กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--สหมงคลฟิล์ม
The Good Doctor
ประเภท Thriller / Drama
กำหนดฉาย 8 มีนาคม 2012
จัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์
อำนวยการสร้าง โจนาธาน คิง (The Beaver, Contagion, Dreamgirls)
กำกับ แลนซ์ เดลี่ (Kisses, The Halo Effect)
เขียนบท จอห์น เอนบอม (Veronica Mars, Party Down)
นำแสดง ออแลนโด้ บลูม (Pirates of the Caribbean 1-3, Lord of the Rings 1-3)
ไรลี่ คีโอ (The Runaways)
ทาราจิ พี เฮนสัน (The Karate Kid, Hustle & Flow)
ไมเคิล เพน่า (Crash, Battle Los Angeles)
เนื้อเรื่อง
มาร์ติน (ออแลนโด้ บลูม) คุณหมอหนุ่มที่เงียบขรึมและเก็บตัว ในช่วงปีแรกของการเป็นแพทย์ฝึกหัด เขาพยายามทำให้ทุกคนในโรงพยาบาลประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าทีมแพทย์ เวย์แลนด์ (ร็อบ มอร์โรว์), แดน (ทรอย แกริตี้) แพทย์ฝึกหัดที่มั่นใจในตัวเอง และ เทเรซ่า (ทาราจิ พี เฮนสัน) นางพยาบาลที่จริงจังกับงานที่ทำ แต่ดูเหมือนทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ มาร์ติน คาดหวังเอาไว้เมื่อ ไดแอน (ไรลี่ คีโอ) คนไข้สาวเข้ามารักษาอาการไตติดเชื้อ เธอก็ได้มอบความมั่นใจในตัวเองให้ มาร์ติน เขาชอบที่ได้เป็นแพทย์ผู้ดูแลเธอและเริ่มที่จะมีความรู้สึกดีๆกับเธอ อย่างไรก็ตามความกระตือรือล้นของเขาก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นความหลงไหลก้าวล้ำเกินจรรยาบรรณแพทย์ เมื่ออาการของ ไดแอน กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ มาร์ติน ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะเสียเธอไป...
พบกับการแสดงที่ดีที่สุดในชีวิตของ ออแลนโด้ บลูม นักแสดงจากไตรภาค Pirates of the Caribbean และ Lord of the Rings ร่วมแสดงกับ ไรลี่ คีโอ หลานสาวของ เอลวิส เพรสลีย์ ซึ่งเคยมีผลงานการแสดงมาแล้วใน The Runaways และยังมีทีมนักแสดงสมทบคุณภาพอย่าง ทาราจิ พี เฮนสัน (Hustle & Flow, The Karate Kid), ทรอย แกริตี้ (Sunshine, Barbershop), ร็อบ มอร์โรว์ (ซีรี่ย์ Numb3rs) และ ไมเคิล เพน่า (Crash, Battle Los Angeles) หนังกำกับโดย แลนซ์ เดลี่ (Kisses, The Halo Effect) จากบทภาพยนตร์ของ จอห์น เอนบอม (Veronica Mars, Party Down) และอำนวยการสร้างโดย โจนาธาน คิง (The Beaver, Contagion, Dreamgirls)
จุดเริ่มต้น
