กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--เซ็นจูรี่ 21
“เซ็นจูรี่ 21” จับมือ “คณะสถาปัตย์ฯ ม.ธรรมศาสตร์” เจาะลึกพฤติกรรมเลือกซื้อที่อยู่อาศัยหลังน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 ระบุชัดปัญหาน้ำท่วม ไม่มีผลต่อการหาที่อยู่ใหม่ 63% ส่วนคิดจะย้ายหนีอยู่ที่ 34% รูปแบบ “บ้านเดี่ยว” มีความต้องการสูงสุด 47.40% รองลงมาเป็นคอนโดมิเนียม 33.40% ด้าน “ผู้หญิง” อยากอยู่คอนโดมิเนียมมากกว่าผู้ชาย ขณะที่ทำเล 50%เลือกอาศัยเขตกทม. พร้อมเน้นแนวรถไฟฟ้าทั้งMRT และBTS เป็นหลัก ส่วนบ้านราคา 1-2 ล้านยังมาแรง มีสัดส่วน ใกล้เคียงกับราคา 2-4 ล้าน และกว่า 51.20% ต้องการให้รัฐบาลสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมแบบยั่งยืน รองลงมา คือการลดอัตราดอกเบี้ย 48.30% รวมทั้งเรื่องลดค่าธรรมเนียมและภาษีด้านอสังหาริมทรัพย์ 33.80%
นายชนะ นันทจันทูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทเซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด (Century 21) เปิดเผยว่า ในฐานะที่บริษัทเป็นที่ปรึกษาทางด้านงานขาย จึงได้ร่วมมือกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัดทำผลสำรวจ หรือ โพลล์ขึ้นเพื่อต้องการสะท้อนปัญหาอุทกภัย หรือน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมาว่าจะมีผลอย่างไร หรือไม่กับการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในอนาคต
ทั้งนี้ ตัวอย่างจากการสำรวจครั้งนี้เป็นประชาชนทั้งหญิงและชาย จำนวน 1,214 ราย อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี โดยมีประชาชนที่สำรวจอาศัยในพื้นที่กรุงเทพมากที่สุด 74.70% ปทุมธานี 13.70% และนนทบุรี 13% เป็นการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (simple random sampling) และวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณา
อย่างไรก็ดี สรุปได้ว่า มีความต้องการที่จะซื้อหรือคิดจะหาที่อยู่อาศัยใหม่เพราะอุทกภัยเพียง ร้อยละ 34 และไม่ต้องการ ร้อยละ 63 และไม่ขอระบุคำตอบ ร้อยละ 3 ส่วนรูปแบบที่อยู่อาศัยที่แสดงความต้องการมากสุดอยู่ในรูปแบบบ้านเดี่ยว ร้อยละ 47.40 อาคารชุดหรือคอนโดมิเนียม ร้อยละ 33.40 ทาวเฮ้าส์ ร้อยละ 13.40 และไม่ขอระบุคำตอบ ร้อยละ 5.30
นอกจากนี้ตัวอย่างจากการสำรวจระบุว่า หากจะซื้อหรือคิดจะหาที่อยู่อาศัยใหม่จะใช้วงเงิน 1-2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 38.40 รองลงมาคือ วงเงิน 2-4 ล้านบาท ร้อยละ 37.70 ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ร้อยละ 10.80
นายชนะกล่าวต่อว่า แบบสอบถามระบุถึงความคิดเห็น และคาดหวังจะให้รัฐบาลช่วยเหลือผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยจากผลสำรวจระบุว่า ต้องการให้รัฐบาลควรช่วยเหลือในเรื่องการสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมอย่างยั่งยืน ร้อยละ 51.20
นอกจากนี้ยังต้องการให้ช่วยเรื่อง อัตราดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 48.30 ขณะที่ประเด็นการลดค่าธรรมเนียมและภาษีด้านอสังหาริมทรัพย์ มีอยู่ร้อยละ 33.80 รวมทั้งอนุมัติวงเงินกู้มากขึ้น ร้อยละ 19.50 และอื่นๆ ร้อยละ 0.10 เช่น ปลอดดอกเบี้ย หรือดอกเบี้ย 0% ประมาณ 2-5 ปี หรือใช้ระบบอยู่ฟรี 5 ปีแบบอิสราเอล หรือให้กู้ได้ 100% พักการชำระชั่วคราว เพิ่มระยะเวลาการผ่อน ประกาศพื้นที่เขตรับน้ำให้ชัดเจน เป็นต้น
ทั้งนี้นายชนะกล่าวต่อว่า เมื่อทำการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างเพศและรูปแบบบ้านที่ต้องการแล้ว “เพศชายต้องการรูปแบบบ้านเดี่ยว ขณะที่เพศหญิงต้องการรูปแบบบ้านอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียม รวมทั้งเพศชายต้องการจะซื้อในวงเงิน 1-4 ล้านบาท ขณะที่เพศหญิงต้องการจะซื้อในวงเงิน 1-2 ล้านบาท”
ท้ายที่สุดนี้ ทาง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และบริษัทเซ็นจูรี่ 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ ประเทศไทย จำกัด จะดำเนินการจัดทำผลสำรวจประชามติ (โพลล์) ในทุกๆเดือน และจะเป็นประเด็นที่สำคัญในด้านอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ สมาคม และบุคคลทั่วไป