สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 8, 2012 11:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,704 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,670 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.76 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,700 บาท กับ 24,800 บาท และกลับมาปิดที่ 24,600 บาท กับ 24,700 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,364 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,502 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 71 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2% แบบ 10 บาท ลดลง 0.3% GFJ12 ปิดที่ 24,650 บาท เและ GFM12 ปิดที่ 24,830บาท และ GF10J12 ปิดที่ 24,650 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,840บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 11.80 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,683.90 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 80.2 เซนต์ ปิดที่ระดับ 33.58 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,293.68 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.46 เซนต์ ปิดที่ระดับ 106.16 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 78.18 จุด ปิดที่ระดับ 12,837.33 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 50.14 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ - สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (ไอไอเอฟ) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสถาบันการเงิน 33 แห่งที่ถือครองพันธบัตรของกรีซ ได้วางแผนที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการสวอปพันธบัตร ด้วยการยอมรับการขาดทุนตามเงื่อนไขการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วพันธบัตรของรัฐบาลกรีซลง 53.5% ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยบรรเทาภาระหนี้สินสาธารณะของกรีซ รายงานของไอไอเอฟ ระบุว่า สถาบันการเงินทั้ง 33 แห่งถือครองพันธบัตรที่ยังไม่ครบไถ่ถอนของกรีซเป็นวงเงินรวมกัน 8.1 หมื่นล้านยูโร หรือคิดเป็น 39.3% ของมูลค่าพันธบัตรที่ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอนทั้งหมดที่ 2.06 แสนล้านยูโร - มีการคาดการณ์ว่า ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ อีซีบีจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน ณ ขณะนี้อยู่ที่ 2.7% ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายของอีซีบีที่ 2% ซึ่งภาวะเงินเฟ้อได้กดดันราคาน้ำมันให้เพิ่มสูงขึ้น โดยก่อนหน้านี้ภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเป็นสาเหตุที่ทำให้อีซีบีปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคสหรัฐประจำเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 8.6% สู่ระดับ 2.5123 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับของเดือนธ.ค.ที่ 2.4945 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน และสะท้อนให้เห็นว่าเริ่มมีความเชื่อมั่นและมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์ก็พร้อมที่จะปล่อยเงินกู้มากขึ้นเช่นกัน - หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังพิจารณาเรื่องโครงการซื้อพันธบัตรประเภทใหม่ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ท่ามกลางความกังวลที่ว่าหากมีการใช้มาตรการ QE เพิ่มเติมอาจยิ่งทำให้ภาวะเงินเฟ้อรวมถึงราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตามตัวแทนจากเฟด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับการซื้อขายพันธบัตรยังปฏิเสธในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเฟดจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า - สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 มี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 832,000 บาร์เรล สู่ระดับ 345.7 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1 ล้านบาร์เรล - สหรัฐ รัสเซีย จีน ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี ยอมรับข้อเสนอของอิหร่านที่ขอให้มีการหารือเรื่องนิวเคลียร์ครั้งใหม่ นอกจากนั้นอิหร่านยังจะอนุมัติให้ผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เดินทางเยือนฐานทัพในเมืองพาร์ชิน ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นสถานที่พัฒนาอาวุธ สถานการณ์ระหว่างอิหร่านและโลกตะวันตกที่ดูเหมือนจะเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้ความกังวลเรื่องภาวะอุปทานชะงักงันบรรเทาเบาบางลง ซึ่งสงผลให้ราคาน้ำมันร่วงลงในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา - ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 208,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับเพิ่มการประมาณการตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนในเดือนม.ค.เป็น 173,000 ตำแหน่ง จากเดิม 170,000 ตำแหน่ง ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน - ADP Non-Farm Employment Change เดิมอยู่ที่ระดับ 173K นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 204K ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 216K - Crude Oil Inventories เดิมอยู่ที่ระดับ 4.2M นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.0M ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงที่ระดับ 0.8M ตัวเลขเศรษฐกิจที่คาดการณ์ - Unemployment Claims เดิมอยู่ที่ระดับ 351K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 352K - ECB Press Conference เวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำในช่วงวันหยุด วันมาฆบูชาเคลื่อนตัวในทิศทางขาขึ้นลักษณะ Technical Rebound ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 1664 เหรียญ ทำจุดสูงสุดประมาณ 1685 เหรียญ เป็นลักษณะแกว่งตัวในกรอบ Technical Rebound ขาขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจเริ่มคลายความกังวลในยุโรปอีกครั้ง โดยที่คาดว่าประเทศกรีซน่าจะได้ต่ออายุเงินกู้พันธบัตรที่จะตัดสินใจในวันนี้ทำให้ค่าเงินยูโรกลับมาแข็งค่าอีกครั้งโดยยืนเหนือระดับ 1.3100 ดอลลาร์/ยูโร ณ ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 1.3139 ดอลลาร์/ยูโร ภาพรวมราคาทองคำดูเป็น Technical Rebound ยังต้องรอความชัดเจนในการที่จะยืนเหนือระดับ 1680 เหรียญให้ได้ ภาพรวมเป็นลักษณะ Sideway up ในขณะที่ค่าเงินบาทเองอยู่ในทิศทางแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในวันมาฆบูชาแข็งขึ้นกว่า 10 สตางค์ ซึ่งแข็งค่าขึ้นจากระดับ 30.80 บาท/ดอลลาร์ ณ ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 30.68 บาทบาท/ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นอุปสรรคต่อการปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำ ภาพรวมของทองคำในรูปของเงินบาท น่าจะเคลื่อนตัว Sideway ในกรอบ 24,350 — 24,600 บาท Silver — จะมีแนวรับที่ระดับ 32.60 เหรียญ และมีแนวต้านที่ระดับ 33.50 เหรียญ Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,900 บาท Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,830 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,080 บาท Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,020 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1060 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวะการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,677 — 1,690 เหรียญ เข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) เป็นลักษณะการขายทำกำไร ลดพอร์ทหลังจากเข้าช้อนซื้อ ถือครองพอร์ทประมาณ 40 % นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ยังคงเป็นการรอช้อนซื้อในจังหวะที่ราคาอ่อนตัว ถือครองพอร์ทประมาณ 50 % สรุปได้ว่า คาดว่าราคาทองคำและ Silver น่าจะเริ่มมี Rebound บ้างเล็กน้อยแต่ยังถูกค่าเงินบาทที่ยังกดดันอยู่ สำหรับนักลงทุนที่ Hedging ในอีก Series แนะนำให้ปลด Short Position ออกไปก่อน และยังคงถือ Long Position ในช่วงนี้ บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