The Good Doctor ถูกพัฒนาโดยสามผู้อำนวยการสร้าง แดน เอเธอริดจ์, โจนาธาน คิง และ จูเลีย เลเบดอฟ ที่ทำงานร่วมกับ จอห์น เอนบอม อย่างใกล้ชิด โดยเขาเป็นผู้เขียนบทที่มีผลงานในซีรี่ย์คุณภาพอย่าง Party Down และ Veronica Mars โดย แดน เอเธอริดจ์ เล่าว่า "จอห์น มอบบท The Good Doctor ให้พวกเราอ่านเป็นคนแรก และเมื่ออ่านจบเราก็รู้ทันทีว่าต้องทำให้เป็นหนัง"
ผู้อำนวยการสร้าง โจนาธาน คิง อธิบายถึงสเน่ห์ของบทภาพยนตร์ว่า "ผมคิดว่าบทมีความบริสุทธิ์ และยังเป็นเรื่องราวที่เข้าถึงคนดูได้ การกระทำของทุกคนจะแตกต่างไปจากความคาดหวังของคุณ ทุกอย่างถูกเล่าผ่านตัวละครที่ทุกคนจะไม่มีวันลืมอย่าง ดร. มาร์ติน เบลค"
ชารอน มิลเลอร์ ที่เป็นหุ้นส่วนกับ ออแลนโด้ บลูม ในบริษัทสร้างหนังของเขา Viddywell ได้อ่านบทภาพยนตร์ และแนะนำให้ บลูม ได้ทำความรู้จักกับมัน จนในที่สุด บลูม ก็ได้อ่านและตัดสินใจเป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง รวมถึงเข้ามารับบทเป็น มาร์ติน อีกด้วย
ขั้นต่อไปก็คือการหาผู้กำกับที่เหมาะสม บลูม ได้พบกับผู้กำกับชาวไอริช แลนซ์ เดลี่ ในงานพรีเมียร์ของเขาเรื่อง Kisses และเขาก็ชอบหนังมาก ออแลนโด้ บลูม พูดถึงการเลือกผู้กำกับคนนี้ว่า "Kisses ทำให้ผมทึ่ง เพราะในขณะที่หนังมีความมืดหม่นแต่มันก็เปี่ยมไปด้วยความหวัง เมื่อผมได้อ่านบท The Good Doctor ผมก็นึกไม่ออกเลยว่าจะมีผู้กำกับคนไหนเหมาะสมไปมากกว่าเขา แลนซ์ เป็นคนที่เล่าเรื่องด้วยภาพได้อย่างน่าทึ่ง ไม่มีห้อง หน้าต่าง หรือกำแพงในโรงพยาบาลที่ไม่ถูกใช้เต็มประสิทธิภาพ ไม่มีตัวละคร บทสนทนา หรือสถานการณ์ใดที่ถูกใช้อย่างสูญเปล่า เขาคือคนที่เหมาะที่สุด"
แลนซ์ เดลี่ อธิบายเหตุการณ์กว่าที่เขาจะได้อ่านบทภาพยนตร์ โดยหลังจากที่ได้รับบทภาพยนตร์จาก ออแลนโด้ บลูม เขาก็ไม่มีโอกาสหยิบมาอ่าน จนกระทั่งระหว่างการเดินทางจากซานฟรานซิสโกไปยังดับบลิน เขาตกเครื่องและทำให้ได้พบกับ บลูม ในนิวยอร์ค ก่อนที่ บลูม จะทักเรื่องบทภาพยนตร์เรื่อง The Good Doctor และทำให้ เดลี่ สัญญากับเขาว่าจะอ่านเมื่อกลับไปยังบ้านที่กรุงดับบลิน
เดลี่ พูดถึงบทภาพยนตร์ว่า "ผมรู้สึกผิดอย่างร้ายแรงที่ไม่ได้อ่านมันให้เร็วกว่านี้ เพราะนี่คือบทที่เขียนได้อย่างยอดเยี่ยมโดย จอห์น เอนบอม มันทำให้ผมมีการตอบสนองกับบทระหว่างที่อ่าน สร้างความแปลกใจได้ตลอดเวลา และยังทำให้ผมต้องตระโกนใส่หน้ากระดาษในช่วงท้ายๆ (หัวเราะ) ผมชอบคลุมเครือทางศีลธรรมที่ปรากฏอยู่ในบท และก็นั้นคือแนวทางที่ผมอยากให้คนดูตอบสนองกับหนังเรื่องนี้"
การคัดเลือกนักแสดง
