุ่มน้อยของทริปนี้ น้องตูน-ธีระพล ฤกษ์นิธี นักเรียนชั้น ม.1 ร.ร.สามเสนวิทยาลัย กล่าวว่า "การเดินทางในครั้งนี้อย่างแรกที่ประทับใจ คือ คนทุกคนที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ ทั้งผู้โชคดีด้วยกัน และ ทีมงานทุกคนน่ารักครับ อบอุ่นดี รู้สึกสบายใจครับ อย่างที่สอง คือ สถานที่ ทุกที่ที่ไปเป็นธรรมชาติสุดๆ คิดว่าไม่สามารถหาได้จากที่อื่นมันเป็นซาฟารีที่เปิดจริง ไม่ได้เลี้ยงไว้ สัตว์จะหากินเองตามธรรมชาติ รู้สึกประทับใจมาก สถานที่ที่ผมชอบเป็นพิเศษ ก็เป็นที่นกฟลามิงโกรวมตัวกันอยู่ครับ มองแล้วเป็นภาพที่สวยงามมาก นกเป็นล้านๆ ตัวรวมกันอยู่ มองไปมีแต่สีชมพู และยิ่งได้ยินเสียงร้องแล้วขนลุกเลยครับ รู้สึกทึ่งจริงๆ ในอนาคตถ้ามีโอกาสผมจะมาที่นี่อีกครับ ที่แน่ๆ เมื่อไปถึงเมืองไทยผมจะบอกเล่าเรื่องราวที่ได้สัมผัสให้คุณพ่อ คุณแม่ฟัง และจะนำภาพที่ผมถ่ายไว้ให้ท่านดูด้วยครับ "
ศักดา ลิมป์ประสิทธิพร หรือหนุ่มเอ็กซ์ ชายหนุ่มวัย 22 ปี กล่าวถึงประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตกับการเดินทางครั้งนี้ ว่า "สิ่งที่ประทับใจมากๆ คงจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่ต่างกัน คือว่าพอเราพูดถึงการเดินทางไปต่างประเทศ เราก็จะนึกถึงประเทศที่เจริญแล้ว ประเทศที่เป็นสังคมเมือง แต่ประเทศ เคนยา เป็นประเทศที่มีความน่าสนใจมาก และผมไม่เคยเดินทางมาที่แบบนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกเลย ที่ได้มาซาฟารี ได้เห็นวัฒนธรรมที่ไม่เคยเห็น ประทับใจมากๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเฉพาะวิถีชีวิตของชนเผ่ามาซาย ทำให้เราได้รู้ว่าในขณะที่เราอยู่สุขสบายอยู่ที่บ้าน ไปเรียน หรือไปทำงาน ว่าเป็นสิ่งที่ลำบากมากแล้ว แต่ชีวิตของคนที่นี่ทำให้เราได้เห็นอีกจุดหนึ่ง เขายากจนกว่าเรา ใช้ชีวิตลำบากกว่าเรา ทำให้รู้สึกว่าเรามีชีวิตที่ดีอยู่แล้ว ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากที่แห่งนี้ครับ ประทับใจมากๆ คงไม่ลืมไปตลอดชีวิต"
ทริปท่องเที่ยวเคนยากับรายการ "เซอร์ไวเวอร์" ดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ ทัศนียภาพลมหายใจแห่งเสรีภาพที่กระจายไปทั่วทะเลทราย ภูเขา แม่น้ำ ที่ราบ ป่าไม้ ทุ่งหญ้าที่ราบสูงและชายฝั่ง ได้ฝากความประทับใจให้กับคณะเซอร์ไวเวอร์จากเมืองไทยอย่างยากที่จะลืมเลือน
ที่ตั้ง
เคนยา อยู่ทางทิศตะวันออกของทวีปแอฟริกา
ทิศเหนือ จรดประเทศเอธิโอเปีย
ทิศใต้ จรดประเทศแทนซาเนีย
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จรดประเทศซูดาน
ทิศตะวันออก จรดประเทศโซมาเลีย
ทิศตะวันตก จรดประเทศอูกันดา
เนื้อที่ ประเทศเคนยา มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 582,646 ตารางกิโลเมตร 75% ของพื้นที่เป็นอุทยานแห่งชาติกว่า 40 แห่งและเขตป่าสงวนประชากร ประมาณ 25.2 ล้านคน ประกอบด้วย ชาวเขามากกว่า 40 เผ่า และชนชาติอื่นๆ อีกเช่น ชาวยุโรป 25,000 คน ชาวอินเดีย 80,000 คน และชาวอาหรับ 30,000 คน
เมืองหลวง ไนโรบี มีประชากรอาศัยอยู่ 2 ล้านคน
การปกครอง เคนยา เป็นสาธารณรัฐ และเป็นสมาชิกของเครือจักรภพของอังกฤษ รัฐธรรมนูญ ได้แบบอย่างมาจากอังกฤษ ซึ่งได้ทำขึ้นในช่วงประกาศอิสระภาพ ปี ค.ศ. 1963ซึ่งต่อมามีการปรับปรุงโดยรัฐสภาของเคนยา ใช้ระบบการปกครอง ประกอบด้วยรัฐสภา ประธานาธิบดี และสภาประชาชน โดยที่ประธานาธิบดี เป็นประมุข และเป็นผู้บัญชาการกองทัพ สมาชิกรัฐสภา 158 คน มาจากสมาชิกสภา และอีก 12 คน มาจากสภาประชาชน
ภาษา ภาษาราชการ คือ สวาฮิลี ภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีภาษาท้องถิ่น และที่พูดกันมี 3 ภาษาหลัก คือ
- ภาษาบันตู ในแถบตอนกลางและตะวันตก
- ภาษานิโลติค ในแถบตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือ
- ภาษาดัสฮิติค ในแถบตะวันออกเฉียงเหนือ
ศาสนา คริสเตียนเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ก็นับถือตามความเชื่อของชาวเผ่า และมุสลิมบ้างเล็กน้อย
ลักษณะภูมิอากาศ
โดยเฉลี่ยประมาณ 20-26 องศาเซลเซียส อากาศดีมีแสงแดดตลอดทั้งวัน เนื่องจากอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ยกเว้นในบริเวณ KISUMU ซึ่งจะแห้งแล้งและอากาศจะหนาวเย็น
ลักษณะภูมิประเทศ
เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ พื้นที่ของประเทศจะแตกต่างโดยสิ้นเชิง นับตั้งแต่บริเวณที่มีน้ำแข็งปกคลุม จนถึงบริเวณที่เป็นทะเลทรายร้อนระอุ เทือกเขาแห้งแล้ง จนถึงทุ่งหญ้าซาวันนาอันอุดมสมบูรณ์ ทะเลสาบกว้างใหญ่ หรือป่ารกทึบ ทำให้เกิดความแตกต่างกันทางภูมิอากาศ รูปร่างของประเทศเคนยา คล้านพิณ
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ : รัชฎา บุลนิล (เกด)
โทรศัพท์ 0 2274 4961-2, 0 2691 6302-4--จบ--
-นท-