หลังจาก ออแลนโด้ บลูม เข้ามารับบทป็น ดร. มาร์ติน เบลค ทีมผู้สร้างและผู้กำกับ แลนซ์ เดลี่ ก็ได้รวบรวมทีมนักแสดงคุณภาพ ที่มีทั้งนักแสดงมากประสบการณ์และนักแสดงหน้าใหม่กำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็น ร็อบ มอร์โรว์, ทาราจิ พี เฮนสัน, ไมเคิล เพน่า, ทรอย แกริตี้, เจ เค ซิมม่อนส์ และ ไรลี่ คีโอ
นักแสดงทุกคนต่างก็รู้สึกเหมือนกันว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้พวกเขาตอบตกลงก็คือบทภาพยนตร์ของ เอนบอม โดย ร็อบ มอร์โรว์ เล่าว่า "ผมอ่านบทรวดเดียวจบเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก ผมรู้สึกทึ่งไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผมเดาไม่ออกเลยว่าเรื่องจะลงเอยแบบไหน และก็รู้สึกแปลกใจตลอด ทันทีที่อ่านจบผมก็กระโดดใส่โอกาสนี้ทันที"
ออแลนโด้ บลูม พูดถึงการเข้ามารับบทนำว่า "ผมรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายในการเข้ามารับบทเป็นผู้ชายคนนี้ สิ่งที่ทำให้ผมสนใจในตัว มาร์ติน ก็คือ เขามีข้อบกพร่องที่พวกเราทุกคนเชื่อมถึงได้ ผมคิดว่าพฤติกรรมของเขาสะท้อนให้เห็นถึงด้านมืดที่อยู่ในจิตใจของเรา ที่ไม่เอ่ยออกมาเป็นคำพูด หรือว่าไม่อยากให้คนอื่นรู้ การกระทำของ มาร์ติน ออกมาจากสัญชาตญาณโดยที่ไม่ได้คิดถึงผลกระทบ ผมคิดว่านั้นแหละคือสิ่งที่อยู่ในสมองของพวกเราทุกคน และเราก็พยายามกดมันไว้ไม่ให้ออกมา"
ความสนใจของ ทรอย แกริตี้ ก็คือการรับบทเป็นแพทย์ฝึกหัดไร้คุณภาพในโรงพยาบาล เขาเล่าว่า "ผมรู้สึกวิตกทุกครั้งเมื่อไปโรงพยาบาล เพราะผมต้องฝากชีวิตเอาไว้กับมนุษย์อีกคน ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ถ้ามนุษย์คนนั้นเป็นแอปเปิ้ลเน่า หรือว่าเป็นพวกสติไม่มั่นคงล่ะ ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้นำความรู้สึกนั้นมาเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
ทาราจิ พี เฮนสัน นักแสดงที่เคยเข้าชิงออสการ์จาก Hustle & Flow มีสองเหตุผลในการตัดสินใจเข้ามารับบทเป็นหัวหน้าพยาบาลว่า "ฉันได้อ่านบทภาพยนตร์และคิดว่ามันทั้งบ้าและกล้ามาก ฉันต้องการเป็นส่วนหนึ่งของมัน และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือการได้ทำงานกับ ออแลนโด้ ที่ทำให้ฉันเคลิ้มทุกครั้งที่มองหน้าเขา (หัวเราะ)"
การคัดเลือกนักแสดงที่เข้ามารับบทเป็น ไดแอน ถือเป็นองค์ประกอบสิ่งที่สำคัญของหนัง ผู้กำกับ แลนซ์ เดลี่ เล่าว่า "ทุกคนมีความเห็นที่แตกต่างกันในการเลือกนักแสดง แต่ตัวละครที่จะตัดสินว่าหนังมีความสมบูรณ์หรือไม่ก็คือ ไดแอน มันเหมือนเกมเดิมพันที่เราต้องหาให้เจอก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำ และสุดท้ายแล้วเราก็เจอกับนักแสดงในฝันอย่าง ไรลี่ คีโอ"
ออแลนโด้ บลูม รู้สึกชื่นชมนักแสดงดาวรุ่งที่เป็นหลานสาวของ เอลวิส เพรสลี่ย์ คนนี้ เขาพูดถึงเธอว่า "ถึงแม้ว่า ไรลี่ เคยมีผลงานก่อนหน้ามาแค่เรื่องเดียว แต่การรับบทนำหญิงครั้งแรกเธอก็ทำเหมือนนักแสดงที่อยู่ในวงการมานาน เธอมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ปรากฏตัวเมื่อใด ทุกอย่างก็จะดูสว่างไสวขึ้น"
คีโอ พูดถึงการทำงานในเรื่องนี้ว่า "ฉันโชคดีที่ได้ทำงานกับผู้กำกับอย่าง แลนซ์ ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี เขามีวิธีที่ทำให้ฉันเข้าใจสิ่งที่อยู่ในใจของ ไดแอน รวมถึงการได้ดูนักแสดงทุกคนทำงานก็ยอดเยี่ยม ทำให้มันเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับฉันมากขึ้น ฉันคงไม่ขออะไรไปมากกว่านี้"
ทรอย แกริตี้ ก็ได้กล่าวชื่นชมถึงตัวผู้กำกับว่า "แลนซ์ เป็นผู้กำกับหนุ่มที่ยอดเยี่ยม และมีความชัดเจนในแนวทาง เขามักจะปล่อยให้พวกเราแสดงไปตามธรรมชาติ หรืออย่างที่ตัวละครควรรู้สึก เขาคอยสนับสนุนนักแสดงให้ปลดปล่อยศักยภาพที่ดีที่สุดออกมา และมอบแนวทางที่ชัดเจนในพฤติกรรมของตัวละคร มันยอดเยี่ยมที่ได้ทำงานร่วมกับเขา"
เดลี่ ก็รู้สึกพอใจในการทำงานร่วมกับนักแสดงทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตารางการถ่ายทำที่ใช้เวลาเพียงแค่ 25 วัน "นักแสดงทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน พวกเขามีความอดทนและเป็นมืออาชีพ ออแลนโด้ ไม่เคยปริปากบ่นเมื่อพวกเราต้องปรับเปลี่ยนบางอย่างภายในฉาก เขาจะยืนนิ่งอยู่กับที่เพื่อความต่อเนื่องในขณะที่พวกเราทำงาน ผมคิดว่านี่คือความทุ่มเทของเขา และผมเชื่อว่านี่คือบทบาทที่เขาแสดงได้ยอดเยี่ยมที่สุด"
เบื้องหลังการถ่ายทำ
ถึงแม้หนังจะใช้เวลาในการพัฒนาอย่างยาวนาน แต่เมื่อเริ่มกระบวนการพรี-โปรดักชั่นแล้ว ทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยการเตรียมงานสร้างเกิดขึ้นในเดืออตุลาคม ปี 2009 ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2010 ถึงแม้ตารางการถ่ายทำจะแน่น แต่สไตล์การถ่ายทำของ เดลี่ ที่รวดเร็วฉับไว และทีมนักแสดงที่รู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี ก็ทำให้การถ่ายทำเสร็จสิ้นภายในเวลาแค่ 25 วัน
The Good Doctor เกิดเรื่องราวในโรงพยาบาล การหาสถานที่ที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยตามแผนของผู้กำกับ แลนซ์ เดลี่ ในตอนแรกก็คือการสร้างฉากขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจหาโรงพยาบาลของจริงเพื่อใช้ถ่ายทำ แดน เอเธอริดจ์ หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างเล่าว่า "มันสำคัญเพราะทั้งการใช้สอยและการสร้างสรรค์ มีอุปกรณ์และบรรยากาศในโรงพยาบาลที่ทุกคนคุ้นเคย ดังนั้นการที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมดก็อาจดูไม่สมจริง ยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการสร้างทุกอย่างใหม่ทั้งหมด สุดท้ายแล้วเราจึงต้องหาโรงพยาบาลเพื่อใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ"
ในตอนแรกทีมผู้สร้างก็ได้ออกหาโรงพยาบาลที่ปิดตัวในแถบภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ แต่สุดท้ายแล้วเมื่อรัฐแคลิฟอร์เนียมีการลดหย่อนภาษีในการถ่ายทำภาพยนตร์ พวกเขาจึงเลือกที่จะถ่ายทำในฮอลลิวู้ด โดยไปใช้โรงพยาบาล เซนจูรี่ ซิตี้ ที่เพิ่งปิดตัวลงไปเป็นสถานที่หลักของเรื่อง
ทาราจิ พี เฮนสัน ก็ได้พูดถึงสถานที่ถ่ายทำว่า "มันให้ความรู้สึกสมจริงเมื่อเราได้ถ่ายโรงพยาบาลของจริง และมันก็สร้างความรู้สึกกลัวอีกด้วย เพราะคุณจะไม่รู้ว่ามีใครเสียชีวิตบนเตียงนี้หรือไม่" ออแลนโด้ บลูม กล่าวเสริมว่า "ผมมีเพื่อนที่มาเยี่ยมในกองถ่าย เขาบอกผมว่าเคยมาผ่าตัดในห้องที่เรากำลังถ่ายทำด้วย มันมอบความรู้สึกร่วมในการแสดงให้กับคุณ"
ทีมนักแสดง
ออร์แลนโด บลูม (รับบทเป็น ดร. มาร์ติน เบลค)
ออร์แลนโด บลูม เป็นนักแสดงชาวอังกฤษ เขาสร้างชื่อจากการแสดงใน The Lord of the Rings หนังมหากาพย์ไตรภาคของผู้กำกับ ปีเตอร์ แจ็คสัน ในบทเอลฟ์หนุ่ม เลโกลัส รวมถึงหนังโจรสลัดเรื่องยิ่งใหญ่ Pirates of the Caribbean ถึงสามภาค ที่เขานำแสดงร่วมกับ จอห์นนี่ เด็ปป์ และ เคียร่า ไนท์ลี่ย์ โดยรับบทเป็น วิล ช่างตีเหล็กที่ได้ออกไปผจญภัยร่วมกับกัปตัน แจ็ค สแปร์โรว์
นอกจากการเป็นส่วนหนึ่งของสองแฟรนไชส์บล็อคบัสเตอร์ ผลงานคุณภาพเรื่องอื่นๆของ บลูม ก็ยังมี The Three usketeers 3D ของผู้กำกับ พอล ดับบลิวเอส แอนเดอร์สัน, Troy หนังมหากาพย์ปี 2004 ที่เขาร่วมแสดงกับ แบรด พิตต์ และ เอริค บาน่า, Kingdom of Heaven หนังแอคชั่นย้อนยุคเรื่องยิ่งใหญ่ของผู้กำกับ ริดลี่ย์ สก็อตต์ ที่เขารับบทนำ โดยก่อนหน้านี้ บลูม ก็ได้ร่วมงานกับ สก็อตต์ ในหนังสงครามเรื่อง Black Hawk Down
ผลงานเรื่องอื่นๆของ บลูม ก็ยังมี Ned Kelly ที่แสดงคู่กับ ฮีธ เลดเจอร์, The Calcium Kid ที่เขารับบทเป็นนักมวยที่ต้องดิ้นรนในอังกฤษ, Haven ที่เขาร่วมแสดงกับ โซอี้ ซัลดาน่า และ Elizabethtown หนังโรแมนติกของผู้กำกับ คาเมรอน โครว์ ที่เขารับบทนำคู่กับ เคียร์สเท่น ดันส์ท
บลูม เกิดในแคนเทอเบอร์รี่ ประเทศอังกฤษ เมื่ออายุได้ 16 ปี ได้ย้ายมาลอนดอน เขาได้ร่วมแสดงใน National Youth Theatre เป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่จะได้รับบทนำในเรื่อง A Walk in the Vienna Woods ต่อมาในปี 1998 เขามีชื่อเสียงเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง Wilde ที่หยิบเอาเค้าโครงเรื่องมาจากชีวประวัติของ ออสการ์ ไวล์ด ก่อนที่เขาจะตัดสินใจมุ่งหน้าเข้ามาในฮอลลิวู้ด
ไรลี่ คีโอ (รับบทเป็น ไดแอน)
เธอเป็นลูกสาวของ ลิซ่า มารี เพรสลีย์ ลูกสาวคนเดียวของราชาร็อคแอนโรล์ เอลวิส เพรสลีย์ ในปี 2004 ทั้งโลกก็ได้เห็นเธอเมื่อ แอนนี เลโบวิตช์ ช่างภาพแฟชั่นในตำนานก็ได้ถ่ายเธอปกลงนิตยสาร Vogue คู่กับแม่และ พริสซิลลา เพรสลีย์ คุณยายของเธอ รวมถึงการได้รับเชิญจาก Dolce and Gabbana เพื่อเข้าเดินแบบงานแฟชั่นวีคที่มิลานในปีเดียวกัน ทำให้ ไรลี่ กลายเป็นที่รู้จักของทุกคนในวงการแฟชั่น
ไรลี่ กลายเป็นไอค่อนของวงการแฟชั่น โดยเดินแบบให้กับ Dolce and Gabbana และ Christian Dior รวมถึงการถ่ายโฆษณาและทำแคมเปญให้กับแบรนด์ดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น David Yurman, Mango และ Christian Dior ซึ่งเธอทำสัญญาด้วยอยู่ถึงสี่ซีซั่น
หลังจากประสบความสำเร็จในแวดวงแฟชั่น ไรลี่ ก็เริ่มให้ความสนใจในวงการภาพยนร์ ในปี 2009 เธอก็ได้แสดงหนังเป็นเรื่องแรกใน The Runaways ประกบคู่กับ คริสเต็น สจ๊วต และ ดาโกต้า แฟนนิ่ง ก่อนที่ในปี 2010 ไรลี่ ก็ได้ก้าวขึ้นมารับบทนำเป็นครั้งแรกในเรื่อง The Good Doctor ประกบคู่กับ ออแลนโด้ บลูม
ทาราจิ พี เฮนสัน (รับบทเป็น เทเรซ่า)
ผลงาน >>> Hustle & Flow, The Karate Kid, The Curious Case of Benjamin Button
ทรอย แกริตี้ (รับบทเป็น แดน)
ผลงาน >>> Sunshine, Barbershop, Soldier Girl, My One and Only
ร็อบ มอร์โรว์ (รับบทเป็น เวย์แลนด์)
ผลงาน >>> ซีรี่ย์ Numb3rs, The Bucket List, Quiz Show, The Emporor's Club
ไมเคิล เพน่า (รับบทเป็น จิมมี่)
ผลงาน >>> Crash, Battle Los Angeles, Tower Heist, The Lucky Ones
ทีมผู้สร้าง
แลนซ์ เดลี่ (ผู้กำกับ)
ผลงาน >>> Kisses, The Halo Effect
จอห์น เอนบอม (ผู้เขียนบท)
ผลงาน >>> Veronica Mars, Party Down
โจนาธาน คิง (ผู้อำนวยการสร้าง)
ผลงาน >>> The Beaver, Contagion, Dreamgirls, The Crazies,
ยารอน ออแบช (ผู้กำกับภาพ)
ผลงาน >>> Please Give, The Joneses, The Ward
ไบรอัน เบิร์นส (ผู้ประพันธ์เพลง)
ผลงาน >>> In America, The Spirit, The Good Thief